April 16, 2017 12:52
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การเกิดแก๊สในท้อง อาจมีสาเหตุจาก กินอาหารปริมาณมาก,กลืนอากาศมากกว่าปกติ เช่น สูบบุหรี่ เคี้ยวหมากฝรั่ง กิน/เคี้ยวเร็ว อมลูกอม/ทอฟฟี่ ใช้หลอดดูดน้ำ/อาหาร และใส่ฟันปลอมที่หลวมไม่พอดี,ขาดน้ำย่อยอาหารบางชนิด เช่น ขาดน้ำย่อยนม/ไขมัน,
ท้องผูก ,เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน เช่น ช่วงก่อนหรือมีประจำเดือน,โรคกรดไหลย้อน , โรคบางชนิดของกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น โรคกระเพาะอาหารอักเสบ โรคลำไส้แปรปรวน และโรคของเส้นประสาทที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร-ลำไส้ ส่งผลให้ขับแก๊สออกได้น้อย ,ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดที่ลดการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร-ลำไส้ เช่น ยาแก้ปวดในกลุ่มยาเสพติด และในกลุ่มยาต้านการอักเสบเอ็นเสดส์ (NSAIDs) ส่งผลให้ขับแก๊สออกได้น้อย,
ปัญหาทางอารมณ์ จิตใจ เช่น ความเครียด ซึ่งส่งผลต่อการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร และการเคลื่อนไหว บีบตัวของลำไส้
วิธีการบรรเทาเบื้องต้นอาจทานยาช่วยขับลม ปรับพฤติกรรมการกิน โดยทานอาหารย่อยง่าย รสไม่จัด ทานแต่พอดี หากหิวบ่อยสามารถทานเพิ่มมื้อได้ ไม่ทานอาหารก่อนนอน งดอาหารหมักดองรวมถึงชาและกาแฟ ผ่อนคลายความเครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีอาการปวดท้องด้านซ้ายทุกวัน วันละหลายครั้ง อัลตร้าซาวด์แล้วตรวจภายในแล้ว ปกติหมอแจ้งว่ามีลมในท้องเยอะ จ่าย air-x และยาอีก 2 ตัวมา แต่ก็ไม่หายค่ะ ปวดแบบนี้มาปีกว่าแล้วค่ะ อยากหายจากโรคนี้สักที
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)