หากตรวจพบว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ประจำเดือนไม่มา แถมมีอาการเหมือนคนท้องทุกอย่าง แต่เวลาผ่านไปท้องกลับไม่โตขึ้น และพอตรวจอัลตราซาวน์ก็ไม่เห็นการเจริญเติบโตของตัวอ่อน สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเรียกว่า Anembryonic pregnancy หรือว่า ท้องลม นั่นเอง
ท้องลมคืออะไร?
โดยปกติ เมื่อไข่และอสุจิเกิดการปฏิสนธิกันที่ท่อนำไข่แล้ว จะเคลื่อนไปฝังตัวที่โพรงมดลูก และแบ่งเซลล์เจริญเติบโตจนกลายเป็นตัวอ่อน แต่ในกรณีที่เกิดท้องลม อาจมีสาเหตุบางอย่างซึ่งทำให้เซลล์ที่ปฏิสนธิแล้วจะไม่สามารถแบ่งตัวและเจริญเติบโตได้ ทำให้เกิดภาวะแท้งคุกคามในระยะแรกของการตั้งครรภ์ ผู้หญิงจะมีอาการเหมือนตั้งครรภ์ทุกอย่าง แต่ไม่มีตัวอ่อนเจริญอยู่ภายใน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุการเกิดท้องลม
สาเหตุแท้จริงที่ทำให้เกิดท้องลมนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด นั่นแสดงว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ทุกคนมีโอกาสเสี่ยงจะเกิดท้องลมได้เหมือนกัน แต่สาเหตุที่เป็นไปได้ อาจเกิดจากความผิดปกติของเซลล์สืบพันธุ์เพศชายหรือหญิง เช่น ไข่หรืออสุจิมีความผิดปกติทางโครโมโซม หรืออาจเกิดจากเซลล์ที่ปฏิสนธิแล้วไปฝังตัวในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม หรือได้รับสารพิษ ทำให้ไม่สามารถแบ่งตัวได้ ในขณะที่ระบบสืบพันธุ์และฮอร์โมนต่างๆ ของคุณแม่ยังทำงานตามปกติ จึงแสดงสัญญาณเหมือนคนตั้งครรภ์โดยทั่วไปนั่นเอง
หากเป็นท้องลม จะรู้ได้อย่างไร?
คนที่เป็นท้องลม ในระยะแรกจะมีอาการเหมือนคนท้องทุกประการ ได้แก่ ประจำเดือนขาด ตรวจพบได้ว่าตั้งครรภ์ และมีอาการแพ้ท้อง วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แต่ความผิดปกติจะเริ่มสังเกตได้เมื่อพบว่าท้องไม่โตขึ้นเลยแม้ผ่านไปหลายสัปดาห์ อาการแพ้ท้องหายไป ทารกในครรภ์ไม่ดิ้น และมีอาการปวดท้องน้อย บางคนจะมีเลือดออกทางช่องคลอดเหมือนประจำเดือน และอาจมีก้อนเลือดออกมาด้วย ซึ่งถ้ามีความผิดปกติถึงขั้นนี้ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบ แพทย์จะทำการวินิจฉัยโดยอัลตราซาวน์ช่องท้อง หากเป็นท้องลม จะเห็นเฉพาะถุงการตั้งครรภ์แต่ไม่มีทารกอยู่ภายใน
การรักษาท้องลม
หากพบว่าเป็นท้องลม แสดงว่าตัวอ่อนในครรภ์ได้เสียชีวิตและยุติการตั้งครรภ์แล้ว แนวทางการรักษามีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสภาวะร่างกายและความสมัครใจ ซึ่งได้แก่
- ปล่อยให้แท้งออกมาเองตามธรรมชาติ บางคนอาจทราบว่าเป็นท้องลมหลังตัวอ่อนหลุดออกมาแล้ว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์หลังแท้ง เนื่องจากเป็นการแท้งในระยะแรกของการตั้งครรภ์ จึงไม่เสียเลือดมากนัก
- ใช้ยาเหน็บช่องคลอด เป็นการกระตุ้นให้ตัวอ่อนที่เสียชีวิตแล้วหลุดออกมา ยาที่ใช้ ได้แก่ Misoprostal ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อให้แท้งโดยสมบูรณ์
- ขูดมดลูก เป็นวิธีที่รวดเร็ว และไม่เหลือเศษรกติดค้างอยู่ภายใน แต่วิธีนี้อาจเจ็บตัวสักหน่อย และต้องทำโดยแพทย์ พยาบาล ไม่สามารถทำเองที่บ้านได้
ท้องลม อันตรายหรือไม่?
ท้องลมเป็นภาวะแท้งที่เกิดในระยะแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งโดยปกติการแท้งจะไม่เสียเลือดมากนัก จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแม่ เว้นแต่จะมีผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น เกิดการติดเชื้อจากการขูดมดลูก เป็นต้น แต่ผลกระทบที่สำคัญมักเกิดกับจิตใจมากกว่า เนื่องจากครอบครัวที่กำลังหวังจะเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กลับต้องมาผิดหวัง จึงอาจเกิดอาการซึมเศร้าขึ้นกับคนเป็นแม่รวมถึงคนในครอบครัวได้ ทางที่ดีควรทำจิตใจให้สบาย รักษาร่างกายให้แข็งแรง และรออีกสัก 2-3 เดือนให้ร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ หลังจากนั้นก็สามารถตั้งครรภ์ได้ใหม่ และมีลูกได้ตามปกติ