ถ้าเด็กมีพฤติกรรมชอบ ทำร้ายเพื่อน และชอบพูดคำหยาบ เราจะมีวิธีแก้อย่างไรคะ

สวัสดีครับ
การที่เด็กมีพฤติกรรมรุนแรง พูดจาหยายคายนั้นอาจมีที่มาได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น เด็กยังไม่ได้รับการปรับพฤติกรรมที่เหมาะสม ปัญหาทางด้านพัฒนาการบางอย่างที่ทำให้เด็กไม่เข้าใจสิ่งที่ควรปฏิบัติ ความผิดปกติของ IQ โรคสมาธิสั้น โรคในกลุ่มออทิสติก โรคเกเร ความผิดปกติทางด้านอารมณ์บางอย่าง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ควรได้รับการตรวจประเมินอาการจนทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมกับสาเหตุได้ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้พาเด็กไปพบจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นเพื่อตรวจประเมินอาการก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

ก่อนอื่นต้องหาสาเหตุก่อนนะคะ
พฤติกรรมก้าวร้าว รังแกเพื่อน พูดคำหยาบ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
1.จากปัญหาการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม วิธีการลงโทาเด็กแบบก้าวร้าว หรือ เด็กอาจซึมซับพฤติกรรมก้าวร้าวจากคนในครอบครัว
2.เกิดจากตัวเด็กเอง ซึ่งอาจเป็นอาการของโรคด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ซึ่งพฤติกรรมก้าวร้าวมักเกิดได้ในโรคสมาธิสั้น ซึมเศร้า โรคดื้อ ต่อต้านสังคม ออทิสติก เป็นต้น

ในกรณีนี้แนะนำให้ลองปรับวิธีการเลี้ยงดูก่อน ครอบครัวอาจต้องลดวิธีลงโทษที่รุนแรง และใช้วิธีการพูดคุย ใช้เหตุผล และปรับพฤติกรรม เช่น หากมีการรังแกเพื่อน แม่จะหักค่าขนมครั้ง 5 บาท แล้วมอบหมายงานให้เขารับผิดชอบ หากลูกทำสิ่งนี้ได้สำเร็จตามที่แม่มอบหมายลูกก็จะได้แต้ม 1 ดาว สะสมในสมุดบันทึกความดี และแต้มเหล่านี้จะนำมาแลกของรางวัลได้เมื่อครบ 1 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน เมื่อเด็กทำดีในแต่ละครั้งต้องชื่นชม เขาจะเกิดการเรียนรู้ว่าทำแบบนี้แล้วจะได้รางวัลได้รับคำชม และควรต้องทำอีก แต่หากเขามีพฤติกรรมไม่ดี ก็ตักเตือนพร้อมกับให้เหตุผลและแนะนำพฤติกรรมที่เหมาะสมให้เขา

แต่หากลองปรับแล้วไม่ได้ผล แนะนำให้พาไปพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาแก้ไขตามแนวทางที่เหมาะสมนะคะ

เด็กที่มีสมาธิสั้นๆนั้นมักจะมีปัญหาในการควบคุมความยับยั้งชั่งใจของตนเอง ทำให้อาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวเกิดขึ้นได้ครับ

ในกรณีที่ต้องการปรับพฤติกรรมเด็กนั้นก็จะต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับเด็ก โดยให้เหตุผลที่เข้าใจง่ายตามระดับความสามารถของเด็ก เมื่อเด็กทำดีก็อาจมีรางวัลให้ เช่น คำชม ได้สะสมสติ๊กเกอร์ทำความดีเพื่อมาแลกของรางวัล แต่เมื่อเด็กทำผิดข้อตกลงก็อาจต้องมีการลงโทษอย่างสมเหตุสมผล เช่น งดกิจกรรมบางอย่าง หรือสิ่งอื่นๆตามแต่ที่ได้ตกลงกับเด็ก และการปรับพฤติกรรมนี้ก็จะต้องทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้

อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่ายาที่เด็กได้รับนั้นอาจจะยังไม่ได้ระดับที่เหมาะสม โดยเฉพาะถ้าอาการมักเป็นในช่วงเย็นก็เป็นไปได้ว่าอาการจะเกิดในช่วงที่ยาหมดฤทธิ์ครับ ดังนั้นในเบื้องต้นจึงอาจต้องปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการปรับยาเพิ่มเติมด้วยครับ