ยาแก้บรรเทาปวด ชนิดแอสไพริน กับ พาราเซตามอล ตัวไหนเหมาะกับการบรรเทาอาการอาการปวดประเภทไหนบ้าง และตัวไหนดีกว่ากันครับ ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ สำหรับในปัจจุบัน ไม่มีแพทย์ท่านไหนสั่ง แอสไพรินเป็นยาแก้ปวดแล้วครับ เพราะผลเสียมากกว่าผลดีครับ สำหรับอาการปวดศีรษะเล็กน้อย ปวดเมื่อย ตามตัวเล็กน้อย สามารถใช้ยาพาราได้ครับ โดย สำหรับคำแนะนำในการกินยาพาราใน ปัจจุบันนะครับ คือ แนะนำให้กินครั้งละ หนึ่งเม็ด ขนาด ห้าร้อย มิลลิกรัม โดยกินไม่เกิน สี่ กรัมต่อวันครับ ถ้าเกินนี่จะเพิ่มโอกาสเกิดความเสียหายต่อตับได้ครับ ส่วน แอสไพริน ในปัจจุบันไม่นำมาเป็นยาแก้ปวดแล้วครับ เพราะผลเสียสำหรับการจะนำมาเป็นยาแก้ปวดมันมากกว่าผลดีครับ คือ ในเด็ก ทากิน แอสไพริน จะทำให้เด็กเกิด Reye's syndrome ได้ครับ ซึ่งจะทำให้ ตับ และ สมอง ของเด็กพังครับ ซึ่งในปัจจุบัน แอสไพรินถูกนำมาใช้เป็นยาต้านเกล็ดเลือดครับ สำหรับบุคคลที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ และสำหรับบุคลที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดครับ

ปัจจุบันไม่นิยมใช้แอสไพรินในการรักษาอาการแก้ปวดแก้ไข้เนื่องจากแอสไพรินมีผลข้างเคียงจากยาที่ค่อนข้างอันตราย ยาที่ใช้แก้ปวดแก้ไข้ที่แพทย์นิยมใช้และเห็นว่ามีคว่มปลอดภัยต่อผู้ใช้จะเป็นพาราเซตามอลและไอบูเฟนค่ะ ส่วนแอสไพรินมักใช้ในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองค่ะ อันนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นนะคะ รอข้อมูลที่ละเอียดมากกว่านี้จากเภสัชกรอีกทีนะคะ จะมีเภสัชกรมาตอบให้ค่ะ

แอสไพรินกับพาราเซตามอลใช้ลดไข้และระงับอาการปวดที่ไม่รุนแรงได้ดีพอ ๆ กันค่ะ แต่เนื่องจากพาราเซตามอลมีความปลอดภัยมากกว่า
ดังนั้น หากต้องการใช้เพื่อลดไข้ หรือระงับอาการปวดทั่ว ๆ ไป จึงควรเลือกใช้พาราเซตามอลมากกว่าแอสไพริน ในทางกลับกัน เนื่องจากพาราเซตามอลมีประสิทธิภาพในการต้านการอักเสบน้อยมากจนอาจจะถือได้ว่าไม่มีเลย ในขณะที่แอสไพรินที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบดีมาก พาราเซตามอลจึงด้อยกว่าแอสไพรินเมื่อนำมาใช้กับอาการปวดหรือไข้ที่มีการอักเสบร่วมด้วย เช่น การอักเสบของข้อ เอ็น หรือกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม มียาหลายตัวที่มีฤทธิ์ลดไข้ ระงับปวด และต้านการอักเสบได้ดีกว่าและปลอดภัยกว่าแอสไพริน ในปัจจุบันจึงไม่นิยมใช้แอสไพรินสำหรับลดไข้ ระงับปวด และต้านการอักเสบแล้วค่ะ