วิตามินสำหรับหญิงตั้งครรภ์
หญิงตั้งครรภ์นอกจากจะต้องรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์แล้ว การรับประทานวิตามินสำหรับการตั้งครรภ์ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่ามารดาจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนเพียงพอสำหรับการตั้งครรภ์ โดยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความสำคัญมาก คือ กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก ไอโอดีน และแคลเซียม
วิตามินสำหรับหญิงตั้งครรภ์คืออะไร?
การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอยู่ตลอดเวลาคือแนวคิดที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังมีวิตามินสำหรับการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นวิตามินที่จำเป็นเพื่อช่วยเสริมสารอาหารให้เพียงพอสำหรับการตั้งครรภ์ด้วย
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
วิตามินสำหรับการตั้งครรภ์ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด โดยกรดโฟลิก, ธาตุเหล็ก, ไอโอดีน และแคลเซียม คือวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญเป็นพิเศษ
กรดโฟลิก, ธาตุเหล็ก และแคลเซียม
กรดโฟลิกจะช่วยป้องกันความผิดปกติคือ ภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (neural tube defects) ซึ่งส่งผลต่อสมองและไขสันหลัง
ภาวะหลอดประสาทไม่ปิดจะเกิดขึ้นภายใน 28 วันแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่ผู้หญิงหลายๆ คนจะรู้ตัวเองว่าตั้งครรภ์เสียอีก เพราะว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของการตั้งครรภ์ทั้งหมดเป็นการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า ดังนั้นจึงแนะนำผู้หญิงทุกคนที่สามารถตั้งครรภ์ได้ต้องรับประทานกรดโฟลิก 400 ไมโครกรัมทุกวัน โดยเริ่มรับประทานตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์อย่างต่อเนื่องไปจนถึง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์
ผู้หญิงที่เคยมีลูกที่มีความผิดปกติของหลอดประสาทไม่ปิดมาก่อนแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการตั้งครรภ์ครั้งถัดไปถึงปริมาณกรดโฟลิกที่ควรได้รับเพื่อเตรียมตั้งครรภ์ถัดไป ข้อมูลจากการศึกษาพบว่าการรับประทานกรดโฟลิกขนาดสูง (สูงถึง 4,000 ไมโครกรัม) อย่างน้อย 1 เดือนก่อนการตั้งครรภ์และระหว่างการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก (3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์) จะเป็นประโยชน์ในผู้หญิงกลุ่มนี้ แต่ให้ปรึกษากับแพทย์ก่อนเสมอ
อาหารที่ประกอบด้วยกรดโฟลิก ได้แก่ ผักใบเขียว ถั่ว ผลไม้ตระกูลซิตรัส และอาหารอื่นๆ ที่มีการเสริมกรดโฟลิกเข้าไป อย่างไรก็ตามแม้จะได้รับกรดโฟลิกจากอาหารแล้ว แต่ก็ควรรับประทานกรดโฟลิกเสริมในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเตรียมสำหรับการตั้งครรภ์และระหว่างตั้งครรภ์ด้วย
แคลเซียม เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญสำหรับหญิงตั้งครรภ์เช่นกัน โดยจะช่วยป้องกันไม่ให้หญิงตั้งครรภ์สูญเสียมวลกระดูก เนื่องจากทารกในครรภ์จะดึงแคลเซียมจากแม่ไปใช้ในการสร้างกระดูกของทารกด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ไอโอดีน มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ในหญิงตั้งครรภ์ การขาดไอโอดีนจะทำให้ทารกแคระแกรน เกิดความผิดปกติทางสมอง และหูหนวก ได้ นอกจากนี้การได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอจะทำให้คลอดก่อนกำหนด หรือทำให้ทารกเสียชีวิตได้
ธาตุเหล็ก เป็นองค์ประกอบของเม็ดเลือดแดง ทั้งในมารดาและทารกในครรภ์ เพื่อช่วยขนส่งออกซิเจนในร่างกาย
วิตามินสำหรับหญิงตั้งครรภ์มีอะไรบ้าง
วิตามินสำหรับหญิงตั้งครรภ์ประกอบไปด้วย:
- กรดโฟลิก 400 ไมโครกรัม (mcg)
- วิตามินดี 400 หน่วยสากล (IU)
- แคลเซียม 200-300 มิลลิกรัม (mg)
- วิตามินซี 70 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 1 (thiamine) 3 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 (riboflavin) 2 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 (niacin) 20 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 12 ปริมาณ 6 ไมโครกรัม
- วิตามินอี 10 มิลลิกรัม
- สังกะสี 15 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 17 มิลลิกรัม
- ไอโอดีน 150 ไมโครกรัม
ในบางกรณีแพทย์อาจสั่งวิตามินบางชนิดให้กับคุณ
ถ้าวิตามินสำหรับบำรุงครรภ์นี้ทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียน
วิตามินสำหรับบำรุงครรภ์บางชนิดทำให้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนในหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนอยู่แล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้กับคุณ ให้ปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาวิตามินชนิดอื่นๆ ให้แทน ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงบางรายอาการคลื่นไส้อาเจียนดีขึ้นเมื่อเปลี่ยนจากการกลืนยาทั้งเม็ดมาเป็นวิตามินชนิดเคี้ยวหรือชนิดน้ำ