September 23, 2019 21:39

ตอบโดย
ชัยวัฒน์ จิรานันท์สกุล (หมอเปี๊ยก) (นพ.)
หนูกำลังประสบปัญหาความเห็นที่ไม่ลงรอย ไม่เข้ากัน กับคุณแม่ของหนูเอง
คือมีแนวความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ขัดแย้งกัน
ทำให้เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน
แน่นอนว่า ภาวะเช่นนี้ต้องทำให้เกิดความเครียดวิตกกังวล ไม่สบายใจเกิดขึ้นมาแน่นอน
ควรหาวิธีแก้ไขแก้ปัญหา
ในเมื่อรู้ปัญหาอยู่แล้ว น่าจะมาเปิดอกคุยกับคุณแม่ ให้รู้เรื่องกันไปเลย
อาจหาคนกลางที่คุณแม่ก็ให้ความนับถือ หรือเกรงใจ หรือเชื่อถือ มาเป็นคนกลาง คอยรับฟังระหว่างที่ หนูกับคุณแม่พูดคุยเปิดใจเพื่อหาทางออกที่สามารถไปด้วยกันได้
หรือถ้าไม่สามารถหาคนที่คุณแม่นับถือไว้วางใจได้ แนะนำให้ไปปรึกษาจิตแพทย์ ซึ่งเป็นวิชาชีพโดยตรง ที่จะสามารถจัดการกับ ปัญหาความขัดแย้งความเครียด น่าจะดีกว่า ปล่อยไว้เรื่อยๆ ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข จะกลายเป็นความเครียดเรื้อรังวิตกกังวลวิตกจริต
อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
อนรรฆวี ฉง (พญ.)
สวัสดีค่ะ สำหรับประวัติที่ให้หมอมาเท่าที่หนูเล่าค่อนข้างมีเรื่องที่วิตกกังวลรวมถึงมีภาวะกดดันซึ่งเกิดจากสภาพแวดล้อมหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของการเรียนซึ่งค่อนข้างจะเรียนหนักจะทำให้มีภาวะกดดันทั้งผลคะแนนและผลการสอบซึ่ง เรื่องการเรียนในวัยนี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด หากมีความสงสัยหรือว่าไม่เข้าใจในวิชาใด หมอแนะนำปรึกษาเพื่อนที่เก่งวิชานั้นหรืออาจารย์เพื่อทำความเข้าใจในบทเรียน เพราะถ้าหากมีความไม่เข้าใจในบทเรียนทีละเล็กละน้อย อาจจะสะสมจนทำให้มีความไม่ชื่นชอบวิชานั้นและความตั้งใจในการเรียนลดลง ซึ่งหหากปล่อยไว้จะเป็นปัญหาเรื้อรังดินพอกหางหมู ต่อมาคือเรื่องการมีแฟนจริงๆแล้วการมีความรักในขณะที่เรียนหนังสือไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดแต่ว่าเท่าที่ฟังที่หนูเล่ามาคุณแม่กับคุณพ่อมีปัญหามีการทะเลาะกันบ่อยๆจนคุณแม่มีภาวะซึมเศร้า หมอมองว่าอาจจะเป็นส่วนหนึ่งทำให้คุณแม่มีความกังวลจึงไม่อยากให้หนูมีแฟน ส่วนเรื่องที่คุณแม่กับคุณพ่อมีปัญหากันเป็รเรื่องที่นอกเหนือการควบคุมได้ อาจจะต้องพยายามทำใจและมองในแง่ดีว่าอน่างน้อยหนูก็ยังมีคุณแม่ที่รักและคอยเป็นห่วง หมอว่าอาจลองพูดคุยปรับทัศนคติและทำให้คุณแม่ไว้ใจในตัวหนูว่า หากหนูจะมีแฟนหนูก็สามารถจะดูแลเรื่องการเรียนและดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี หรือหากมีผู้ใหญ่ท่านอื่นที่หนูไว้ใจ หมอว่าอาจจะลองเล่าปัญหาเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาจากผู้ใหญ่ พูดคุยถึงทางออกของปัญหา แต่จริงๆแล้วเท่าที่ฟังมาคุณแม่รักและเป็นห่วงหนูนะคะ หากหนูเล่าเรื่องที่มีแฟนให้ฟัง คุณแม่ก็น่าจะรับได้หากหนูสามารถดูแลตัวเองและทำสิ่งอื่นๆได้ดีมากกว่าเดิมแม้จะมีแฟน
แต่หากหนูมีภาวะวิตกกังวลมาก นอนไม่หลับหรือมีอาการอื่นๆที่ผิดปกติรุนแรงจนรบกวนชีวิตประจำวัน หมอแนะนำไปพบจิตแพทย์ใกล้บ้านเพื่อทำการขอคำปรึกษาและประเมินเพิ่มเติมว่ามีภาวะอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ภาวะซึมเศร้า เพื่อพิจารณารักษาต่อเนื่องค่ะ
ถ้าหากมีเพื่อนหรือผู้ใหญ่คนอื่นๆที่ไว้ใจได้ อาจเล่าปัญหาให้ฟังเพื่อเป็นการระบายและหาทางออก ซึ่งอาจจะได้แนวคิดอื่นๆที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับตัวหนูได้ค่ะ หมอเป็นกำลังใจให้นะคะ ทุกปัญหามีหนทางแก้ไขค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อยากสอบถามคุณหมอ หนูอายุ19 เรียนมหาลัยอยู่ค่ะ เรียนหนักมาก เครียดทั้งเรื่องเรียน แล้วครอบครัวที่บ้านมีปัญหาพ่อแม่หย่ากันไปแล้วแต่ยังวนเวียนทะเลาะกันอยู่ ทำให้หนูปวดหัวเครียดเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้วแม่หนูเป็นโรคซึมเศร้า และชอบทะเลาะกับหนู ฟีลขาด อารมณ์แรง ด่าตลอดคือเรื่องไม่อยากให้มีแฟน ไม่ให้ยุ่งกับผช. แต่คือหนูก็มีแฟน แต่หนูอยากให้แม่เปิดใจ หนูมีแฟนแต่แอบคบ หนูระแวงตลอดเวลา กลัวตลอดเวลา แล้ว1-2เดือนมานี้ทะเลาะกับแม่รุนแรงเพราะแม่ไม่ไว้ใจ และกำลังจะจับได้ ทำให้หนูกลัว ระแวงไปหมด ตอนนี้เครียดมาก มีเรื่องคิดในหัวตลอดเวลา ปวดหัวบ่อยๆ ไม่ค่อยมีแรง เหมือนจะไม่สบายบ่อยๆ เครียด สับสน กลัวไปหมด จะทำอะไรก็ไม่กล้าทำ ตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ อารมณ์เสียง่าย ไม่พอใจง่าย ใครขัดใจก็หงุดหงิด เวลาเครียดจะร้องไห้ออกมาเอง ร้องไห้บ่อย รู้สึกท้อ ไม่รู้จะทำยังไงให้หาย ไม่รู้จะทำอะไรดี เวลาเจอปัญหาหรือต้องตัดสินใจ ตัดสินใจเลือกอะไรไม่ได้ เลยอยากถามหมอว่า หนูจะเป็นโรคเครียดหรือวิตกกังวลมั้ยคะ ถ้ามีต้องทำยังไงบ้าง รักษาได้ยังไงบ้างคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)