Vertebrobasilar circulatory disorders คือ ภาวะที่ทำให้เลือดไหลไปยังสมองด้านหลังลดลง ทำให้สมองขาดเลือด และทำให้ผู้ป่วยเวียนศีรษะและพูดไม่ค่อยชัด หากมีสิ่งใดที่หยุดหรือขัดขวางการไหลเวียนของเลือดตามบริเวณต่างๆ ของร่างกาย มันก็จะเรียกว่า การขาดเลือดเฉพาะที่ (Ischemia) ถ้าเกิดขึ้นที่สมอง มันก็สามารถทำให้เซลล์สมองเสียหาย และนั่นก็จะทำให้ปัญหาสุขภาพตามมา
สาเหตุ
มีหลายสาเหตุที่ทำให้เลือดไหลไปยังสมองไม่เพียงพอ ตัวอย่างเช่น เส้นเลือดตีบ เส้นเลือดอุดตัน เลือดจับตัวเป็นลิ่ม เส้นเลือดฉีกขาด ฯลฯ อย่างไรก็ดี ภาวะหลอดเลือดแข็งเป็นสาเหตุทั่วไปของการมีเส้นเลือดตีบหรืออุดตัน ซึ่งเกิดจากการมีไขมันหรือคราบพลัคสะสมภายในเส้นเลือดแดง ทั้งนี้คราบพลัคมีคอเลสเตอรอลและแคลเซียมเป็นองค์ประกอบ ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เส้นเลือดแดงแข็ง การสะสมของคราบพลัคและการแข็งตัวของหลอดเลือดจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการ
อาการของคนที่เลือดไหลไปยังสมองน้อยมีความคล้ายคลึงกับคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง หากมีอาการที่เราจะกล่าวหลังจากนี้ คุณควรรีบไปพบแพทย์
- พูดไม่ชัด
- แขนขาอ่อนแรงแบบฉับพลัน
- กลืนยากขึ้น
- สูญเสียความสามารถในการทรงตัว
- สูญเสียการมองเห็นบางส่วนหรือทั้งหมด หรือมองเห็นภาพซ้อน
- เวียรศีรษะหรือรู้สึกหมุน
- เหน็บชา
- สับสน
- อาเจียนหรือคลื่นไส้
อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นต่อเนื่องหรือเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่การมีหลอดเลือดที่ตีบแคบหรืออุดตันมักไม่แสดงอาการออกมา
ภาวะแทรกซ้อน
เซลล์สมองจะไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นหากเลือดไหลเวียนไปยังสมองลดลงหรือหยุดไหล ซึ่งมันจะไปยับยั้งไม่ให้สมองทำงานได้ตามปกติ หากเลือดไม่ไหลเวียนเป็นเวลานาน มันก็สามารถทำให้เซลล์สมองเสียหายหรือตาย และนั่นก็สามารถทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง
2.ภาวะสมองขาดเลือดชั่วขณะ
ลิ่มเลือดหรือชิ้นส่วนของพลัคที่ติดอยู่ตามผนังของเส้นเลือดแดงสามารถทำให้เส้นเลือดอุดตัน หากเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ มันก็อาจทำให้เกิดภาวะสมองขาดเลือดชั่วขณะ แม้ว่าภาวะดังกล่าวไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างถาวร แต่มันก็เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งอาการจะคงอยู่เพียงแค่ไม่กี่นาที ผู้ป่วยจะมีอาการสับสน อ่อนแอ เหน็บชา สูญเสียการทรงตัว หรือปวดศีรษะแบบฉับพลันและรุนแรง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
3.โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง
เส้นเลือดในสมองสามารถอ่อนแอและบวม เมื่อเป็นเช่นนี้ มันก็จะทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง อย่างไรก็ดี ตัวการที่ทำให้เกิดโรคดังกล่าวคือ การมีความดันโลหิตสูง การมีหลอดเลือดตีบ หรือการบาดเจ็บที่ศีรษะ หากเส้นเลือดในสมองแตก มันก็สามารถทำให้เลือดไหลในสมอง และทำให้เซลล์สมองถูกทำลาย
ปัจจัยเสี่ยง
- เพศ
- อายุ
- ประวัติของคนในครอบครัวและพันธุกรรม
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหลอดเลือดแดง
- การสูบบุหรี่
- การไม่ออกกำลังกายและโรคอ้วน
อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นโรค Vertebrobasilar circulatory disorders อาจเลือกที่จะปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้การเลิกสูบบุหรี่ การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อช่วยลดคอเลสเตอรอล และการออกกำลังกายเป็นประจำก็สามารถช่วยได้เช่นกัน ทั้งนี้แพทย์อาจจ่ายยาที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลหรือควบคุมความดันโลหิต
แพทย์วินิจฉัยอย่างไร?
นอกจากแพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับอาการและประวัติการเป็นโรคแล้ว แพทย์ก็อาจใช้วิธีดังนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การอัลตราซาวด์เพื่อดูเส้นเลือดแดงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม ซึ่งมันไม่ทำให้ผิวเสียหาย หรือส่งผลต่ออวัยวะภายในร่างกาย แพทย์จะใช้เจลใสทาที่ผิว แล้วใช้อุปกรณ์เคลื่อนผ่านอย่างเบามือ ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจะส่งคลื่นเสียงที่สะท้อนเส้นเลือดแดงจนทำให้เกิดภาพ และทำให้เรารู้ว่าเส้นเลือดอุดตันหรือมีลิ่มเลือดหรือไม่
2.การทำ MRI (Magnetic resonance imaging)
MRI ช่วยให้เราเห็นภาพในสมองได้อย่างชัดเจน ซึ่งแพทย์แนะนำวิธีนี้สำหรับคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือคนที่เป็นโรคที่คล้ายกันในอดีต อย่างไรก็ดี การทำ MRI จะทำให้เห็นหลอดเลือด Vertebral และ Basilar รวมถึงทำให้เห็นการอุดตันหรือเห็นการโป่งพองของหลอดเลือด
3.เอ็กซเรย์
เส้นเลือดแดงมักไม่ปรากฏบนภาพเอ็กซ์เรย์ แต่การจะรู้ว่าเส้นเลือดแดงเสียหายหรืออุดตันหรือไม่นั้น แพทย์จะใช้สารทึบรังสีฉีดเข้าไปในหลอดเลือดแดงบริเวณคอเพื่อให้เห็นภาพ
วิธีรักษา
- ผ่าตัด
- ทานยาที่ช่วยรักษาภาวะหลอดเลือดตีบ
- ทานยาที่ช่วยเจือจางเลือด
- ทานยาที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล
- ทานยาที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต
ที่มา: https://www.medicalnewstoday.c...322275.php