หนูเครียดอะ แบบอยากตาย หนูอยู่เตรียมอุตมค่ะ เพื่อนส่วนมากก็อยากเป็นหมอ หนูก้ด้วย แต่พอต้นปีม.6 พ่อกับแม่หนูที่เลิกกันไปนานแล้วเค้าทะเลาะกันค่ะ ต่างคนก็ต่างใส่มาที่หนู พ่อว่าแม่แต่เป็นหนู่ที่ต้องฟัง จากนั้นมันยืดเยื้อ หนูก็ต้องเอนอีก หนูเริ่มปวดหัวข้างเดียวตลอดเวลา ตอนตุลาหนูเริ่มมีอาการชาด้านซ้าย หนูไปหาหมอมาแต่ไม่หาย ตอนก่อนสอบแม่บอกหนูว่ามีแฟนใหม่กำลังไปต่างจังหวัด แล้วหนูทะเลาะกับแม่ช่วงนั้น หนูติดต่อแม่ไม่ได้ 1 เดือนค่ะ จิตตกมากๆ หนู สอบไม่ติดหมอปีที่แล้ว ขณะที่เพื่อนหนูติดหมอทั้งกลุ่มเลยค่ะ หนูเลยตัดสินใจซิ่ว แต่ต้องย้ายมาอยู่กับพ่อ บ้านพ่อมีแต่ครอบครัวแม่เลี้ยง แล้วก็พ่อหนู น้องแม่เลี้ยงเค้าแซะหนูบ่อยมากๆ เค้าโขมยของหนูด้วย พอหนูโวยวายบ่อยๆ พ่อหนูบอกว่าตั้งแต่หนูมาบ้านนี้ปัญหาเยอะนะ หนูเครียดมากค่ะ บางวันเค้าทำข้าวให้หนูแบบส่งๆ พ่อหนูก็จัดการอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้หนูจะสอบหมอแล้ว แต่หนูไม่มีแรงใจอะไรเลยค่ะ หนูแบบอยู่ดีๆก็ร้องไห้แทบทุกวันเลย หนูเครียดมากๆค่ะ 0661592241

จากที่เล่ามา หนูต้องเจอกับปัญหามากมาย และหากไม่สามารถปรับตัวกับปัยหาเหล่านั้นได้ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต อย่างภาวะซึมเศร้าได้ง่ายค่ะ เบื้องต้นหนูลองเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน ไม่มีเลย 0 คะแนน มี 1-7 วัน 1 คะแนน ≥7 วัน 2 คะแนน ทุกวัน 3 คะแนน 1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร 2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้ 3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป 4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย 5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา 6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง 7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย 8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้ 9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ การรักษาจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อปรับสารเคมีในสมองให้หลั่งสมดุล ยับยั้งสารเคมีตัวที่ก่อให้เกิดความเครียด และเพิ่มสารความสุข เมื่อสารเคมีในสมองสมดุลเราสามารถควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมได้เหมาะสมมากขึ้นนะคะ ในกรณีของหนูพี่ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ แล้วอยากให้หนูปล่อยวางปัญหารอบตัวออกไปก่อน โฟกัสที่เป้าหมายของตัวเองก่อน หากเราใส่ใจกับความคิดหรือการกระทำของคนรอบข้างมากไป หนูก็จะท้อแท้ ไม่สามารถไปถึงเป้าหมายของตัวเองได้ ในระหว่างรักษากับจิตแพทย์ แนะนำให้หนูหมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด หาเวลาทำกิจกรรมที่ชอบ หรือ ไปฝึกสมาธิ เป็นต้น