สวัสดีค่ะ คือหนูมีตกขาวเป็นเลือดและมีสีเหลืองปนมาด้วย เป็นไม่มากค่ะ หลังมีเพศสัมพันธ์1วันค่ะ ไม่มีกลิ่น คันนิดเดียวค่ะ ไม่มาก ไม่มีอาการปวดท้องน้อยค่ะ เป็นหลังมีประจำเดือน2อาทิตย์กว่าๆค่ะ เป็นมา4วันแล้วค่ะ ยังไม่ได้สักที ไม่ดีขึ้นด้วยค่ะ อยากทราบว่าหนูเป็นอะไร ทานยาอะไรดีคะ

สวัสดีค่ะ อาการมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น - มีบาดแผลในช่องคลอด ช่องคลอดฉีกขาด เช่นจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป เมื่อมีเพศสัมพันธ์จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บของช่องคลอดและมีเลือดออกได้ -มีการติดเชื้อในช่องคลอด หรือช่องคลอดอักเสบอยู่เดิม อาจพบมีอาการตกขาวผิดปกตินำมาก่อน พอมีเพศสัมพันธ์ จึงทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น และมีเลือดออกได้ค่ะ - ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก (cervical polyp) เป็นติ่งเนื้อที่โตขึ้นผิดปกติบริเวณปากมดลูก แต่ไม่ใช่เนื้อร้าย ทำให้เกิดอาการเลือดออกกะปริดกะปรอย หรือเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ สามารรักษาได้ด้วยการตัดออก - ปากมดลูกปลิ้นออก ซึ่งเป็นภาวะปกติที่พบได้ในผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ หากมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ - เนื้องอกในโพรงมดลูก อาจพบมีประวัติประจำเดือนมามากผิดปกติร่วมด้วย - การติดเชื้อในโพรงมดลูกหรือปากมดลูก อาจมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย มีตกขาวที่ผิดปกติ มีไข้ - มะเร็งปากมดลูก เป็นต้นค่ะ สาเหตุต่างๆ สามารถตรวจวินิจฉัยได้จากการตรวจภายในค่ะ แนะนำควรไปพบสูตินรีแพทย์นะคะ