หมอคะ - มี พสพ ใช้ถุงยางทุกครั้งค่ะ ไม่ขาดไม่รั่วเช็คทุกครั้งหลังเสร็จกิจ - มีครั้งนึงที่ของ ผช จิ้มโดนด้านข้างของมิมิ๊เรา แบบยังไม่ได้สอดค่ะ (ไม่ได้ใส่ถุง แบบกำลังจะเริ่มทำกิจค่ะ) ตกใจเลยไปล้างน้ำค่ะ - แต่ ปจด ยังไม่มาค่ะ เดือนแล้วมา 23 ค่ะ จนได้รอบเดือน 35 วันแล้วค่ะ - กังวลมากเลยตรวจปัสสาวะแบบหยด ขึ้น1ขีดค่ะ - มีอาการ 1. ปวดท้องน้อยเหมือน ปจด จะมา แต่ก็ไม่มาสักทีค่ะ 2. เจ็บนมและขยายใหญ่ขึ้นค่ะ (ได้1อาทิตย์แล้วค่ะ) 3. ปวดหลัง สิวขึ้นบ้าง ตกขาวบ้างค่ะ อยากถามว่าท้องไหมคะ ทำไม ปจด ไม่มาทั้งๆที่ใช้ถุงค่ะ และมีอาการที่ว่ามาค่ะ แล้วที่ของผช จิ้มโดนนี่มีส่วนเกี่ยวข้องไหมคะ

สวัสดีครับ
จากที่เล่ามานั้นหมอคิดว่ายังไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มากครับ เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้น ส่งนการที่อวัยวะเพศชายมาสัมผัสกับภายนอกของช่องคบอดนั้นก็จะไม่สามารถทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได่อยู่แล้วครับ

แต่เมื่อประจำเดือนมาช้าไปกว่าปกติแล้ว หมอก็แนะนำว่าควรมีการตรวจการตั่งครรภ์ยืนยันดูในช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ ถ้าหากที่ผ่านมายังไม่ได้ตรวจการตั้งครรภ์ในช่วงเวลานี้ก็ควรตรวจใหม่ในเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง แต่ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้วก็สามารถสบายใจเรื่องการตั้งครรภ์ได้ครับ

นอกจากนี้อาการปวดท้องย้อย เจ็บเต้านม เต้านมขยาย มีสิวขึ้น มีตกขาวก็อาจเป็นอาการนำก่อนที่ประจำเดือนจะมาได้ ถ้าหากได้ตรวจการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็จะสามารถรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ครับ

ถ้าหากไม่ต้องการรอตรวจการตั้งครรภ์จากปัสสาวะซึ่งจะเริ่มตรวจได้ช้ากว่าก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน HCG ได้เมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 10 วันครับ