July 30, 2019 00:09
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ประจำเดือนขาด เป็นสัญญาณหนึ่งของการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
(แต่อาการปัสสาวะบ่อย ไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์ในช่วงแรกค่ะ)
หากผู้ถาม มีประวัติการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันนั้น มีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้สูงค่ะ. แนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ 14 วัน นับจากวันที่มีการปฏิสนธิ จะให้ผลน่าเชื่อถือถึง 99%ค่ะ
***หากการตรวจครั้งที่แล้ว ไม่ถึง 14 วันจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย แนะนำตรวจซ้ำอีกครั้งค่ะ
หากพบการตั้งครรภ์ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์ ณ รพ ที่มีสิทธิ์การรักษาค่ะ
แต่หากไม่พบการตั้งครรภ์ อาจเกิดจากประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งการที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปไม่กี่วันนั้นมีปัจจัยได้หลายอย่างค่ะ ทั้งจากตัวผู้ป่วยเอง การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ความกังวล การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาอื่น น้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป ฮอร์โมนในเลือดผิดปกติ การออกกำลังอย่างหนัก ล้วนแต่ทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้
กรณีนี้ แนะนำพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย เพื่อให้วงจรฮอร์โมนในร่างกายกลับมาปกติ
และควรไปพบสูติแพทย์หากประจำเดือนขาดมากกว่า 3 เดือนติดต่อกัน หรือ 3 รอบเดือนตลอด 1 ปีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ
แต่ในกรณีที่ประจำเดือนมาช้ากว่าปกติหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้ถูกต้องก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากยังตรวจการตั้งครรภ์ได้ไม่ถูกต้องหมอก็แนะนำให้ลองตรวจใหม่อีกครั้งเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แต่ถ้าหากได้ตรวจอย่างถูกต้องแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ประจำเดือนมาล่าสุดวันที่21เดือนมิถุนายนแล้วหลังประจำเดือนหาย มีอะไรกับแฟนใส่ถุงยางเอามาแตกนอกทุกครั้งเดือนกรกฎาคมประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะจนวันที่29 ประมาณวันที่20กว่าๆซื้อที่ตรวจครรย์มาตรวจแต่ขึ้นขีดเดียวช่วงนี้ปัสสาวะบ่อยด้วยค่ะ แบบนี้ท้องไหมคะ เคียดมากกก.
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)