December 25, 2019 14:21
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมแบบรายเดือนหากเริ่มทานภายในประจำเดือน 5 วันแรก จะมีประสิทธิภาพสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีครับ แต่หากทานนอกเหนือจากเวลานี้ต้องทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่องกันเป็นเวลาอย่างน้อย 7 วันครับ ยาคุมถึงจะเริ่มมีประสิทธิภาพ ระหว่าง 7 วันนี้แนะนำให้คุมกพเนิดโดยการใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ การทานยาคุมแบบรายเดือนต้องทานทุกวันสม่ำเสมอ ตรงเวลา ประสิทธิภาพการป้องกันจะอยู่ในช่วง 91-99.7% ครับ ส่วนเรื่องยาฝังคุมกพเนิด ผู้ถามสามารถไปฝังยาที่โรงพยาบาลรัฐด้วยตัวคนเดียวได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.ยาคุมแผงฮอร์โมนรวมซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปครับ ส่วนยาฉีดกับยาฝังต้องปรึกษาเเพทย์ที่รพ.ครับ
- ยากินเเเบบแผงรายเดือน คุมกำเนิดได้ดี มีประจำเดือนตามรอบ ผลข้างเคียงคือ คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม ขาบวม ใช้นานๆระยะยาวอาจมีฝ้าได้
(เเนะนำให้กินก่อนนอน จะได้ไม่ลืมเเละลดผลข้างเคียงเรื่องคลื่นไส้อาเจียน)
ถ้าจะไม่มีเพศสัมพันธ์เเล้ว ก็หยุดกินได้เลยครับ กลับมามีประจำเดือนตกไข่ได้เร็วใน1-2เดือน เเต่ต้องระวัง อย่าบืมกินยา จึงไม่เหมาะกับคนทำงานเป็นกะไม่ตรงเวลาครับ
- ยาฉีดคุมกำเนิด ฉีดเข็มเดียวได้3เดือน คุมกำเนิดได้ดี เเต่อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอย เดือนหลังๆมักจะค่อยๆหายไปจนไม่มีประจำเดือน น้ำหนักขึ้น สิวขึ้นได้ หากหยุดฉีดเเล้วต้องการให้ประจำเดือนมาปกติพร้อมที่จะมีลูกอีกครั้งใช้เวลานาน 9-12 เดือนครับ (เเบบฉีดราย 1 เดือนก็มีครับ ประจำเดือนตามรอบเหมือนยากินเเบบฮอร์โมนรวมครับ)
- ยาฝังคุมกำเนิด ฝังหนึ่งครั้งได้3-5ปี คุมกำเนิดได้ดี เเต่อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้(ผลข้างเคียงคล้ายยาฉีดเนื่องจากเป็นยาตัวเดียวกันครับ) ราคาค่อนข้างสูง 2,500 -3,000 เเต่สาธารณสุขจะมีโครงการฝังฟรีถ้าอายุไม่เกิน20ปีครับ เวลาฝังอาจเจ็บได้ ต้องมาเอาออกเวลาครบกำหนด หลังเอาเเท่งยาคุมออก สามารถกลับมามีประจำเดือนอนกไข่ เเละมีลูกได้เร็วกว่ายาฉีดครับ
2.เรื่องยาคุมเเบบกินเป็นเเผงรายเดือน
- ถ้าเป็นแผง21เม็ดหลังกินหมดเเผง ให้เว้น 7 วัน เเล้วเริ่มเเผงใหม่ครับ เเต่ถ้าเป็น28เม็ดเมื่อหมดเเผงให้กินเเผงต่อไปต่อได้เลยครับ ช่วงที่เว้น7วันก่อนเริ่มยาแผงใหม่จะมีประจำเดือนมาได้ครับ
- ส่วนกรณี28เม็ด ช่วงที่กิน7เม็ดสุดท้าย(เม็ดเเป้ง) จะมีประจำเดือนมาครับหรือบางยี่ห้อจะมีเม็ดฮอร์โมน24เม็ดครับ ช่วง4เม็ดสุดท้ายจะมีประจำเดือนมาครับ
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา ควรตรวจการตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ค่ะ ซึ่งความเสี่ยงจะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับประสิทธิภาพของวิธีคุมกำเนิดที่ใช้ และขึ้นกับความถูกต้องและเหมาะสมในการใช้วิธีดังกล่าวนะคะ
2. สำหรับยาคุมรายเดือน ถ้าใช้ถูกต้องและมีผลป้องกันจากยาแล้วจึงค่อยมีเพศสัมพันธ์ ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอค่ะ
3. สำหรับการใช้ยาคุมรายเดือนแผงแรก โดยทั่วไปจะแนะนำให้เริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ไม่มีการตั้งครรภ์อยู่อย่างแน่นอนก่อนที่จะใช้ยา ซึ่งหากใช้ทันช่วงเวลาดังกล่าว ยาจะมีผลยับยั้งไข่ที่จะกำลังจะตกในรอบเดือนนั้นได้เลย จึงถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานนะคะ
4. เมื่อใช้ยาคุมรายเดือนหมดแผงแล้ว ถ้าไม่ต้องการที่จะคุมกำเนิดด้วยวิธีเดิมต่อ เช่น ต้องการเปลี่ยนวิธี หรือพร้อมที่จะมีบุตรแล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องต่อยาคุมแผงใหม่ ซึ่งจะทำให้มีไข่ตกได้ตามปกติในรอบเดือนนั้น หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในช่วงที่ไม่มีผลคุมกำเนิดใด ๆ แล้วก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ตามปกติค่ะ
5. หากพิจารณาในด้านของประสิทธิภาพ ยาฝังคุมกำเนิดถือเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบันค่ะ โดยผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 0.05% เท่านั้น ด้านยาฉีดคุมกำเนิด ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.2 - 6% ส่วนยาเม็ดคุมกำเนิด ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.3 - 9% ค่ะ
6. ฮอร์โมนคุมกำเนิดทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นยาเม็ดคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด, ยาฝังคุมกำเนิด ก็มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมนทั้งนั้นค่ะ แตกต่างกันไปบ้างตามชนิดของฮอร์โมนและตามการตอบสนองของผู้ใช้แต่ละราย ซึ่งผลข้างเคียงทั่วไปที่อาจพบได้ ก็เช่น คลื่นไส้, อาเจียน, ปวดศีรษะ, บวมน้ำ, ฝ้า, สิว, เจ็บคัดตึงเต้านม, เลือดกะปริบกะปรอย แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อหาวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับผู้ถามนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หมอคะ ถ้าเกิดคิดจะมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วไม่อยากตั้งครรภ์ ควรกินยาคุมตอนไหนคะ ถ้าแบบ 28 เม็ด นี่ต้องเริ่มกินนี่ต้องเริ่มกินมาก่อนหรือเปล่าคะ แล้วต้องเริ่มกินได้แค่ตอนประจำเดือนมา 5 วันแรกหรอคะ (ประจำเดือนมาไม่ตรงกันทุกเดือน) แล้วอย่างี้เราต้องกินต่อไปเรื่อยๆเลยหรือเปล่าคะ (เอาง่ายๆคือต้องกินมาแล้วก่อนการมีเพศสัมพันธ์ใช่ไหมคะ) จะไปหาซื้อได้จากที่ไหนบ้างคะ สามารถเดินเข้าไปซื้อที่ร้านขายยาปกติเลยได้ไหม กินแบ้วจะมีผลข้างเคียงหรือเปล่า แล้วระหว่างยาคุมแบบฉีดกับแบบฝัง อันไหนดีกว่ากันคะ มีผลข้างเคียงอะไรไหมคะ สามารถไปทำเองคนเดียวที่รพ.ได้เลยไหม เพราะเคยบอกคนในครอบครัวแล้วเขาดูไม่สนใจเท่าไร ไม่ค่อยอยากให้ไป เพราะคิดว่าทำไปทำไม จะไปทำไรกับใคร เลยไม่อยากชวนเขาทะเลาะ เพราะอีกใจหนึ่งที่อยากทำไว้ก็เพราะกลัวพลาด ไม่อยากท้อง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)