November 20, 2018 20:11
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ภาวะเหลืองน้้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุคะ
1.ท่อทางเดินน้ำดีตีบ หรืออุดตัน ซึ่งต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมว่าเป็นจากอะไร เช่นมะเร็งท่อทางเดินน้ำดี ภาวะท่อทางดีอุดตันแต่กำเนิด เป็นนิ่วในท่อทางเดินน้ำดีเป็นต้น
2.มีภาวะตับอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุอีกหลายอย่างเช่น อักเสบจากยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ สมุนไพร หรืออักเสบจากเชื้อไวรัส
3.มีภาวะการทำงานของตับผิดปกติ ทำให้ขับสารเหลืองไม่ได้
4.มีการแตกของเม็ดเลือดแดง ก็ทำให้มีภาวะเหลืองขึ้นได้คะ
ในกรณีหากเป็นจากสาเหตุแรกคือท่อทางเดินน้ำดีอุดตัน และได้รับการผ่าตัดไปแล้ว ต้องดูว่าสาเหตุที่ทำให้ท่อทางเดินน้ำดีอุดตันเป็นจากสาเหคุอะไร แล้วการผ่าตัดเป็นการรักษาสาเหตุนั้นหรือไม่ หรือเป็นเพียงการรักษาเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น และโดยปกติหลังจากทำผ่าตัดไปแล้วค่อนข้างใช้เวลากว่าค่าเหลืองจะลง ซึ่งต้องดูว่าเริ่มแรกค่าเหลืองนั้นสูงมากน้อยเพียงใดคะ โดยปกติคนเราจะสังเกตุได้ชัดว่าเหลืองหากมีค่าเหลืองหรือค่าบิลลิรูบินในเลือด เกิน 3-5 ขึ้นไปดังนั้น หากค่าเหลืองตั้งแต่แรกนั้นสูง 30-50 ก็อาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรักษาที่ต้นเหตุ และต้องดูว่าไม่มีภาวะอื่นใดๆที่ทำให้เกิดอาการเหลืองร่วมด้วยคะ แนะนำให้ถามคุณหมอเจ้าของไข้ผู้ที่ผ่าตัดว่าทำไม เหตุใด และเป็นจากอะไร ค่าเหลืองถึงยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยมากที่สุด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ภาวะเหลืองน้้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุคะ
1.ท่อทางเดินน้ำดีตีบ หรืออุดตัน ซึ่งต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมว่าเป็นจากอะไร เช่นมะเร็งท่อทางเดินน้ำดี ภาวะท่อทางดีอุดตันแต่กำเนิด เป็นนิ่วในท่อทางเดินน้ำดีเป็นต้น
2.มีภาวะตับอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุอีกหลายอย่างเช่น อักเสบจากยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ สมุนไพร หรืออักเสบจากเชื้อไวรัส
3.มีภาวะการทำงานของตับผิดปกติ ทำให้ขับสารเหลืองไม่ได้
4.มีการแตกของเม็ดเลือดแดง ก็ทำให้มีภาวะเหลืองขึ้นได้คะ
ในกรณีหากเป็นจากสาเหตุแรกคือท่อทางเดินน้ำดีอุดตัน และได้รับการผ่าตัดไปแล้ว ต้องดูว่าสาเหตุที่ทำให้ท่อทางเดินน้ำดีอุดตันเป็นจากสาเหคุอะไร แล้วการผ่าตัดเป็นการรักษาสาเหตุนั้นหรือไม่ หรือเป็นเพียงการรักษาเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น และโดยปกติหลังจากทำผ่าตัดไปแล้วค่อนข้างใช้เวลากว่าค่าเหลืองจะลง ซึ่งต้องดูว่าเริ่มแรกค่าเหลืองนั้นสูงมากน้อยเพียงใดคะ โดยปกติคนเราจะสังเกตุได้ชัดว่าเหลืองหากมีค่าเหลืองหรือค่าบิลลิรูบินในเลือด เกิน 3-5 ขึ้นไปดังนั้น หากค่าเหลืองตั้งแต่แรกนั้นสูง 30-50 ก็อาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรักษาที่ต้นเหตุ และต้องดูว่าไม่มีภาวะอื่นใดๆที่ทำให้เกิดอาการเหลืองร่วมด้วยคะ แนะนำให้ถามคุณหมอเจ้าของไข้ผู้ที่ผ่าตัดว่าทำไม เหตุใด และเป็นจากอะไร ค่าเหลืองถึงยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยมากที่สุด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ภาวะเหลืองน้้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุคะ
1.ท่อทางเดินน้ำดีตีบ หรืออุดตัน ซึ่งต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมว่าเป็นจากอะไร เช่นมะเร็งท่อทางเดินน้ำดี ภาวะท่อทางดีอุดตันแต่กำเนิด เป็นนิ่วในท่อทางเดินน้ำดีเป็นต้น
2.มีภาวะตับอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุอีกหลายอย่างเช่น อักเสบจากยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ สมุนไพร หรืออักเสบจากเชื้อไวรัส
3.มีภาวะการทำงานของตับผิดปกติ ทำให้ขับสารเหลืองไม่ได้
4.มีการแตกของเม็ดเลือดแดง ก็ทำให้มีภาวะเหลืองขึ้นได้คะ
ในกรณีหากเป็นจากสาเหตุแรกคือท่อทางเดินน้ำดีอุดตัน และได้รับการผ่าตัดไปแล้ว ต้องดูว่าสาเหตุที่ทำให้ท่อทางเดินน้ำดีอุดตันเป็นจากสาเหคุอะไร แล้วการผ่าตัดเป็นการรักษาสาเหตุนั้นหรือไม่ หรือเป็นเพียงการรักษาเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น และโดยปกติหลังจากทำผ่าตัดไปแล้วค่อนข้างใช้เวลากว่าค่าเหลืองจะลง ซึ่งต้องดูว่าเริ่มแรกค่าเหลืองนั้นสูงมากน้อยเพียงใดคะ โดยปกติคนเราจะสังเกตุได้ชัดว่าเหลืองหากมีค่าเหลืองหรือค่าบิลลิรูบินในเลือด เกิน 3-5 ขึ้นไปดังนั้น หากค่าเหลืองตั้งแต่แรกนั้นสูง 30-50 ก็อาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรักษาที่ต้นเหตุ และต้องดูว่าไม่มีภาวะอื่นใดๆที่ทำให้เกิดอาการเหลืองร่วมด้วยคะ แนะนำให้ถามคุณหมอเจ้าของไข้ผู้ที่ผ่าตัดว่าทำไม เหตุใด และเป็นจากอะไร ค่าเหลืองถึงยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยมากที่สุด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ภาวะเหลืองน้้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุคะ
1.ท่อทางเดินน้ำดีตีบ หรืออุดตัน ซึ่งต้องหาสาเหตุเพิ่มเติมว่าเป็นจากอะไร เช่นมะเร็งท่อทางเดินน้ำดี ภาวะท่อทางดีอุดตันแต่กำเนิด เป็นนิ่วในท่อทางเดินน้ำดีเป็นต้น
2.มีภาวะตับอักเสบ ซึ่งมีสาเหตุอีกหลายอย่างเช่น อักเสบจากยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ สมุนไพร หรืออักเสบจากเชื้อไวรัส
3.มีภาวะการทำงานของตับผิดปกติ ทำให้ขับสารเหลืองไม่ได้
4.มีการแตกของเม็ดเลือดแดง ก็ทำให้มีภาวะเหลืองขึ้นได้คะ
ในกรณีหากเป็นจากสาเหตุแรกคือท่อทางเดินน้ำดีอุดตัน และได้รับการผ่าตัดไปแล้ว ต้องดูว่าสาเหตุที่ทำให้ท่อทางเดินน้ำดีอุดตันเป็นจากสาเหคุอะไร แล้วการผ่าตัดเป็นการรักษาสาเหตุนั้นหรือไม่ หรือเป็นเพียงการรักษาเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น และโดยปกติหลังจากทำผ่าตัดไปแล้วค่อนข้างใช้เวลากว่าค่าเหลืองจะลง ซึ่งต้องดูว่าเริ่มแรกค่าเหลืองนั้นสูงมากน้อยเพียงใดคะ โดยปกติคนเราจะสังเกตุได้ชัดว่าเหลืองหากมีค่าเหลืองหรือค่าบิลลิรูบินในเลือด เกิน 3-5 ขึ้นไปดังนั้น หากค่าเหลืองตั้งแต่แรกนั้นสูง 30-50 ก็อาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรักษาที่ต้นเหตุ และต้องดูว่าไม่มีภาวะอื่นใดๆที่ทำให้เกิดอาการเหลืองร่วมด้วยคะ แนะนำให้ถามคุณหมอเจ้าของไข้ผู้ที่ผ่าตัดว่าทำไม เหตุใด และเป็นจากอะไร ค่าเหลืองถึงยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยมากที่สุด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ท่อทางเดินนิำดีตีบ แล้วได้ทำการตัดต่อท่อใหม่แล้วทำไมถึงยังไม่หายเหลือง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)