มีอาการแสบคันมาก มีตกขาว และมีผื่นบวมแดงๆ บริเวณแคมเล็กถึงฝีเย็บค่ะ อาการเหล่านี้มาหลังจากการมีเพศสัมพันธุ์กับแฟนทุกครั้ง มีอาการนานเป็นสัปดาห์ แฟนสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง แต่มีออรัลเซ็กซ์ จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มั้ยคะ บางคนบอกน่าจะแพ้ถุงยางหรือมีเพศสัมพันธุ์นานเกิน ไม่มั่นใจค่ะเพราะคนที่บอกไม่ใช่หมอ แต่กลัวเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์มากค่ะ จะไปตรวจก็ไม่กล้ว คุณหมอช่วยตอบทีค่ะว่าเกิดจากอะไร

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดขึ้นจากการติดต่อกันผ่านทางเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศทางช่องคลอด ทางปาก หรือทวารหนัก กับผู้ที่กำลังมีเชื้อ สาเหตุของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ
1. เกิดจากเชื้อไวรัส ได้แก่ เริมที่อวัยวะเพศ หูดหงอนไก่ ไวรัสตับอักเสบบี ฯลฯ
2. เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ได้แก่ ซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม ท่อปัสสาวะอักเสบ ช่องคลอดอักเสบ ฯลฯ
3. เกิดจากเชื้ออื่น ๆ เช่น พยาธิ
คนที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือ คนที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน ในช่วง 3 เดือน ,ผู้ที่มีประวัติป่วยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ใน 1 ปีที่ผ่านมา
อาการที่บ่งถึงการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในผู้หญิงมักจะมีอาการดังนี้ จะรู้สึกเจ็บ เสียวท้องน้อย ขาหนีบบวม หรือเป็นฝี เจ็บปวด คันอวัยวะเพศ มีผื่น ตุ่ม แผลบริเวณอวัยวะเพศ มีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นเหม็น ฯลฯ
ดังนั้นการที่คุณมีอาการผิดปกติ คุณควรไปพบแพทย์รับการตรวจอื่นๆเพิ่มเติม คุณหมอจึงจะบอกได้ว่ามันคืออาการแพ้หรือเกิดจากการติดเชื้อทางโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ค่ะ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ปัจจุบันไม่ได้น่ากลัว ตรวจพบเร็ว รับการรักษาเร็ว มีวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง ก็มีโอกาสหายเป็นปกติได้ค่ะ

ปกติแล้วตกขาว หรือ ระดูขาว หมายถึง สิ่งที่ถูกขับออกมาทางช่องคลอดซึ่งไม่ใช่เลือด อาจมีสีอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสีขาว อย่างไรก็ตามตกขาวเป็นเพียงอาการไม่ใช่โรค ซึ่งอาจมีอาการอื่น ๆ ที่พบร่วมด้วย เช่น อาการคัน ช่องคลอดมีกลิ่น หรือเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ 1. ตกขาวปกติ ตกขาวปกติมีลักษณะสีขาว เนื้อหยาบ ไม่มีกลิ่น 2. ตกขาวผิดปกติ ซึ่งมีสาเหตุจากอาการอักเสบ, การติดเชื้อ เนื้องอก, การแพ้สารเคมีและยา การบาดเจ็บของอวัยวะสืบพันธุ์ เป็นต้น กลิ่นเหม็น เป็นฟอง เป็นสีเขียวหรือเหลืองมาก ในกรณีของผู้ป่วย หากเป็นตกขาวที่ผิดปกติ อาจจะเกิดจากการติดเชื้อ ถ้าหากติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ จากคู่นอน มีความเป็นไปได้ว่าคู่นอนอาจมีเชื้อแต่ไม่ได้รับการรักษา เนืองจากในผู้ชายนั้นมักจะไม่แสดงอาการ ก็จะทำให็ผู้ป่วยมีปัญหาติดเชื้อเรื้อรังหรือรักษาไม่หายขาดค่ะ ทั้งนี้ควรพบสูตินรีแพทย์เพื่อนการตรวจร่างกายและการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ