ถ้ามีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน 2 ครั้ง แต่ละรอบห่างกันไม่กี่ชม. แต่แตกที่อื่นที่ไม่ใช่ในอวัยวะเพศ(เช่นปาก บนตัว) ทั้ง2ครั้ง จะมีโอกาสท้องเพราะน้ำหล่อลื่นมั้ยคะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก่อนเพื่อบดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ

และหลังจากนี้ก็ควรมีเพศสัมพันธ์โดยการป้องกันทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ

เมื่อมีการสอดใส่โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย แม้ว่าจะไม่มีการหลั่งในช่องคลอด แต่โดยทั่วไปก็ถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ตามวิธีหลั่งนอกค่ะ

เมื่อเทียบกับการใช้ถุงยางอนามัย ที่ถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ก็จะเห็นได้ว่าการหลั่งนอกมีความเสี่ยงสูงกว่ามากและไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ

ดังนั้น หากต้องการลดความเสี่ยงดังกล่าวให้น้อยลง ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินทัน หรือเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งถ้าใช้เร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15% แทนได้

ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน

และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ หากยังไม่พร้อมจะมีบุตร และไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ

ถึงแม้จะไม่ได้มีการหลั่งใน แต่ในขณะที่มีการสอดใส่อยู่ก็อาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ ในกรณีนี้จึงยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อยู่ และควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดตามที่หมอได้แนะนำไปครับ

"หลั่งที่อื่นก็มีความเสี่ยงหรือคะ"

ความเสี่ยงเกิดในระหว่างที่มีการสอดใส่โดยไม่ใช้ถุงยางค่ะ เพราะอาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นและทำให้ตั้งครรภ์ได้นั่นเอง ซึ่งแม้ความเสี่ยงดังกล่าวจะถือว่าน้อยกว่าการหลั่งใน แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่สูงกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานหลายเท่าค่ะ

ขออภัยที่ตอบช้าค่ะ

คำกล่าวนั้น คลาดเคลื่อนมาจากคำแนะนำในอดีตที่ว่า "ไม่ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินเกินเดือนละ 2 กล่อง" เนื่องจากเคยมีความกังวลกันว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจเพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูก

แต่การศึกษาต่อมาชี้ว่ายาคุมฉุกเฉินไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของการตั้งครรภ์นอกมดลูกอย่างที่เคยกังวล รวมถึง ยังไม่พบอันตรายที่รุนแรงหรือถาวรใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง "มดลูกแห้ง" ที่ผู้ถามกังวล หรือเรื่องอื่น ๆ ต่อให้ใช้เกินขนาดที่แนะนำ หรือใช้ซ้ำหลายรอบในเดือนเดียวกัน จึงได้มีการนำคำเตือนดังกล่าวออกจากฉลากยาไปนานแล้วนะคะ

ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องใช้ เช่น ถูกข่มขืน, ถุงยางฉีกขาด หรือลืมรับประทานยาคุมรายเดือนจนทำให้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่อง ก็สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองได้เลยค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกินกว่าจำนวนที่เคยแนะนำไว้ในอดีตหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดปกติหลายเท่า จึงไม่ควรนำมาใช้เพียงเพราะไม่อยากใส่ถุงยางอนามัย หรือเพียงเพราะไม่อยากคุมกำเนิดด้วยวิธีมาตรฐานนะคะ ต่อให้จะใช้ไม่เกินจำนวนที่เคยแนะนำไว้ในอดีตก็ตาม เนื่องจากการนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติมีความเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จและอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นนั่นเองค่ะ

สรุปก็คือ ถ้ามีเหตุฉุกเฉินก็สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินได้เลย ไม่มีข้อจำกัดว่าห้ามใช้เกินกี่ครั้งค่ะ เพียงแต่ถ้ามีเหตุฉุกเฉินบ่อยครั้ง ก็ต้องทบทวนสาเหตุและหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดดังกล่าวขึ้นมาอีกในอนาคตนะคะ

ส่วนการนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้เพียงเพราะไม่อยากคุมด้วยวิธีปกติ ไม่ว่าจะมีการใช้กี่ครั้ง ก็ถือว่าไม่เหมาะสมค่ะ