คือหนูเริ่มกินยาคุมเเผงเเรก ยี่ห้อsucee เเละเริ่มกินเม็ดเเรกวันที่30สิงหาคม ซึ่งประจำเดือน เดือนสิงหาคมยังไม่มาเลย หนูกินมาเรื่อยๆจนถึงเม็ดที่12 ตรงกับวันที่6เดือนกันยายน หนูปวดท้องน้อยคล้ายๆปวดประจำเดือน เเล้วก้มีเลือดออกเหมือนประจำเดือน หนูมีเพศสัมพันธ์เเล้วหลั่งใน หนูจะท้องมั้ยคะ

สวัสดีครับ
ในกรณีที่ไม่ได้เริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนแต่ได้รับประทานยาคุมติดต่อกันมามากกว่า 7 วันแล้ว ยาคุมก็จะสามารถออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่แล้วครับ ทำให้ในกรณีนี้สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยแล้ว โดยจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาที่ผ่านมาครับ

ส่วนอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดนั้น ในที่รับประทานยาคุม 1-3 แผงแรกนั้นจะมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยเกิดขึ้นได้เล็กน้อยครับ แต่ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก หรือออกมาติดต่อกันหลายวัน หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนเนื่องจากในกรณีนี้อาจมีความผิดปกติอื่นที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาซ่อนอยู่ได้ เช่น มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน มีความผิดปกติของมดลูก หรือเยื่อบุโพรงมดลูก เป็นต้นครับ

ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดฮอร์โมนจองยาคุม sucee อยู่ก็จะยังไม่ใช่ประจำเดือนครับ ในช่วงที่รับประทานยาคุม sucee อยู่ประจำเดือนควรจะมาตามนี้ขึ้นอยู่กับว่ารับประทานยาคุมชนิด 21 หรือ 28 เม็ดครับ
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 21 เม็ด ประจำเดือนก็ควรจะมาในช่วงที่เว้นการรับประทานยา 7 วันก่อนเริ่มยาแผงใหม่
- ถ้าหากรับประทานยาคุมชนิด 28 เม็ด ประจำเดือนก็จะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดแป้ง 7 เม็ดสุดท้ายของแผง

อาการมีเลือดออกหรือปวดท้องในลักษณะนี้ไม่ได้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ ในตอนนี้หมอแนะนำให้ใจเย็นๆและรับประทานยาคุมต่อเนื่องไปก่อน และถ้าหากประจำเดือนไม่มาในช่วงเวลาที่หใอได้แนะนำไปข้างต้นก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูในตอนนั้นอีกที คือ ให้ตรวจการตั้งครรภ์โดยใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าของวันที่จะเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ก่อน ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็สามารถรับประทานยาคุมแผงต่อไปได้ครับ

เนื่องจากตามที่เล่ามานั้นวันที่มีเพศสัมพันธ์เป็นวันที่รับประทานยาคุมติดต่อกันมามาหหว่า 7 วันแล้วซึ่งในกรณีนี้ยาคุมก็จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่แล้ว

ทำให้ในกรณีนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มากเพราะโอกาสตั้งครรภ์จะมีได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ