สุขอนามัยช่องปากที่ไม่ดีไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลิ่นปากหรือฟันผุเท่านั้น แต่มันยังนำสู่โรคอันตรายอย่างมะเร็งช่องปากได้อีกเช่นกัน
การดูแลรักษาฟันที่ไม่ดีเกี่ยวข้องกับการเกิดแผลอักเสบในปาก ฟันผุ และกลิ่นปาก แต่นอกจากนี้แล้วมันยังนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่หลวงมากกว่าคือการเกิดโรคมะเร็งช่องปาก “มะเร็งช่องปาก” ส่งผลกระทบต่อรูปร่างของปาก หรือไปกัดกร่อนเนื้อเยื่อส่วนลึกลงไปอย่างกระดูก กล้ามเนื้อ และประสาทบริเวณปาก แม้ว่าการป้องกันมะเร็งชนิดนี้จะเป็นไปได้ แต่โชคไม่ดีที่มีผู้คนจำนวนมากต้องเสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ เพียงเพราะว่าพวกเขาละเลยต่อการดูแลช่องปากของพวกเขาเอง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ช่องปากแย่แบบไหนจะกลายเป็นโรคมะเร็งช่องปาก?
ในสถานการณ์ทั่วไป มะเร็งที่ปากนั้นพบได้บ่อยกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป แต่บางกรณีมันก็พบในผู้ใหญ่ที่มีอายุน้อยด้วยเช่นกัน ปัจจัยทั่วไปที่เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคเช่นนี้คือการสูบบุหรี่ การเคี้ยวยาสูบ การบริโภคแอลกอฮอล์ ริมฝีปากต้องแสงอาทิตย์มากเกินไป เป็นต้น นอกจากด้านความสะอาดแล้ว ผู้ที่เคยเป็นมะเร็งศีรษะและลำคอ ผู้ที่มักเกิดการติดเชื้อในช่องปากบ่อยครั้ง กับผู้ที่มาจากครอบครัวที่มีประวัติเป็นมะเร็งประเภทนี้ก็จะมีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน
มะเร็งช่องปากนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพช่องปากอย่างมาก มันทำให้เกิดโรคเหงือกและฟันผุ มะเร็งประเภทนี้ยังส่งผลต่อต่อมสร้างน้ำลายในปาก ซึ่งไปกดกระบวนการสร้างน้ำหล่อลื่นในช่องปากลง ทำให้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อขึ้น
โรคมะเร็งช่องปากส่งผลต่อปากอย่างไรบ้าง?
ไม่ว่ามะเร็งนี้จะเกิดมาจากความเพิกเฉยต่อความสะอาดในช่องปาก หรือปัจจัยอื่น ๆ ก็ตาม มันก็ยังคงเป็นโรคที่ส่งผลเสียต่อสุขอนามัยและสุขภาพของปากโดยจะมีผลดังนี้:
- มะเร็งปากระยะแรกเริ่มจะแสดงตุ่มเล็ก ๆ หรือมีอาการปวดเมื่อย ซึ่งทำให้ปากหรือริมฝีปากผิดรูป
- มะเร็งปากทำให้ฟันหลวมหรือคลอน และอาจทำให้ฟันหลุดออก
- การเติบโตของก้อนเนื้อร้ายลามไปทำลายเนื้อเยื่อเหงือกส่วนที่ยังดีอยู่ ทำให้เหงือกไม่สามารถรองรับฟันได้อีก
- มันยังทำลายเนื้อเยื่อกระดูก และทำให้ฟันที่เรียงบนกระดูกกรามคลอน
- มะเร็งปากยังส่งผลต่อการเคี้ยวและกลืนอาหาร ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวไปสร้างความเจ็บปวดที่เนื้อเยื่อในปากและลำคอของผู้ป่วย
- การเติบโตของเซลล์มะเร็งส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหารเนื่องจากปัญหาด้านการรับประทานอาหาร
อาการทั่วไปของมะเร็งปาก
- เกิดแผลเปื่อยหรืออาการเมื่อยที่ไม่เจ็บปวดยาวนานถึง 14 วัน
- ก้อนที่ปาก หรือคอ
- เคี้ยวและกลืนลำบาก หรืออาจมีความเจ็บปวดร่วมด้วย
- แก้มบวมออก
- เสียงแหบแห้งที่เป็นระยะเวลานาน
- มีพังผืดสีขาวหรือแดงในปาก
- ขยับลิ้นหรือกรามลำบาก
- ฟันปลอมหลุดและไม่พอดี
- ฟันหลวม
- มีปัญหาในการพูดคุย
- มีเลือดออก หรือรู้สึกเจ็บในปากหรือบนริมฝีปาก
- มีจุดแข็งบนริมฝีปากล่างด้านนอก
- มีตุ่มเกิดขึ้นภายในปาก
แม้ว่าบางทีคุณอาจจะพบบางอาการนี้เกิดขึ้นภายในปาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นผลมาจากมะเร็งเสมอไป จึงควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจที่เหมาะสมจะดีที่สุด
แนวทางการป้องกันโรคมะเร็งช่องปาก
ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งช่องปาก
- งดการสูบบุหรี่หรือยาสูบ: ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ประเภทไหนก็ตาม ต่างก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งช่องปากกันทั้งนั้น ทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความเสี่ยงในการก่อโรคนี้อีกด้วย สำหรับผู้ที่ทั้งดื่มและสูบนั้นความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มขึ้น
- การสัมผัสกับแสงอาทิตย์: การต้องแสงอาทิตย์เกินไปก็เพิ่มความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งริมฝีปาก ซึ่งมักเกิดขึ้นบนริมฝีปากล่าง หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็สามารถป้องกันด้วยการใช้ครีมกันแดดหรือลิบมัน
- หมั่นตรวจสอบตัวเองเป็นประจำ: คอยสังเกตช่องปากและริมฝีปากตัวเองบ่อย ๆ โดยการมองและสัมผัสริมฝีปากทั้งในและนอก ตรวจสอบลิ้นทุกด้าน และส่องลำคอและกระพุ้งแก้มของตนเองเพื่อมองหาสิ่งผิดปรกติ หากคุณรู้สึกถึงก้อนข้างในปากหรือรอบคอ ให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดทันที
- เข้าพบทันตแพทย์: แม้คุณจะคอยตรวจสอบตนเองอยู่เสมอก็ตาม แต่บางครั้งภัยอันตรายหรือความเจ็บป่วยก็มักไม่แสดงออกมาให้คุณเห็นชัดเจนนัก ดังนั้นจึงควรเข้าตรวจกับทางทันตแพทย์เป็นประจำจะช่วยได้ดีที่สุด
ยิ่งมีการตรวจพบโรคร้ายเร็วเท่าไร ก็ยิ่งได้รับอันตรายจากมันน้อยลงเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่สามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็ว มันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่คุณควรทราบถึงอาการต่าง ๆ ของโรคมะเร็งช่องปากนี้ เพื่อที่ว่าจะได้ทำการระแวดระวังทั้งร่างกายและนิสัยการใช้ชีวิตของคุณเอง