สวัสดีค่ะ อยากปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับพี่ชายค่ะ ตอนนี้พี่อายุจะ30แล้วและทำงานธุรกิจที่บ้าน ทุกวันนี้มีปัญหากันเรื่องการใช้ชีวิตของพี่ที่สนใจแต่ความเป็นอยู่ของตัวเอง เวลาทะเลาะกับใครจะไม่มองว่าตัวเองผิด จะมีเหตุผลของตัวเองเสมอ ล่าสุดพี่ทะเลาะกับแม่เพราะพี่ตื่นสายจึงออกจากบ้านช้า ระหว่างทางพี่ก็โดนแม่ว่าแต่ก็เถียงกลับไม่หยุดจนครั้งนี้แม่โกรธมากและโยนของใส่ พี่เลยด่าแม่ด้วยคำหยาบ พอคนอื่นมาคุยก็ไม่ได้มองว่าตัวเองผิดที่ด่าแม่และเถียงกลับว่าทีคนอื่นยังออกจากบ้านสายได้ แต่พี่ไม่ได้มองถึงเหตุผลที่คนอื่นสายเพราะแม่ต้องจัดการเรื่องที่บ้านก่อน พอทะเลาะกันครั้งนี้คนที่บ้านจึงตัดสินใจให้พี่ออกไปอยู่คอนโดที่มีญาติอยู่ และออกไปทำงานข้างนอก จะได้รู้ว่าคนอื่นใช้ชีวิตกันยังไงและมองตัวเองมากขึ้น แต่กลัวว่าพี่จะเป็นโรคซึมเศร้าและคิดว่าตัวเองโดนไล่ให้ไปอยู่คนเดียวทั้งที่ตัวเองไม่ผิด ควรลองให้พี่ไปอยู่คนเดียวไหมคะ?

จากปัยหาดังกล่าว แนะนำให้จับเข่าคุยกันดีๆ ตอนคุยต้องมีคนกลาง ให้แต่ละฝ่ายพูดความรู้สึกออกมา บอกเหตุผลที่ต้องโกรธหรือทะเลาะกัน ให้พูดทีละคน ระหว่างที่คนหนึ่งคนใดกำลังพูดอยู่อีกฝ่ายห้ามพูดแทรก ควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้ เมื่อได้พูดครบสองฝ่ายก็หาข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายพอใจ แม่อยากให้ลูกปรับปรุงอะไร และลูกอยากให้แม่ปรับปรุงอะไร

การที่จะใช้วิธีนี้ได้ ทุกคนในครอบครัวจะต้องลดอคติที่มีต่อกันก่อนจึงจะสามารถหาข้อยุติที่ดีกับทุกคนได้ค่ะ
แต่หากพี่ชายเป็นคนที่ไม่ยอมรับฟังความคิดคนอื่น แบบนี้อาจเป็นความผิดปกติของบุคลิกภาพบางอย่าง ซึ่งควรได้รับการแก้ไขด้วยวิธีที่เหมาะสม การที่สั่งให้พี่ชายไปอยู่คนเดียวอาจจะไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ดีนัก ยังไงลองพูดคุยกับพี่ชายดูก่อนว่า ตอนนี้เราเห็นพี่เปลี่ยนไป พี่ก้าวร้าว ขี้โมโห ควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี การที่พี่เป็นแบบนี้มันส่งผลต่อความรู้สึกของพี่ ของคนในครอบครัวยังไง ลองให้พี่ชายคิดดู ถ้าเขาคิดไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้เขาตัดสินใจว่าจะจัดการตัวเองกับปัญหานี้อย่างไร ทีนี้เราก็แค่ยอมรับในสิ่งที่เขาเลือก จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ตัวหนูเองก็ควรทำใจปล่อยวางบ้าง ปัยหาบางอย่างในครอบครัวหนูไม่สามารถจัดการมันได้นะคะ แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจ ยอมรับปัญหา และปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขนะคะ

พี่หนูใช้สารเสพติดด้วยมั้ยคะ เพราะสารเสพติดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อารมณ์และพฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป คือถ้าเป็นปัญหามากๆ หาญาติหรือใครก็ได้ลองพูดคุยโน้มน้าวเพื่อให้เขาได้รับการรักษา อาจจะอัดคลิปเวลาที่เขาก้าวร้าวหรือทำบางอย่างที่คนในครอบครัวไม่เห้นด้วย จากนั้นเวลาคุยกันก็ต้องเอาคลิปสะท้อนให้เขาดูพฤติกรรมที่เขาแสดงออกมาถ้าเขายอมรับคนในครอบครัวต้องให้กำลังใจและแนะนำการบำบัดรักษาเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมค่ะ แต่หากจำนนด้วยคลิปแล้วยังไม่ยอมรับ เราก้ทำอะไรเขาไม่ได้มันเป็นสิทธิ์ของเขาว่าเขาจะเลือกเป็นแบบนี้หรือเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่น่ารัก..ตัวหนูเองทำหน้าที่ของตัวเองไปให้ดีที่สุดใครจะเป็นอย่างไรก็พยายามทำใจ เป็นกรรมของเขา เขาเลือกที่จะเป็นแบบนั้น โดยที่ทุกคนในครอบครัวพยายามช่วยแล้วและทำดีที่สุดแล้ว บางอย่างทุกสิ่งในโลกนี้เราไม่อาจควบคุมหรือบังคับอะไรได้ แม้แต่ตัวเราเองบางครั้งเราพยายามควบคุมไม่ให้ทำบางอย่างแต่สุดท้ายมันก้อาจมีเผลอที่ไปทำสิ่งเหล่านั้นได้ ฉะนั้นตัวคนอื่น หรือสิ่งอื่นใดในโลกนี้หนูต้องทำความเข้าใจกับมันให้ได้ว่ามันอยู่นอกเหนือการควบคุม