นิสัยการกินจุกจิก เป็นปัญหาที่น่าหนักอกหนักใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่พยายามควบคุมน้ำหนักและสัดส่วน เพราะเหล่าอาหารที่เราโหยหานี้มักไม่ใช่ผักหรือผลไม้ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่กลับเป็นกลุ่มขนมขบเคี้ยวหรือไม่ก็ขนมหวาน ที่นอกจากจะทำให้สัดส่วนของเราหลุดออกนอกกรอบแล้วยังนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพได้ด้วย ถ้าเราควบคุมอาการอยากกินไม่ได้ เราก็ต้องใช้กลเม็ดพิเศษในการจัดการกับพฤติกรรมการกินจุกจิกแทน!
นั่นเราหิวจริงๆ หรือแค่อยากหิว
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจหมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
กด
1. อย่าซื้อขนมตุนไว้
กลเม็ดอย่างแรกเลยก็คือ ไม่ซื้อขนมทานเล่นเก็บไว้เลย เราต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมโดยการไม่กักตุนเจ้าขนมเหล่านี้ไว้ในบ้าน ในรถ หรือในกระเป๋าโดยเด็ดขาด ถ้าไม่มีขนมอยู่รอบๆในขณะที่รู้สึกโหย... เราก็กินไม่ได้! เพราะฉะนั้นแล้ว เขี่ยขนมขบเคี้ยวออกจากรายการอาหารที่ต้องซื้อได้เลย
2. ตามใจปาก...อย่างฉลาด
ถ้าความรู้สึกโหยมันทำให้ทรมาน เราก็ต้องตามใจปาก…อย่างชาญฉลาด! แทนที่จะทานขนมขบเคี้ยว ลองหันมาพึ่ง ถั่วกรุบกรอบ หรือ เมล็ดพืชอบแห้ง ที่มีเปลือกแข็งแทน อย่างเช่น ถั่วลิสง ถั่วปากอ้า วอลนัท ลูกเกาลัด เมล็ดทานตะวัน และเมล็ดแตงโม อาหารทานเล่นเหล่านี้นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว เปลือกที่แข็งและแกะค่อนข้างยากนี้จะทำให้เราทานได้ช้าลงและน้อยลงอีกด้วย แต่หากอยากทานของหวาน ให้มี ผลไม้รสหวาน ติดครัวไว้เลย แล้วจะดียิ่งขึ้นหากเป็นผลไม้ที่ต้องแกะเปลือกก่อนรับประทาน เพราะจะช่วยถ่วงเวลาได้ดีเช่นกัน
กินก็กินได้ แต่ต้องกินอย่างฉลาด
3. ตั้งใจทาน อย่าทำอย่างอื่น
ไม่ว่าจะทานขนมทานเล่นทั่วไปหรือหันมาทานถั่วหรือผลไม้แทนแล้วก็ตาม การควบคุบปริมาณนั้นก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการควบคุมปริมาณนี้ทำได้โดยการทานอย่างตั้งใจ ถ้าสังเกตพฤติกรรมของตนเองดูดีๆจะพบว่าเวลาที่ทานขนมทานเล่น เรามักจะทำกิจกรรมอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น ดูหนังหรือวีดีโอ คุยโทรศัพท์ และเล่นแชท แล้วรู้สึกตัวอีกทีก็ทานขนมจนหมดเสียแล้ว ดังนั้น เราควรแบ่งสัดส่วนที่จะทานในแต่ละครั้งใส่ภาชนะแยกไว้ให้ชัดเจน และตั้งใจทานจนหมด สมองจะได้รับรู้ว่าเราได้ทานสิ่งที่อยากจะทานในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว
4. เพิ่มความลำบากให้แก่การกิน
อีกหนึ่งเคล็ดลับในการควบคุมปริมาณอาหารทานเล่นก็คือ การทานด้วยความยากลำบาก เราอาจทานด้วยมือข้างที่ไม่ถนัด หรือใช้พลาสเตอร์พันไว้ที่นิ้วใดนิ้วหนึ่งก็ได้ วิธีนี้จะช่วยถ่วงเวลาให้เรารู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น นอกจากนี้แล้ว เรื่องอริยบถและสถานที่ก็สำคัญ เราควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนั่งทานนอนทานบนโซฟาหรือเตียงนอนนุ่มๆ เพราะจะทำให้เรารู้สึกสบายตัวสบายใจในการรับประทานมากเกินไปและเผลอทานจนหมดอย่างไม่รู้ตัว
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
5. อย่าให้มือและปากว่าง
หนึ่งสิ่งที่เราต้องยอมรับเลยก็คือ นิสัยการกินจุกจิกนั้นไม่ได้เกิดจากความหิวไปเสียทุกครั้ง แต่มักเกิดจากการที่สมองรู้สึกว่ามือและปากว่างเกินไปต่างหาก เพราะฉะนั้น เมื่อเรารู้สึกว่าต่อมน้ำลายเริ่มทำงาน และสมองเริ่มสั่งการว่า ‘อยากกินของทอด...อยากกินของหวาน’ ให้รีบมองหากิจกรรมยามว่างที่ต้องใช้ความคิด ทาเล็บ เล่นโซเชียลมีเดียต่างๆ หรือพูดคุยกับคนรอบข้าง กิจกรรมเหล่านี้จะดึงดูดความสนใจของเราไปทางอื่นและทำให้มือและปากของเราไม่ว่างแล้ว
อยากกินของทอด...อยากกินของหวาน
6. ดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ
บางทีร่างกายของเราก็รู้สึกโหยเมื่อเรากระหายน้ำเฉยๆ ลองดื่มน้ำสัก 1-2 แก้วเมื่อรู้สึกว่าอยากทานจุกจิก นอกจากนี้ การดื่มน้ำยังทำให้รู้สึกอิ่มขึ้นได้อีกด้วย
7. แปรงฟันซะเลย
กลเม็ดสุดเด็ดวิธีสุดท้ายในการจัดการกับพฤติกรรมกินจุกจิกก็คือการแปรงฟัน หลังจากการรับประทานมื้อเย็นแล้วให้แปรงฟันทันที เพื่อทำให้สมองเข้าใจว่าช่องปากของเราสะอาดแล้วและไม่ควรทานจุกจิกอีกแล้ว อีกทั้งความเย็นสดชื่นและกลิ่นมิ้นท์จากยาสีฟันจะช่วยลดอาการอยากทานอาหารขบเคี้ยวหรือของหวานได้อีกด้วย
แปรงฟันแล้วคือ จบนะ!
เคล็ดลับเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวช่วยที่ได้ผลจริง แต่ทุกอย่างต้องเริ่มต้นด้วยความตั้งใจ เราต้องเชื่อว่าเราหยุดพฤติกรรมการกินจุกจิกนี้ได้ด้วยตัวเราเอง ถ้าเราไม่มีความจริงจังและปล่อยให้ปากของเราถูกควบคุมโดยเหล่าขนมทานเล่นพวกนี้ ไม่ว่าเคล็ดลับใดๆก็ใช้ไม่ได้ผล เพราะฉะนั้น หากตั้งใจจริงแล้ว ก็เริ่มต้นได้เลย!