สอบถามหน่อยพอดีประจำเดือนยังไม่มา ประจำเดือนของรอบที่แล้วมาวันที่29มิยถึง12กค แล้วทานยาคุมแบบให้นมลูกด้วย แต่สังเกตได้ว่าพอทานยาคุมหมดแผงประจำเดือนหยุดไหลเลยไม่ได้ซื้อยามากินต่อเพราะประจำเดือนมานานผิดปกติมาแบบกระปิดกระปอย แบบนี้เกี่ยวกับยาคุมไหมคะ แล้วเวลามีอะไรกับแฟนจะใช้ถุงยางอนามัยตลอด แบบนี้มีสิทธท้องไหมคะเคลียดมากเลยคะ

สวัสดีครับ
ในช่วงที่ยังให้นมลูกอยู่นั้นประจำเดือนอาจจะยังไม่มาได้เนื่องจากในช่วงนี้ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนโปรแลคตินออกมายับยั้งการตกไข่ครับ ส่วนการมีเลือดออกผิดปกตินั้นอาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมสูตรให้นมบุตรได้โดยเฉพาะในช่วงที่รับประทานยาคุมแผงแรกๆครับ

ถ้าหากในช่วงที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยมาตลอดและใช้ได้อย่างถูกต้อง โอกาสตั้งครรภ์ก็จะมีเพียง 2% เท่านั้น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มากครับ

แต่ถ้าหากต้องการความมั่นใจก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตร (เอ็กซ์ลูตอน, เดลิต้อน และซีราเซท) เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวค่ะ ผลข้างเคียงเด่น ๆ ก็คือการมีเลือดออกกะปริบกะปรอย, ประจำเดือนไม่ปกติ หรือไม่มีประจำเดือน

ถ้าผู้ถามไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง เลือดกะปริบกะปรอยที่พบก็น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมนั่นเองค่ะ

เมื่อไม่ได้ต่อยาคุมแผงใหม่ก็จะไม่มีผลป้องกันจากยาคุมที่เคยใช้แล้วนะคะ อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาดก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์แค่เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

ดังนั้น หากทนผลข้างเคียงจากยาคุมชนิดนี้ไม่ได้ และไม่ต้องการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ แทน ก็สามารถใช้ถุงยางอนามัยป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ

ก่อนที่จะเริ่มรับประทานยาคุมหลังคลอด ถ้าผู้ถามมีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงการยับยั้งไข่ตกจากการให้นมบุตรไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะป้องกันการตั้งครรภ์แล้วนะคะ

หรือต่อให้ผู้ถามจะยังไม่มีประจำเดือนมาเลยก่อนที่จะรับประทานยาคุม แต่ถ้าผู้ถามเคยใช้ยาคุมสูตรหญิงให้นมบุตรมาแล้ว ก็จะประเมินได้ยากว่ายังมีผลยับยั้งไข่ตกจากการให้นมบุตรอยู่หรือเปล่า เนื่องจากการที่มีเลือดออกมา หรือการที่ไม่มีประจำเดือน อาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมที่ใช้ก็ได้

ดังนั้น เมื่อหยุดรับประทานยาคุมไปแล้ว แนะนำให้รอประจำเดือนมาก่อนจึงค่อยฉีดยาคุมภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ถามไม่ได้ตั้งครรภ์อยู่ค่ะ และถ้าฉีดยาคุมเข็มแรกทันช่วงเวลานี้ ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ทันทีนะคะ

หรือให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน ถ้าผลตรวจออกมาเป็นไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถฉีดยาคุมได้ แต่ให้งดมีเพศสัมพันธ์ต่อ หรือให้ใช้ถุงยางร่วมด้วย ไปอีก 7 วันหลังฉีดยาคุมค่ะ

ถ้าหากต้องการเริ่มฉีดยาคุมในตอนนี้หมอก็แนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์และรอตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนครับ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครับครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ

ถ้าหากตรวจการตั้งครรภ์ตามนี้แล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็สามารถไปฉีดยาคุมได้ครับ โดยหลังฉีดยาคุมแล้วก็จะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนเป็นเวลา 7 วันเพื่อรอให้ยาคุมออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่ก่อนครับ