อย่างที่เราทราบกันดีว่า การตั้งครรภ์นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิต และในตลอดช่วงเวลาที่อุ้มท้อง ชีวิตของคุณจะยากขึ้นเมื่อคุณต้องรับมือกับอาการแพ้ท้อง ท้องผูก อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ข้อเท้าบวม หรือเจ็บหน้าอก แต่นอกจากปัญหาเหล่านี้แล้ว คุณยังต้องเผชิญอีกหลายสิ่งที่มาพร้อมกับการตั้งครรภ์ ซึ่งผู้หญิงหลายคนอาจไม่ทันได้ตระหนักถึง สำหรับสิ่งที่คุณสามารถพบได้ในช่วงที่อุ้มท้องมีดังนี้
1. มีความไวต่อกลิ่นมากขึ้น
มีผู้หญิงหลายคนที่มีความไวต่อกลิ่นเพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ กลิ่นที่ไม่เคยรบกวนจมูกหรือกลิ่นที่ทำให้รู้สึกดีก่อนตั้งครรภ์จะกลายเป็นกลิ่นที่เหม็นสำหรับผู้หญิงกลุ่มนี้ เพราะการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนสามารถทำให้จมูกมีความไวต่อกลิ่นต่างๆ มากขึ้น ทั้งนี้คุณสามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวโดยหยดน้ำมันหอมระเหยที่ปลอดภัยสำหรับคนท้องใส่ในทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้า แล้วนำมาสูดเพื่อกลบกลิ่นที่รุนแรงรอบตัว
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
2. ท้องอืด
การมีก๊าซถือเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในผู้หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งหนึ่งในตัวการก็คือ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทั้งนี้ร่างกายผลิตฮอร์โมนชนิดนี้มากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ โดยช่วยให้กล้ามเนื้อในร่างกายผ่อนคลาย ซึ่งหมายความรวมถึงกล้ามเนื้อลำไส้ ส่งผลให้กระบวนการย่อยอาหารชะลอตัวและทำให้ก๊าซก่อตัวขึ้น จึงไม่แปลกที่คุณจะรู้สึกว่าท้องอืด โดยเฉพาะหลังจากทานอาหารมื้อใหญ่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณไม่สามารถเปลี่ยนวิธีทำงานของระบบย่อยอาหาร แต่คุณสามารถควบคุมปัญหาได้บางส่วน โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดก๊าซ ตัวอย่างเช่น น้ำอัดลม ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนม กระเทียม ผักโขม มันฝรั่ง ถั่ว อาหารที่มีไฟเบอร์สูง ฯลฯ นอกจากนี้คุณสามารถบรรเทาปัญหาโดยออกกำลังกาย และไม่ทานอาหารปริมาณมากในครั้งเดียว
3. เข้าห้องน้ำบ่อย
การปัสสาวะบ่อยในระหว่างตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องปกติ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น ประกอบกับความเร็วของการไหลเวียนเลือดผ่านร่างกาย และมดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณปวดปัสสาวะ คุณก็ควรรีบไปห้องน้ำ เพราะการกลั้นปัสสาวะสามารถทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอในระยะยาว ในเวลาเดียวกัน คุณควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ ชา และน้ำอัดลม เพราะมันล้วนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้คุณปัสสาวะมากและบ่อยขึ้น
4. มีขนมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้ขนหนา ยาว และมีสีเข้ม โดยเกิดขึ้นในบริเวณที่ไม่ได้มีขนงอกตามปกติ เช่น ใบหน้า หน้าอก ท้อง และแขน ทั้งนี้มีงานวิจัยเมื่อปี ค.ศ.2016 พบว่า บริเวณที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ เหนือริมฝีปาก ท้องช่วงล่าง หลังส่วนล่าง และสะโพก อย่างไรก็ตาม คุณสามารถกำจัดขนโดยใช้วิธีถอน แว็กซ์ หรือโกน และให้หลีกเลี่ยงสารเคมีอย่างสารย้อมขน หรือครีมกำจัดขน ซึ่งสามารถซึมเข้าสู่กระแสเลือด
5. มีจุดด่างดำและปื้นดำ
ในระหว่างตั้งครรภ์ มีผู้หญิงหลายคนที่มีจุดด่างดำขึ้นตามใบหน้า หรือบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย เพราะการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะไปกระตุ้นตัวรับเมลานินมากเกินไป ทำให้เกิดจุดด่างดำได้ในที่สุด อย่างไรก็ดี ไม่มีวิธีใดที่สามารถหยุดยั้งการเกิดจุดด่างดำในระหว่างตั้งครรภ์ แต่การทาครีมกันแดดเมื่อใดก็ตามที่ออกจากบ้านสามารถช่วยป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงได้
6. สมองตื้อ
มีผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หลายคนที่มีความจำแย่ลง ซึ่งมีงานวิจัยที่ถูกเผยแพร่ใน The Medical Journal of Australia ระบุว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์มีศักยภาพในการเรียนรู้ ความจำ และการจัดการสมองแย่ลง โดยเฉพาะในระหว่างช่วงไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญยังไม่รู้สาเหตุของปัญหาดังกล่าว แต่คาดว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การนอนน้อย หรือความเครียด ซึ่งโชคดีที่อาการสมองตื้อจะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวเท่านั้น
7. ปากเหม็น
ความผันผวนของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์สามารถทำให้ปากมีคราบพลัคมากขึ้น ซึ่งเป็นแผ่นแบคทีเรียบางๆ ที่ผลิตสารประกอบซัลเฟอร์ ส่งผลให้ปากเหม็นได้ในที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ภาวะขาดน้ำที่เกิดในระหว่างตั้งครรภ์สามารถส่งผลต่อระดับของน้ำลายและทำให้ปากแห้ง สิ่งที่จะตามมาคือ แบคทีเรียเติบโตง่ายขึ้นและทำให้ปากเหม็น อย่างไรก็ตาม การกำจัดกลิ่นเหม็นที่เกิดจากแบคทีเรียเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันสามารถนำไปสู่การเกิดโรคปริทันต์ หรือการอักเสบของเหงือก ทั้งนี้การดูแลสุขอนามัยช่องปากที่ดี และการหมั่นตรวจฟันในระหว่างนี้สามารถช่วยกำจัดแบคทีเรียและกลิ่นเหม็น
แม้ว่ามีหลายสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงเมื่อตั้งครรภ์ แต่ก็มีบางวิธีที่ช่วยบรรเทาปัญหาได้บ้าง หากสิ่งที่คุณเผชิญในระหว่างที่อุ้มท้องมีความรุนแรง คุณก็อย่าลังเลที่จะไปพบแพทย์ค่ะ
