August 14, 2019 01:01
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วถ้าหากมีการตั้งครรภ์ก็ไม่ควรที่จะมีประจำเดือนครับ การที่ยังมีประจำเดือนหรือมีเลือดออกทางช่องคลอดอยู่นั้นจะทำให้มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้น้อย
การที่มีประจำเดือนมาบ่อยหรือมีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือนนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- มีเนื้องอกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ นอกจากนี้ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้มีบุตรยากได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ประจำเดือนปกติ จะมีลักษณะดังนี้ค่ะ
1. มาสม่ำเสมอ ทุก 24-35 วัน โดยส่วนใหญ่ จะมาทุก 28 - 30 วันค่ะ
2. มาครั้งละ 3-7 วันค่ะ
3. ใช้ผ้าอนามัย วันละ ประมาณ 2-3 แผ่นค่ะ
4. มีอาการปวดท้องน้อยได้เล็กน้อย ช่วงวันแรกๆ ไม่ปวดรุนแรง
ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อย คือ เกิดจากภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรังค่ะ เมื่อไข่ไม่ตก เมนส์ก็ไม่มา บางครั้งมีเศษของเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดออกมา (แต่ไม่ใช่ประจำเดือน) ก็จะมีลักษณะเป็นเลือดออกกระปริยกระปรอย หรือเป็นเลือดสีดำๆได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม อันนี้เป็นแค่สาเหตุที่พบส่วนใหญ่นะคะ การจะรู้ได้แน่นอน ต้องได้รับการตรวจภายใน ตรวจอัลตราซาวด์ หรือบางรายตรวจเลือดร่วมด้วย เพื่อหาสาเหตุก่อนค่ะ และรักษาตามสาเหตุ
บางสาเหตุ อย่างไข่ไม่ตกเรื้อรัง ใช้การรักษาด้วยยาฮอร์โมนได้ค่ะ แต่บางสาเหตู อาจต้องตรวจเพิ่มเติม และรักษามากกว่านั้น
การมีบุตรยาก เกิดได้จากหลายสาเหตุเลยค่ะ
ทั้งสาเหตุ จากฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง หรือ จากทั้งสองฝ่าย
สาเหตุ ทางฝ่ายชาย ส่วนใหญ่ เกิดจากน้ำเชื้อผิดปกติค่ะ
สาเหตุทางฝ่ายหญิง ก็ยังเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่า จะเป็น
1. จากรังไข่ ไข่น้อย ไข่ไม่ตก
2. จากท่อนำไข่ ท่อนำไข่อุดตัน
3. จากโพรงมดลูกผิดปกติ ตัวอ่อนฝังตัวไม่ได้
4. สาเหตุจากปากมดลูก
5. สาเหตุจากการอักเสบ หรือ มีพังผืดในช่องท้อง
ถ้าพยายามสมีบุตรมานานเกิน 1 ปีแล้ว แนะนำปรึกษาแพทย์ค่ะ แพทย์จะทำการซักประวัติ หาความเสี่ยงต่างๆ และตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ และช่วยให้มีบุตร ตามสาเหตุที่พบต่อไปค่ะ
โดยการตรวจเบื้องต้น หาสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก
ทางฝ่ายชาย หลักๆ คือการตรวจน้ำเชื้อ (Semen analysis) ค่ะ คือการดูปริมาณ ความเขินการเคลื่อนไหว และ รูปร่าง ของเชื้ออสุจิ
ทางฝ่ายหญิง จะมีการตรวจภายใน ตรวจอัลตราซาวด์ดูมดลูกและรังไข่
ส่วนการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ อาจมีการตรวจฉีดสีดูท่อนำไข่ ตรวจเลือดดูฮอร์โมนเพื่อประเมินการทำงานของรังไข่ อันนี้ จะตรวจเลยหรือไมาแพทย์จะพิจารณาจากอายุฝ่ายหญิง ความเสี่ยงต่างๆ ระยะเวลาการมีบุตรยาก
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ มีข้อสงสัยอยากถามค่ะ เมื่อวันที่7ก.คเริ่มมีประจำเดือนค่ะมีประมาณ3วัน พอวันที่29ก.คก็มีประจำเดือนมาอีกค่ะ ส่วนเมื่อไม่กี่วันมานี่ค่ะประมาณวันที่11ส.คก็มีประจำเดือนอีกค่ะแต่รอบนี้มีอาการปวดท้องหน่วงๆค่ะ แต่ดิฉันกำลังปล่อยให้มีน้องค่ะปล่อยมา8เดือนแล้วค่ะหลังจากขูดมดลูกเมื่อเดือนพ.ยปีที่แล้วค่ะแต่ก็ยังไม่ติด จึงอยากจะถามคุณหมอค่ะว่าอาการมีประจำเดือนมาแบบนี้เกิดจากสาเหตุใดค่ะ มีโอกาสที่จะมีน้องได้ไหมค่ะ อยากมีมากๆค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)