August 24, 2019 18:26
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
เเนะนำให้หาเวลาไปตรวจภายในดูลักษณะของรอยโรคนะครับ ที่แผนกสูตินรีเวช
อาการคันช่องคลอด สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
เช่น ถ้ามีเยื่อบุบริเวณนั้นบวมแดง มีตุ่ม ก็เป็นสาเหตุของอาการคันได้ เช่น ตุ่มจากผื่นเเพ้ หรือติดเชื้อ เช่น ตัวโลน เป็นต้น
ถ้าเป็นผื่นเเดงขุยๆชอบใส่กางเกงอับชื้น น่าจะเป็นเชื้อราได้ครับ
หรือถ้ามีตกขาวปริมาณที่มากขึ้นร่วมด้วย อาจเกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด ร่วมกับการติดเชื้อที่อวัยวะเพศด้านนอกด้วย ทั้งนี้เกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด สามารถเกิดได้จากทั้ง เชื้อรา แบคทีเรีย
เช่น
การติดเชื้อราในช่องคลอด
จะมีตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ติดอยู่กับผนังช่องคลอดได้ ร่วมกับช่องคลอดเเดง คันช่องคลอด มีปวดเเสบได้
หรือโรคติดเชื้อในช่องคลอดชนิดหนึ่ง คือ Bacterial vaginosisครับ (เเบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุล เชื้อชื่อ Gardernella vaginallis จึงเเบ่งตัวมากขึ้น)
อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ตกขาวมีกลิ่นอับ (musty) หรือคาวปลา (fishy) มักมีกลิ่นรุนแรงภายหลังการร่วมเพศ ซึ่งเกิดจากการทําปฏิกิริยากับ อสุจิ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง แล้ว
ปลดปล่อยกลิ่น ออกมา
ส่วนถ้าตกขาวขุ่นเขียวเหลืองๆ จะมีเลือดปนด้วยหรือไม่มี อาจเป็นการติดเชื้อเเบคทีเรียเช่นหนองใน หรือโปรโตซัวพวก Trichomonas
..........
ถ้าสงสัยผื่นเชื้อรา ลองทาพวกยาฆ่าเชื้อรา เช่น Clotrimazoleครีม Zalainครีม เป็นต้นครับ
การรักษาถ้าสงสัยเรื่องตกขาวติดเชื้อ คันช่องคลอดคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร เช่น ถ้าเเบคทีเรีย ส่วนใหญ่ให้ Metronidazole หรือ ถ้าเป็นเชื้อรา ก็เหน็บยาพวก Clotrimazole ครับ อาจปรึกษาเภสัชกรซื้อยามาก่อนได้ครับ
เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ
..........
ให้งดการสวนล้างช่องคลอด งดใส่กางเกงคับเเน่น อับชื้นครับ
หรือถ้าผื่นเเพ้ผิวหนัง เบื้องต้นทานยาลดอาการคัน เช่น CPM Atarax (กินเเล้วง่วงได้) หรือ Cetirizine Loratadine เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
คันในช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
-การติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, เชื้อปรสิต
-ช่องคลอดอักเสบ
-การแพ้ต่างๆ เช่น แป้ง, สบู่, น้ำยาสวนล้างช่องคลอด เป็นต้น
เบื้องต้นแนะนำ งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น และลองเปลี่ยนสบู่ หรือแป้งที่ใช้ ดูครับ
เรื่องตกขาวปกติจะมีสีขาวใส และไม่มีกลิ่นครับ
ตกขาวที่มีสีหรือกลิ่น หรือมีเลือดปน มักเป็นตกขาวที่ผิดปกติครับ ซึ่งเกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- ตกขาวสีขาว เป็นก้อนเปียก มีกลิ่น คล้ายนมบูด และคัน อาจจะเกิดจากเชื้อราครับ
- ตกขาวสีขาวปนเทา กลิ่นคล้ายคาวปลา อาจจะเกิดจากการสวดล้างช่องคลอด ทำให้แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดไม่สมดุลครับ
- ตกขาวสีเขียวปนเทา กลิ่นเหม็น มีฟองมาก และคัน อาจเกิดจากเชื้อปรสิต
-ตกขาวสีเหลือง/เขียว เจ็บ/คันรอบช่องคลอด หรือเจ็บขณะปัสสาวะหรือมีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากเชื้อหนองในแท้หรือหนองในเทียม
-ตกขาวปนเลือด สามารถเป็นได้จากหลายสาเหตุครับ
เช่น ก่อนประจำเดือนมา อาจเป็นอาการปกติได้ เพราะมีการหลุดลอกของเยื่อยุโพรงมดลูก
, ติดเชื้อในโพรงมดลูก มดลูกอักเสบ หรือเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
เป็นต้นครับ
เบื้องต้น งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น ครับ
แนะนำให้ ไปพบแพทย์หรือสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจนำตกขาวไปตรวจเพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง และที่สำคัญถ้านำคู่นอนไปตรวจด้วยก็จะดีครับ เผื่อเป็นโรคที่จะต้องรักษาด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ ดิฉันมีอาการคันบริเวณนอกอวัยวะเพศเป็นระยะเวลานานแล้ว บางครั้งคันจนแสบและเจ็บ มีตกขาว บางครั้งก็มีกลิ่นแรง อยากทราบว่าควรรักษายังไงดีคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)