ตอนผมไปตรวจพบเป็น ความดันโลหิตสุง หมอให้ยามาทาน 2ตัว ตัวแรกที่กินไปเป็นยาแก้ปวด แต่กินไป ประมาณ 3ชม. มีอาการอาเจียนกินอะไรเข้าไปก็อาเจียนออก จึงไปหาหมอในอีกวัน หมอแจ้งว่ายาแก้ปวดทรงผลให้มีอาการอาเจียน หมอจึงให้หยุดกินและจ่ายยาตัวใหม่มาแทน แต่ไม่ได้เปลี่ยนยาลดความดัน วันต่อมาก็กินปกติ แตช่วงสายๆมีอาการปวดหัวนิดหน่อย พอกินในวันถัดมา สายๆก็มีอาการเดิม แต่ต้องป้วนน้ำลายทิ้งตลอดเวลา และเหมือนมีใข้จึงไปพอหมออีกที หมอแจ้งเป็นอาการแรกเริมของไขหวัด จึงให้ยามาทาน.ลงอาการในใบรับรองว่า คออักเสษ ผมควรหยุดทานยามั้ยครับ

สวัสดีค่ะ
หากมีชื่อยามาให้จะเป็นประโยชน์มากค่ะ
จากการฟังอาการเบื้องต้น ผู้ถามมี 2 โรคที่แพทย์กำลังรักษาอยู่ คือ ความดันโลหิตสูง (ที่เพิ่งเริ่มยา) และมไข้หวัด คออักเสบ (ที่เพิ่งมีอาการอีกเช่นกัน)
สำหรับอาการปวดศีรษะ เป็นอาการเริ่มต้นของโรคความดันโลหิตสูงได้ค่ะ ลองรับประทานยาลดความดันโลหิตติดต่อกันตามแพทย์สั่งซักพัก สามารถร่วมกับทานยาพาราเซตามอลแก้ปวดศีรษะ ทานเฉพาะเมื่อมีอาการ อาการปวดศีรษะและความดันโลหิตจะดีขึ้นค่ะ

สำหรับอาการของไข้หวัด คออักเสบ ไม่จำเป็นต้องหยุดยาค่ะ สามารถทานร่วมกับยาความดันโลหิตได้ค่ะ สามารถทานยาลดไข้ทุก 4-6 ชม เช็ดตัวลดไข้ ทานยารักษาตามอาการไปก่อนได้ เช่น ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก หรือเจ็บคอให้จิบน้ำอุ่นบ่อยๆค่ะ
ที่สำคัญที่สุดคือต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะจะทำให้ภูมิต้านทานทำงานดีขึ้น หายไวขึ้นค่ะ
อย่าลืมสังเกตอาการ หากปฏิบัติตามที่แนะนำแล้วยังควมีไข้อยู่ มีอาการอื่นๆเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น ถ่ายเหลว ไอมีเสมหะ เจ็บคอ ปวดท้อง ผื่นขึ้น ปวดข้อ เป็นต้น ให้ไปพบแพทย์ที่ รพค่ะ

สุดท้าย อาการคลื่นไส้อาเจียน เป็นผลข้างเคียงส่วนใหญ่ของการเริ่มยาตัวใหม่หลายๆตัวค่ะ กรณีของผู้ถามหากลองหยุดยาแก้ปวดตัวแรกตามแทพย์บอกแล้ว อาการดีขึ้น แสดงว่าเป็นผลข้างเคียงของยาตัวนั้นได้ค่ะ แต่หากยังมีอาการอยู่ ลองกลับไปที่ รพ เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสมค่ะ

ยาความดัน felodipine มีผลไม่พึงประสงค์ที่สำคัญคือ ปวดศีรษะค่ะ พบได้ถึง 10% (อ้างอิง med scape ; felodipine) ทั้งนี้ ตัวโรคความดันโลหิตสูง ก็ทำให้มีอาการปวดศีรษะได้ค่ะ
ยา rulid เป็นยาฆ่าเชื้อ ตัวนี้ทานให้หมดตามแพทย์สั่งนะคะ
ตัว 2,3,4 เป็นยาบรรเทาตามอาการ ทานได้เมื่อมีอาการค่ะ
แนะนำกลับไป รพ แจ้งแพทย์ถึงผลอันไม่พึงประสงค์ของ felodipine เพื่อปรับเปลี่ยนยาให้เหมาะสมค่ะ