ขอสอบถามคุณหมอครับ มีเพศสัมพันธ์กับแฟน แล้วถุงยางอนามัยฉีกขาดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ช่วงตีหนึ่ง ของวันที่ 27/7/2019 แฟนเริ่มทานยาคุมฉุกเฉินตอนเช้า 10.00 น. วันที่ 27/7/2019 โอกาศตั้งครรภ์มีมากน้อยเพียงใดครับ เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด 1.5 มก. ของ maple forte และประจำเดือนจะเปลี่ยนเวลามาไหมครับ ถ้าทานยาคุมฉุกเฉินเข้าไป ปรกติจะมาช่วงประมานวันที่ 30 ของทุกเดือน +- ประมาณ 2 วันครับ

สวัสดีครับ
การทานยาคุมกำเยิดฉุกเฉิน ควรรับประทาน โดยเร็วที่สุดครับ

โดยหากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ อย่างกรณีนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90%

ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ครับ

และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากครับ

วิธีการคุมกำเนิดฉุกเฉินอีกวิธี ที่สามารถทำได้ หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น จะเปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ครับ
วิธีนี้ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมครับ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ครับ

อย่างไรก็ตาม หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงครับ

ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ
***ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติครับ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ (หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ 14 วัน) ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
————————

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีถุงเท้าฉีกขาดในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก็จะถือว่ามีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์สูงครับ แต่ถ้าหากได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์แล้วโอกาสตั้งครรภ์ก็จะมีเหลืออยู่ประมาณ 15% ครับ

ถ้าหากเดิมเป็นคนที่มีประจำเดือนมาสม่ำเสมอหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วประจำเดือนก็มักจะยังมาใกล้เคียงกับประจำเดือนตามปกติอยู่ หรือถ้ามีการคลาดเคลื่อนก็มักไม่เกิน 4-5 วัน

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรใจเย็นๆและรอสังเกตประจำเดือนไปก่อน ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

การป้องกันด้วยถุงยางอนามัย เป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีปัญหาถุงยางฉีกขาด ก็จะไม่มีผลป้องกันจากถุงยางที่ใช้ค่ะ ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ในช่วง "หน้า 7 - หลัง 7" ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ 5 - 24% การรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมแล้วนะคะ

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงนัก แม้จะใช้เร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ค่ะ จึงต้องรอดูต่อไปว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ (แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานหรือไม่ เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร)

หากไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อน (เร็วหรือช้าก็ได้) เพียงไม่กี่วันนะคะ ในกรณีนี้ การใช้ยาคุมฉุกเฉินใกล้เคียงช่วงที่คาดว่าจะมีประจำเดือนมา อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนช้าออกไปเล็กน้อย

ดังนั้น ถ้ารอนานแล้วไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวัน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

สวัสดีครับ การกินยาคุม ภายใน 72 ชม.จะป้องกัน การตั้งครรภ์ได้ ประมาณ 80% ครับ และ หลังกอนยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไป ประจำเดือน อาจจะเลื่อนได้ครับ โดยประจำเดือนอาจจะมาหลังกินยาคุมกำเนิดไปประมาณ 7 วันครับ