กินยาคุมแผงแรกตั้งแต่วันที่7ก.ค. (จัสติมา)เป็นวันที่ประจำเดือนมาวันแรก แล้วมีเพศสัมพันธ์วันที่12ก.ค. แล้วก็มีเลือดไหลออกมา(คาดว่าประจำเดือนน่าจะหมดแล้ววันนั้น) ต่อมาลืมกินยาในสัปดาห์ที่2วันที่15ก.ค.แล้วกินยา2เม็ดในวันที่16ก.ค. แล้วก็มีเลือดออกมาเล็กน้อยคล้ายประจำเดือนวันละ2-3ครั้ง ต่อมามีเพศสัมพันธ์วันที่19ก.ค.และเป็นวันที่ลืมกินยา แล้วมีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์ แล้วกินยาควบคู่2เม็ดในวันที่20ก.ค.แล้วหยุดกินยาตั้งแต่วันที่21ก.ค.จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีเลือดออกมากจึงต้องใส่ผ้าอนามัยตั้งแต่วันที่20ก.ค. ก่อนหน้านั้นจะไหลเล็กน้อย อยากทราบว่าเป็นอันตรายไหมคะ? แล้วเลือดที่ไหลจะหยุดไหลออกมามากตอนไหนคะ? ต้องพบแพทย์ไหมคะ? ปล.เลือดที่ไหลออกมาเป็นเลือดแดงสด

1. ผู้ถามพิมพ์เดือนผิด จากที่ต้องการพิมพ์ว่าเป็นเดือนมิถุนายน แต่พิมพ์ผิดเป็นกรกฎาคมใช่มั้ยคะ
2. เลือดที่ออกมาตั้งแต่วันที่ 20 จนถึงปัจจุบัน มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัยหรือไม่ และชุ่มผ้าอนามัยกี่แผ่น/วัน ยังมีปริมาณเท่าเดิมมาจนถึงวันนี้หรือไม่คะ
3. มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ

การใช้ยาคุมแผงแรก ๆ (1 - 3 แผงแรก) รวมถึงการลืมรับประทานยาคุมจัสติมาในวันที่ 15 มิถุนายน และ 19 มิถุนายน ครั้งละ 1 วันโดยไม่ต่อเนื่องกัน อาจทำให้เกิดหยดเลือดซึมหรือเลือดออกกะปริบกะปรอยจากความแปรปรวนของฮอร์โมนได้ค่ะ แต่จะไม่ทำให้ประจำเดือนมาเร็วก่อนกำหนดนะคะ

ดังนั้น หากเลือดที่ออกมาตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 แผ่น/วัน ถือว่าผิดปกติมาก ไม่น่าจะเป็นผลจากยาคุมที่ใช้หรือหยุดใช้ และหากปล่อยไว้อาจเสี่ยงต่อการเสียเลือดมากจนเกิดอันตรายต่อสุขภาพ เพราะหากไม่ทราบว่าเลือดที่ออกมาผิดปกตินั้นเกิดจากสาเหตุใด ก็ระบุแน่ชัดไม่ได้ว่าเลือดนั้นจะหยุดไหลเมื่อไหร่นะคะ

จึงแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงของความผิดปกติดังกล่าว และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ