สอบถามหน่อยครับ ผมตรวจเลือดเจอซิฟิริส 1:1 ผมอยากรู้ว่าต้องทำวิธีการรักษาแบบไหนถึงจะหายเร็วที่สุด และเลือดจะกลับมาเป็นปกติใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่ครับ

ปกติ 1:1 คือไม่น่ามีเชื้อเเล้วนะครับ ซิฟิลิส เกิดจากการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ครับ เกิดจากการติดเชื้อชนิดหนึ่ง (Treponima pallidum) ระยะเเรกมักมีแผลที่อวัยวะเพศ เป็นเเผลดูสะอาดขอบเรียบไม่เจ็บครับ จากนั้นระยะที่สองจะเป็นผื่น ปื้นดำๆทั่วตัว ตามฝ่ามือฝ่าเท้าครับ อาจมีหูด มีหัวล้านได้ หลังจากนั้นเเผลจะหายเอง ไม่มีอาการอะไร เเต่เชื้อจะยังเเฝงในร่างกายครับ ส่วนระยะที่สาม ซึ่งเป็นระยะที่เชื้อลุกลามเข้าระบบประสาท จะมีอาการทาบระบบประสาท เช่น หลงลืม เเขนขาชา เดินทรงตัวไม่ได้ ใบหน้าผิดรูป เป็นต้นครับ ถ้าเป็นเเล้วจะไม่หายเองครับ (เเต่จะมีระยะเเฝงตัวของเชื้อ คือยังมีเชื้อเเต่ไม่เเสดงอาการครับ) ถ้ารักษาต่อเนื่องก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิตครับ หายขาดได้ เเต่ถ้าไม่รักษาเเล้วมีการติดเชื้อสู่ระบบประสาทในระยะท้ายๆอันนี้อันตรายครับ การตรวจวินิจฉัยนอกจากใช้การตรวจร่างกายเเล้ว ยังต้องพิจารณาเจาะเลือด เช่น VDRL TPHA เเละตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์อื่น เช่น ไวรัสตับอักเสบ หรือ HIV ด้วยครับ การรักษาคือการฉีดยา Penicillin จำนวนเข็มขึ้นกับระยะของโรคครับ การรักษาโรคซิฟิลิส หลังฉีดยา จะมีการตรวจติดตามเพื่อดูการตอบสนองต่อการรักษาโดยดูจากค่า VDRL titer (RPR) ซึ่งมีความหมายว่าความเข้มข้นที่ทำการเจือจางกี่ครั้งจนกว่าจะตรวจไม่เจอครับ ในช่วงแรกอาจตรวจพบค่าtiter ที่สูงครับเช่น 1:256 ,1:128 (ค่าสูงกว่า 1:8 เป็นต้นไป) ซึ่งถ้าค่า titer ประมาณ 1:2 ถึง1:4 ถือว่าเป็นค่าtiter ที่ต่ำมากครับ แบบนี้แปลว่าตอบสนองต่อการรักษาดีครับ ถ้าถึงระยะนี้ไม่เเพร่เชื้อเเล้วครับ ดีที่สุดก็ต้อง VDRL nonreactive ครับ