February 19, 2018 22:26
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
ยาคุมฉุกเฉินจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้แค่ประมาร 80-85% เท่าัน้นครับ ดังนั้นถ้าถามว่าจะท้องไหม คงตอบไม่ได้นะครับ ตอบได้แค่ว่าเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์น้อยลงเพราะคุณได้รับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปแล้ว อาจจะรอหลังจากนี้ไปประมาณ 2-3 สัปดาห์หรือรอรอบเดือนตอ่ไปว่ายังมาอยู่หรือไม่ ค่อยตรวจการตั้งครรภ์ดูครับ จะช่วยบอกได้ดีที่สุดว่าเราตั้งครรภ์หรือไม่ ส่วนอาการชอบกินของเปรี้ยว กินเยอะ ไม่จำเพาะเจาะจงกับคนตั้งครรภ์เสมอไปครับ และอาจจะเร็วไปด้วยซ้ำ เพราะพึ่งมีเพศสัมพัรธ์ไปเมื่อวันที่ 15 กว่าที่อสุจิและไข่จะปฏิสนธิกันและเคลื่อนตัวมาฝังตัวที่ผนังมดลุกก็จะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 วันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
อาการที่เป็นไม่ใช่อาการแพ้ท้องหรอกค่ะ เพราะต่อให้ไข่กับอสุจิผสมกัน (หรือเรียกว่า "การปฏิสนธิ") ได้ก็ตาม กว่าจะไปฝังตัวเกิดเป็น "การตั้งครรภ์" ก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 วันนะคะ เพราะฉะนั้น ถ้ามีเพศสัมพันธ์วันที่ 15 ในวันนี้ยังไม่มีการตั้งครรภ์หรอกค่ะ
แต่มีความเสี่ยงหรือไม่ที่จะเกิด "การปฏิสนธิ" ขึ้นแล้ว?
แน่นอนค่ะ...มีความเสี่ยง และยาคุมฉุกเฉินก็ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ ต่อให้รับประทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15% ค่ะ จึงเป็นเหตุผลที่ไม่แนะนำให้ใช้ยาคุมฉุกเฉินเพื่อแทนวิธีคุมกำเนิดปกติ แต่ควรใช้เมื่อฉุกเฉินเช่น ถุงยางรั่วซึมหรือฉีกขาด, ลืมรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด หรือในกรณีที่ถูกข่มขืน
ดังนั้น ถ้าต้องการทราบว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ ให้รอหลังมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 14 วันแล้วตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะนะคะ (หรือถ้าตรวจทางเลือดก็รอหลังมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 9 วันค่ะ) หรือถ้ามีประจำเดือนมาก่อนหน้านั้นแล้ว ก็คือไม่ตั้งครรภ์ค่ะ
แต่ภายใน 7 วันหลังจากที่รับประทานยาคุมฉุกเฉิน ผู้ใช้บางคนอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยค่ะ นั่นคือผลข้างเคียงจากยาที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้นะคะ ไม่ใช่ประจำเดือน การมีหรือไม่มีเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ค่ะ
ส่วนประจำเดือน น่าจะมาตามรอบปกติค่ะ อาจคลาดเคลื่อนบ้าง แต่มักไม่เร็วหรือช้าเกิน 1 สัปดาห์จากกว่าวันที่คาดไว้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
อาการแพ้ท้องจะไม่ได้เกิดขึ้นทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ และอาการเหล่านี้ก็ไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นอาการแพ้ท้องเสมอไปค่ะ สำหรับถ้าทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ยังไม่สามารถบอกได้100%อยู่ดีว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า ขึ้นกับว่าทานยาคุมเร็วเพียงใดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ถ้าทานภายใน12 ชม หลังมีเพศสัมพันธ์ จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ถึง85% แล้วก็จะลดมาตามลำดับหากทานหลังจากนั้นค่ะ ยังไงวิธีที่จะตรวจการตั้งครรภ์ที่ดีที่สุดไม่ใช่สังเกตอาการแพ้ท้อง แต่ให้ตรวจปัสสาวะเองดูค่ะ และควรป้องกันในการมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไปด้วยค่ะ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีเพศสัมพันธ์วันที่15กินยาคุมฉุกเฉินวันที่16จะท้องไหมเพราะหลังจากมีเพศสัมพันธ์มามีอาการปวดหัว กินของเปรี้ยวและกินเยอะจนวันนี้วันที19ก็ยังปวดหัวและกินเยอะและของเปรี้ยวทุกวัน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)