น้องแมวมีอาการตั้งแต่ทำหมัน เกี่ยวกันมั้ยค่ะ ที่จะผอม เดินโยกเยกไม่มีแรง ตรวจเลือดแล้วปกติทุกอย่าง เดินแล้วจะล้มตลอดเวลา สาเหตุมันเกิดจากอะไรได้บ้างค่ะ

อายุเท่าไหร่คะ แมวเพศอะไร พันธุ์อะไร น้ำหนักกี่กิโลคะ ค่าเลือดที่ตรวจมีค่าเลือดอะไรบ้างคะ กินอาหารได้ปกติหรือไม่ค่ะ อาการเป็นหลังจากทำหมันนานเท่าไหร่ สาเหตุที่ทำให้ผอมลงเกิดได้จาก
1. คุณภาพและปริมาณอาหารไม่เพียงพอ
2. ป่วยเป็นโรคอื่นๆ เช่น พยาธิในเม็ดเลือด โรคตับ โรคไต มดลูกอักเสบ เบาหวาน มีปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะ เนื้องอกหรือมะเร็ง เป็นต้น อาจจะมีอาการอื่นร่วม เช่น ซึม ไม่กินอาหารหรือกินน้อยลง อาจมีอาการอาเจียน ท้องเสียร่วมค่ะ
3. มีปัญหาในช่องปาก เช่น เป็นแผลในช่องปาก เหงือกอักเสบ ฟันโยก มีปัญหาจากไวรัสหวัดแมว เอดส์แมว ลิวคีเมีย ทำให้ช่องปากอักเสบ เป็นแผลได้ เป็นต้น ทำให้เจ็บปาก จึงกินอาหารได้ลดลงหรือเลือกกินแต่อาหารอ่อนๆ แต่แมวมักไม่ค่อยซึมค่ะ
4. เกิดจากความเครียด ทำให้แมวเครียด จึงไม่กินอาหาร ต้องหาสาเหตุอะไรที่ทำให้แมวเครียด บางตัวหลังทำหมันก็เครียดได้ค่ะ
ส่วนเรื่องที่ทำให้เดินเซ อาจเกิดได้จาก
1. อ่อนแรงจากได้รับอาหารน้อยหรือไม่ได้รับอาหาร
2. ผอมมาก กล้ามเนื้อพยุงน้อยก็จะอ่อนแรง
3. เกิดจากแร่ธาตุโพแทสเซียมในร่างกายต่ำก็จะอ่อนแรง เกิดจากได้รับอาาหรน้อยหรือไม่กินอาหารมาสักพัก
4. มีปัญหาระบบประสาท
5. มีปัญหาที่กระดูก เช่น ข้อเสื่อม เป็นต้น
การวินิจฉัยต้องตรวจละเอียดค่ะ หากแมวไม่กินอาหาร แนะนำให้ป้อนนะคะ เพราะแมวไม่กินอาหารจะทรุดลงได้ง่ายค่ะ หากหาสาเหตุไม่พบแนะนำให้พาไปโรงพยาบาลสัตว์มหาลัย เช่น เกษตร จุฬา หรือเอกชนที่มีเครื่องมือครบครันนะคะ

ปัจจุบันให้กินอาหารอะไรคะ แนะนำให้ปรับสูตรอาหารค่ะ ผอมเกินไปดูขาดสารอาหาร แนะนำเป็นอาหารยี่ห้อพรีเมี่ยมเกรดหรือปรับเป็นอาหารสูตรแมวเด็กก่อนก็ได้ค่ะ เพื่อให้ร่างกายได้สารอาหารเต็มที่ หากยังไม่ดีขึ้นอาจต้องพากลับไปตรวจเพิ่มเติมค่ะ

ไรในหูทำให้การเดินผิดปกติได้ค่ะ บางตัวเป็นไรในหูไม่เยอะ มีปัญหาแค่คันหู แต่หากเป็นเยอะทำให้การทรงตัวผิดปกติได้ค่ะ ขี้หูมักจะเป็นลักษณะสีดำน้ำตาลแห้งๆ แมวจะคันหูค่อนข้างมาก การวินิจฉัยใช้การเก็บขี้หูส่องกล้องจุลทรรศร์ค่ะ การรักษาใช้ยาหยอดหูรักษาไรในหูอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ร่วมกับการใช้ยาหยอดหลังรักษาไรในหู ยี่ห้อ advocate หรือ revolution หยดทุก 2 สัปดาห์ติดต่อกัน 3 ครั้งค่ะ ปกติเป็นไรในหูมักไม่ทำให้แมวกินอาหารน้อยลงนะคะ ยกเว้นว่าเป็นมากจริงๆ มีผลต่อระบบประสาทก็อาจทำให้การกินอาหารลดลงก็ได้ค่ะ แนะนำให้พาไปตรวจกับสัตวแพทย์เพิ่มเติมนะคะ

เป็นได้ค่ะ FIP เกิดจากเชื้อ corona virus ซึ่งปกติจะทำให้แมวมีอาการท้องเสียค่ะ หากไวรัสเกิดการกลายพันธุ์จะทำให้เกิดโรค FIP ขึ้นมาได้ค่ะ มี 2 แบบค่ะ แบบเปียก คือจะมีน้ำในช่องอกหรือช่องท้อง แบบแห้ง คือจะมีก้อนตามอวัยวะภายในค่ะ วิธีการยืนยันหากเป็นแบบเปียกคือนำน้ำไปส่งตรวจหาเชื้อค่ะ แต่เป็นการหาเชื้อ corona virus ไม่ได้ยืนยัน 100% ว่าเป็น FIP ค่ะ หากอาการเหมือนโรค FIP คุณหมอก็จะให้การรักษาเลยค่ะ ส่วนแบบแห้งการวินิจฉัยจะยากกว่าค่ะ เนื่องจากต้องตัดชิ้นเนื้อตำแหน่งที่มีก้อนตามอวัยวะภายในไปส่งตรวจค่ะ