กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

การทำเล็บ...ตัวช่วยเรื่องความงามที่ใครก็ทำได้

เล็บ สามารถบ่งบอกถึงบุคลิกภาพได้ ปัจจุบันมีทั้งหญิงและชายที่เข้าร้านทำเล็บ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกสถานที่ที่ถูกสุขอนามัย ไม่เสี่ยงติดเชื้อโรค
เผยแพร่ครั้งแรก 9 ก.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 2022 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
การทำเล็บ...ตัวช่วยเรื่องความงามที่ใครก็ทำได้

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • เล็บ มีหน้าที่ในการปกป้องอันตรายที่เกิดกัลปลายนิ้ว (บริเวณเนื้อสีชมพู) หากตัดส่วนที่งอกออกมา ก็ยังสามารถยาวกลับขึ้นมาได้ 
  • การทำเล็บมีด้วยกันหลักๆ 3 รูปแบบได้แก่ การทาสีเล็บสำหรับเสริมบุคลิก การต่อเล็บสำหรับคนที่มีเล็บสั้น และการสปามือเท้าเพื่อให้เลือดหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น
  • โดยเฉลี่ยแล้วการทำเล็บจะใช้เวลาประมาณ 1-1 ชั่วโมง 45 นาที แต่การต่อเล็บ PVC จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที 
  • การทาสีเล็บแต่ละครั้งอาจอยู่ได้ 1-3 วัน แต่หากใช้เป็นสีเจล อาจอยู่ได้นาน 10-20 วัน เพราะอย่างไรก็ตาม แม้จะทำสีเล็บมาแล้ว ผู้ที่ทำเล็บก็ยังควรต้องรักษาความสะอาดด้วยการล้างมือเช่นเดิม
  • ดูแพ็กเพจทำเล็บได้ที่นี่

นอกจากหน้าที่ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับปลายนิ้วแล้ว เล็บยังสามารถบอกอะไรได้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ ผู้ที่มีสุขภาพเล็บดี จะมีเล็บสีชมพูอ่อน เนื้อเล็บแข็งแรงเรียบไม่เป็นคลื่น ซึ่งการมีเล็บเช่นนี้สามารถบ่งบอกถึงความใส่ใจในการดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี 

ปัจจุบันมีวิธีดูแลเล็บให้แข็งแรงมากขึ้น รวมถึงมีวิธีการทำเล็บมากมายเพื่อช่วยเสริมบุคลิกภาพ เช่น การทาสีเล็บ การต่อเล็บ การเพนต์เล็บ เป็นต้น 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

อย่างไรก็ตาม การทำเล็บที่มากเกินไป อาจทำให้เล็บเหลือง เปราะบาง ฉีกขาดง่าย และอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคเชื้อราในเล็บอีกด้วย ดังนั้นหากต้องการทำเล็บ ควรเลือกทำกับผู้เชี่ยวชาญ และควรดูแลรักษาเล็บด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะช่วยทำให้เล็บมีสุขภาพดีตลอดไปได้

ความสำคัญของเล็บ

ก่อนจะพูดถึงการทำเล็บ ควรทำความรู้จักกับเล็บให้มากขึ้นก่อน โดยแผ่นเล็บแข็งๆ ที่ปกคลุมปลายนิ้วอยู่ เกิดจากเซลล์หนังกำพร้าที่ตายแล้ว สามารถงอกใหม่และยาวขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลา 

หน้าที่หลักของเล็บ คือป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับผิวหนังบริเวณปลายนิ้ว ช่วยให้ความรู้สึกสัมผัสละเอียดขึ้น หากไว้เล็บยาวยังสามารถใช้ป้องกันตัวได้ตามธรรมชาติอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยแสดงให้เห็นถึงการเจ็บป่วยของร่างกาย เนื่องจากภาวะทางการแพทย์บางชนิด อาจทำให้เล็บหยุดการเจริญเติบโตได้

ไม่ใช่แต่เฉพาะในกลุ่มผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายจำนวนไม่น้อยก็นิยมทำเล็บ โดยเน้นที่การเพนต์ลวดลายที่ดูเท่ๆ ตามปกติการทำเล็บจะเริ่มจากแช่มือหรือเท้าที่จะทำเล็บลงไปในน้ำอุ่น เพื่อให้เลือดหมุนเวียนและทำให้เล็บนิ่มขึ้น 

จากนั้นจะมีการตัดแต่งเล็บให้เข้ารูปด้วยการตัดเล็บ ตัดหนังด้านข้างเล็บ และตะไบเล็บ ก่อนจะเริ่มทาสีและตกแต่งเล็บตามที่เลือกไว้ บางคนที่เล็บสั้นก็สามารถต่อเล็บให้ยาวเพิ่มขึ้น รวมถึงตะไบปลายเล็บให้มีรูปทรงตามต้องการได้

การทำเล็บมีกี่รูปแบบ แต่ละรูปแบบแตกต่างกันอย่างไร?

คนส่วนมากมักจะเข้าใจว่า การทำเล็บ คือการตัดแต่งเล็บและทาสีเล็บเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วการทำเล็บยังมีรูปแบบอีกมากมาย แม้แต่การทาสีเล็บ ก็มีให้เลือกหลายชนิด เช่น การทาสีธรรมดา การทาสีกึ่งเจล การทาสีเจล การทาสีเจลกลิตเตอร์ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีลักษณะ ระยะเวลา และราคาที่แตกต่างกันไป

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

รูปแบบการทำเล็บหลักๆ ที่ได้รับความนิยม มีดังนี้

1. การทาสีเล็บ 

นอกจากมีสีให้เลือกมากมาย ยังมีสีให้เลือกหลายรูปแบบ ดังนี้

  • การทาสีธรรมดา เป็นรูปแบบที่พบได้ทั่วไป มีกลิ่นฉุนเล็กน้อย สีแห้งเร็ว สามารถทาและล้างด้วยตัวเองได้ มีข้อเสียคือสีลอกง่ายมาก และหากเลือกสีทาเล็บที่ไม่ได้มาตรฐานจะทำให้เล็บเหลือง 

  • การทาสีเจล จะให้ความทนทานกว่าทาสีเล็บแบบธรรมดา ใช้เวลานานเพราะหลังจากทาสีเจลแล้วต้องอบด้วยแสง UV การทำเล็บประเภทนี้บ่อยๆ ทำให้หน้าเล็บบางได้ เนื่องจากก่อนลงสีเจลจะต้องตะไบหน้าเล็บออกก่อนเพื่อให้เจลติดดี เวลาจะเปลี่ยนสีหรือเพนต์ลายใหม่ ก็ต้องตะไบหน้าเล็บทุกครั้ง)

  • การทาสีกึ่งเจล การทาสีกึ่งเจล มีความแวววาวและทนทานเหมือนสีเจล สามารถทาด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องอบเจล และล้างออกได้ด้วยน้ำยาทาเล็บทั่วไป 

2. การต่อเล็บ 

ผู้ที่เล็บมือสั้น หรือหน้าเล็บบาง แต่อยากให้เล็บยาวสวยพร้อมสำหรับการทาสีเล็บ สามารถต่อเล็บได้ ด้วยรูปแบบที่ได้รับความนิยม ดังนี้

  • การต่อเล็บ PVC เป็นการนำเล็บปลอมที่ทำจากพลาสติก แปะทับลงไปบนเล็บจริงโดยใช้กาวติดให้แน่น การต่อเล็บรูปแบบนี้สามารถอยู่ได้นาน 5-7 วัน และสามารถต่อด้วยตัวเองได้ 

  • การต่อเล็บอะคริลิก การต่อเล็บวิธีนี้จะอยู่ได้นานกว่าแบบ PVC และสามารถทำได้หลายแบบ แต่ต้องทำโดยช่างทำเล็บเท่านั้น เนื่องจากต้องมีการฆ่าเชื้อพร้อมกับตะไบหน้าเล็บ และลง Primer ก่อนจะใส่ Paper Form เป็นฐานแล้วลงอะคริลิกบนเล็บ

  • การต่อเล็บโพลีเจล เป็นการต่อเล็บที่แข็งแรงและเงาสวยกว่าการต่อแบบ PVC แต่จะไม่สามารถต่อได้ยาวเท่าแบบอะคริลิก เมื่อต่อเสร็จจะคล้ายคลึงกับเล็บจริงมาก ข้อดีคือไม่มีสารเคมีที่กลิ่นฉุนรุนแรงอย่างอะคริลิก แต่มีข้อเสียคือราคาค่อนข้างแพง

3. สปามือและเท้า

เริ่มจากการแช่มือและเท้าด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำผสมน้ำมันกลิ่นต่างๆ เพื่อให้หนังนิ่มขึ้น จากนั้นจะมีการตัดเล็บ ขูดหน้าเล็บที่เสียหายและตัดหนังส่วนเกินออก แล้วแช่มือและเท้าอีกครั้งพร้อมกับขัดด้วยเกลือและทาด้วยโลชั่น

  • ทาครีมบำรุง ยาทาเล็บบางชนิดอาจมีส่วนผสมของสารเคมีที่จะทำลายผิวเล็บ เพราะฉะนั้นจึงควรทาครีมบำรุงเพื่อป้องกันเล็บแห้งเป็นประจำ

  • ห้ามแกะสีเจลด้วยตัวเอง แม้สีจะเริ่มหลุดลอกออกไปบ้างแล้ว ก็ห้ามแกะเองโดยเด็ดขาด เพราะตัวเจลที่ค่อนข้างเหนียวอาจไปดึงผิวเล็บจนทำให้เล็บฉีก หรือเล็บบางลง

  • พักเล็บ หลังจากทาสีเจล หรือต่อเล็บ ควรพักเล็บอย่างน้อย 1 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อให้เล็บได้ฟื้นฟูตัวเอง โดยเฉพาะหน้าเล็บ ระหว่างนี้ให้แช่เล็บวันละ 10 นาทีด้วยน้ำอุ่นผสมมะนาวและน้ำมันกลิ่นต่างๆ ตามชอบ

  • ดูแลเล็บเหลือง หากพบว่าเล็บเหลืองซึ่งเกิดจากการทำเล็บ ให้หยุดทำเล็บทันที แล้วดูแลด้วยการใช้มะนาวถูที่เล็บเป็นประจำ หรือใช้ยาสีฟันขัดจนกว่าเล็บจะหายเหลือง

  • นวดนิ้วมือ เพื่อกระตุ้นเลือดลมและฟื้นฟูให้เล็บกลับมาแข็งแรงเร็วขึ้น

หลังจากทาสีเล็บและต่อเล็บแล้ว ยังมีวิธีตกแต่งเล็บที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น การเพนต์ลายที่เล็บ การติดอะไหล่ที่เล็บ (เพชร ลูกปัด โบว์) การตกแต่งด้วยกลิตเตอร์ หรือการทาน้ำยาเคลือบเล็บเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและคงทนให้กับเล็บที่เพิ่งทำมา เป็นต้น

การทำเล็บ ใช้เวลานานแค่ไหน?

การทำเล็บส่วนมากจะใช้เวลาตั้งแต่ 1-1 ชั่วโมง 45 นาที ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการทำเล็บ หากทาสีเล็บแบบธรรมดาจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ถ้าทาสีเล็บแบบกึ่งเจลจะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที ส่วนการทาเล็บเจล และทาเล็บเจลแบบกลิตเตอร์จะใช้เวลาตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

การต่อเล็บก็ใช้เวลาไม่แตกต่างกันมากนัก ในการต่อเล็บ PVC จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ส่วนการต่อเล็บอะคริลิกจะใช้เวลา 1-1.30 ชั่วโมง เช่นเดียวกับการทำสปามือและเท้า 

การทำเล็บอยู่ได้นานแค่ไหน?

การทาสีเล็บแบบทั่วไป จะอยู่ได้ประมาณ 1-3 วัน ซึ่งในระหว่างนี้หากมีการขีดข่วน เสียดสี หรือต้องทำกิจกรรมที่สัมผัสน้ำบ่อยๆ ก็มีโอกาสที่สีจะหลุดลอกเร็วกว่านี้ ส่วนการทาเล็บกึ่งเจลและการทาเล็บเจลจะได้อยู่ได้ 10-20 วันขึ้นไป อย่างไรก็ตาม บางครั้งแม้สีไม่ได้ถลอก แต่สำหรับผู้ทำเล็บที่เล็บยาวเร็ว ส่วนโคนเล็บก็จะโผล่ออกมาเห็นได้ชัดจนต้องทำสีใหม่เร็วกว่านั้นได้

การต่อเล็บแบบ PVC จะอยู่ได้ประมาณ 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับกาวที่ใช้ ส่วนการต่อเล็บแบบอะคริลิกและแบบเจลสามารถอยู่ได้นาน 10-12 สัปดาห์ ซึ่งจะต้องมาเติมโคนทุกๆ 2-3 สัปดาห์เพื่อยืดระยะการใช้งาน 

ทำเล็บที่ไหนได้บ้าง?

ปัจจุบันมีคลินิกเสริมความงามและร้านทำเล็บมากมายที่ให้บริการทำเล็บครบทุกรูปแบบ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรูปแบบที่ทำและความชำนาญของช่างทำเล็บ ส่วนมากจะเริ่มต้นที่ราคา 500 บาทขึ้นไป 

สามารถดูแพ็กเกจทำเล็บและเปรียบเทียบราคาได้ ที่นี่

ที่สำคัญไม่ว่าจะเลือกทำเล็บในร้านใด ใช้เทคนิคไหน ก็ควรร้านที่สะอาด มีช่างผู้เชี่ยวชาญ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดการติดเชื้อจากอุปกรณ์ทำเล็บ หรือเป็นโรคเชื้อราในเล็บได้

หลังทำเล็บ ควรดูแลรักษาเล็บอย่างไร?

หลังจากทำเล็บแล้ว ควรดูแลรักษาเล็บมือให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะการต่อเล็บ เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคเข้าไปขังอยู่จนทำให้เล็บติดเชื้อราได้ วิธีการดูแลรักษาเล็บง่ายๆ มีดังต่อไปนี้

ดูแพ็กเกจทำเล็บ เปรียบเทียบราคา โปรโมชันล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android

บทความที่เกี่ยวข้อง
การทำเล็บเจล
รีวิว สปามือเท้า ทาเล็บ ที่ Nail Parfait | HDmall


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Oxbridge Academy, The pros and cons of acrylic, gel and polygel nail care (https://www.oxbridgeacademy.edu.za/blog/the-pros-and-cons-of-acrylic-gel-and-polygel-nail-care/), 4 December 2018.
Grace Lindsay, The Difference Between Acrylic, Gel and Polygel Nails (https://lesalon.com/blog/difference-acrylic-gel-polygel-nails/), 11 June 2018.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)