December 04, 2019 21:04
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันและรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปในภายหลังนั้นจะยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% ครับ แต่ถ้าหากได้มีประจำเดือนมาปกติแล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นการบ่งบอกว่าไม่มีการตั้งครรภ์ในครั้งนั้นครับ
ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้องก็จะยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2% ครับ ดังนั้นถ้าหากยังไม่มีประจำเดือนมาหลังการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ และถ้าหากไม่มีการตั้งครรภ์แต่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆหมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ
ส่วนการมีเลือดออกผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างรอบเดือนนั้นไม่ได้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เดือนที่แล้วประจำเดือนมาวันที่ 30 ตุลาคม ปกติแล้วประจำเดือนจะมาไม่ปกติ แล้ววันที่ 26 ตุลาคมมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน แต่ได้กินยาคุมฉุกเฉินแบบ2เม็ดไป(กินพร้อม2เม็ดทีเดียว)และเมนก็มาปกติ พอวันที่ 14 และ 15 พฤศจิกายน มีเพศสัมพันธ์อีกครั้งโดยที่สวมถุงยางอนามัยและเช็คแล้วว่าไม่มีถุงที่รั่วไหลและ พอวันที่ 21 พฤศจิกายน มีเลือดซึมออกมาเป็นสีน้ำตาลเข้ม ไหลมาแค่วันเดียวปริมาณเลือดไม่เยอะประมาณ 2 จุดปานกลาง ไม่ทราบว่าเป็นเลือดอะไร และตอนนี้วันที่ 4 ธันวาคม ประจำเดือนก็ยังไม่มา แบบนี้จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ไหม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)