สวัสดีค่ะคุณหมอ คือมีอะไรกันแฟนวันที่ 24 ม.ย ช่วงเวลาประมาณตี 3 (หลั่งนอกและอยู่ในช่วงระยะปลอดภัยหน้า7หลัง7)แล้วก็ทานยาคุมฉุกเฉินไปตอนเวลาประมาณทุ่มนึงค่ะหลังจากกินยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ พอวันที่ 4 ก.ค ช่วงบ่ายมีเลือดสีแดงคล้ำออกมาไม่มากค่ะ อยากทราบว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินหรือเป็นเลือดอะไรคะ

ผู้ถามหมายถึง "มีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 24 มิถุนายน" ใช่มั้ยคะ?

ถ้าใช่... และถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนควรจะมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ ดังนั้น หากช่วงวันที่มีเพศสัมพันธ์คือช่วง "ก่อน 7" ก็เป็นไปได้ที่เลือดที่ออกมาในตอนนี้อาจเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย จึงต้องรอดูไปก่อนว่าจะมีเลือดออกมามากขึ้นและต่อเนื่องจนชุ่มผ้าอนามัยหรือไม่ (ประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ) หากเป็นไปตามนี้ก็ถือว่าไม่มีการตั้งครรภ์แล้วนะคะ

แต่ถ้าช่วงที่มีเพศสัมพันธ์คือช่วง "หลัง 7" เลือดที่ออกมาในตอนนี้ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย (เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง) ก็น่าจะเป็นเพียงหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินค่ะ ซึ่งยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือเปล่า จึงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่นะคะ

ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนอาจคลาดเคลื่อนจากความเครียด, การเจ็บป่วย, การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัยนะคะ

ซึ่งสำหรับผู้ที่ใช้ยาคุมฉุกเฉิน มากกว่า 90% ของผู้ใช้ที่ไม่ตั้งครรภ์มักจะมีประจำเดือนมาตรงเวลา หรือคลาดเคลื่อน (เร็วหรือช้าก็ได้) ไม่เกิน 4 วันค่ะ ดังนั้น ในกรณีของผู้ถามก็เป็นไปได้ที่ประจำเดือนจะเลื่อนช้าเล็กน้อยจากการใช้ยาคุมฉุกเฉินนั่นเองนะคะ โดยเฉพาะหากใช้ใกล้เคียงกับวันที่คาดว่าจะมีประจำเดือนมาค่ะ

และเมื่อวันนี้เริ่มมีเลือดออกมาบ้างแล้ว ก็เป็นไปได้ที่เลือดนั้นจะเป็นประจำเดือนที่กำลังจะมาตามปกตินั่นเองนะคะ แนะนำให้รอดูไปก่อนค่ะ ยังไม่ต้องกังวล

อย่างไรก็ตาม ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็ย่อมถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะถ้าเลือกใช้วิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพต่ำ อย่างการนับวันปลอดภัย "หน้า 7 - หลัง 7" ซึ่งมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้มากกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานหลายเท่า

ไม่ได้มีระยะเวลาที่แน่นอนหรอกค่ะว่าประจำเดือนต้องมาช้าเกินกี่วันจึงจะหมายถึงว่ามีการตั้งครรภ์ เพราะประจำเดือนอาจคลาดเคลื่อนตามปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้นก็ได้ แต่ในกรณีที่มีความเสี่ยง ถ้ารอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจน โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวัน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ