September 04, 2019 13:21
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.เรื่องเลือดออก ของคนไข้บอกยากครับ เป็นได้ตั้งเเต่ ประจำเดือน เลือดที่เป็นผลจากยาคุมฉุกเฉิน(หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ))
แผลจากการมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้นครับ อาจลองสังเกตอาการก่อนได้ถ้าเลือดไหลไม่มากเเล้ว เเต่ถ้าออกมากชุ่มผ้าอนามัย4-5ผืน ปวดท้องน้อยมากๆ ควรพบสูตินรีเเพทย์โดยเร็วครับ
ส่วนเรื่องจะท้องไหม การมีเพศสัมพันธ์หลั่งใน มีโอกาสท้องเเน่นอนครับ
ดังนั้นครั้งนี้ก็ควรกินยาคุมฉุกเฉินแผงใหม่ได้ครับแต่อาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการข้างเคียงจากยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บเต้านม เลือดประจำเดือนแปรปรวน หรือมีเลือดออกผิดปกติ
เเละหลังจากนี้เมื่อชัวร์เเล้วว่าไม่ได้ท้องหากต้องการมีเพศสัมพันธ์ต่อไปแนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัย หรือรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติทั่วไปครับ
2.เรื่องตกขาว ถ้าตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ร่วมกับคันช่องคลอด แสบช่องคลอด อาจเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ ส่วนถ้าตกขาวขุ่นเขียวเหลืองๆ จะมีเลือดปนด้วยหรือไม่มี อาจเป็นการติดเชื้อเเบคทีเรียเช่นหนองใน หรือโปรโตซัวพวก Trichomonas ซึ่งอาจเกิดจากการที่เราสวนล้างช่องคลอด หรือ กินยาฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมดุลเเบคทีเรียในช่องคลอดเสียครับ เชื้อก่อโรคในช่องคลอดจึงเเบ่งตัวเเละเกิดการติดเชื้อได้ หรืออาจติดเชื้อมาจากคู่นอนก็เป็นไปได้ครับ
หรือโรคติดเชื้อในช่องคลอดชนิดหนึ่ง คือ Bacterial vaginosisครับ (เเบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุล เชื้อชื่อ Gardernella vaginallis จึงเเบ่งตัวมากขึ้น)
อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ตกขาวมีกลิ่นอับ (musty) หรือคาวปลา (fishy) มักมีกลิ่นรุนแรงภายหลังการร่วมเพศ ซึ่งเกิดจากการทําปฏิกิริยากับ อสุจิ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง แล้ว
ปลดปล่อยกลิ่น ออกมาครับ
การรักษาเรื่องตกขาวติดเชื้อ คันช่องคลอดคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร เช่น ถ้าเเบคทีเรีย ส่วนใหญ่ให้ Metronidazole ส่วนเชื้อรามักใช้เป็น Clotrimazoleสอดครับ
ปรึกษาเภสัชกรลองเรื่องยาก่อนได้ครับ เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
อาการดังกล่าว อาจเรียกว่าเป็นเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดค่ะ โดย อาการเลือดออกทางช่องคลอด สามารถเกิดได้หลายสาเหตุค่ะ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป ช่องคลอดแห้งระคาย เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งปากมดลูก เนื้องอกในมดลูก อุ้งเชิงกรานอักเสบ เป็นต้นค่ะ แต่ละโรคก็จะมีอาการแสดงร่วมอื่นๆที่ทำให้นึกถึงต่างกันไปค่ะ และอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดนั้น ไม่ได้เป็นการบ่งบอกการตั้งครรภ์ หรือไม่ตั้งครรภ์ค่ะ หากสงสัยหรือมีประวัติมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ควรตรวจครรภ์ก่อน เพื่อให้การวินิจฉัยแยกโรคแคบลงค่ะ
สำหรับอาการตกขาวที่ผิดปกติไป มีปริมาณมากขึ้น และคันนั้น ทำให้นึกถึงหารติดเชื้อในช่องคลอดได้ค่ะ ซึ่งเชื้อที่นึกถึงมากที่สุดคือเชื้อราค่ะ โดยการติดเชื้อในช่องคลอดนั้น ก็ทำให้มีอาการแสดงของเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้
กล่างโดยสรุปคือ
1. แนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ 14 วัน นับจากวันที่มีการปฏิสนธิ จะให้ผลน่าเชื่อถือถึง 99%ค่ะ
2. เรื่องตกขาว แนะนำไปตรวจภายใน เพื่อนำเชื้อไปย้อมดูใต้กล้องจุลทรรศน์เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้อง และยาที่ตรงเชื้อค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ พอดีมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วแล้วมีเลือดออกแต่แฟนไม่ได้ใส่ถุงยางจะท้องมั้ยคะ?? แล้วหลังจากนั้นก็เป็นตกขาวเป็นก้อนแล้วก็เป็นน้ำเยอะจนต้องใส่ผ้าอนามัย และมีเลือดออกกระปริดกระปรอย และคันที่อวัยวะเพศร่วมด้วยเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างคะ?? #ก่อนหน้านี้มีกินยาคุมฉุกเฉินด้วยค่ะ #ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กับแฟนจะมีเลือดออกกระปริดกระปรอยบางทีก็เยอะด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)