วิตามินดี แคลซิเฟอรอล

ประโยชน์ที่มีต่อร่างกายและโรคที่เกิดขึ้นหากขาดวิตามินดี รวมถึงแหล่งจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ศัตรูของวิตามินชนิดนี้ ที่สำคัญคืออาการเป็นพิษและสัญญาณเตือนว่ารับประทานมากไป ตลอดจนรวมทั้งคำแนะนำที่น่าสนใจต่างๆมากมายสามารถอ่านต่อได้ที่นี่
เผยแพร่ครั้งแรก 10 ก.พ. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
วิตามินดี แคลซิเฟอรอล

วิตามินดี (แคลซิเฟอรอล, ไวออสเตอรอล, เออร์กอสเตอรอล, “วิตามินเเดด”) มีประโยชน์อย่างไร และหาได้จากไหน สามารถหาคำตอบได้ที่นี่

ข้อเท็จจริงของวิตามินดี?

  • ละลายในไขมันร่างกายได้รับจากอาหารหรือแสงแดดรังสียูวีจากแสงแดดจะทำปฏิกิริยากับน้ำมันที่ผิวหนังก่อให้เกิดการสร้างวิตามินฉันจะถูกดูดซึมกลับเข้าร่างกาย
  • วิตามินดีที่เรารับประทานเข้าไปจะถูกดูดซึมของไขมันผ่านทางผนังลำไส้
  • มีหน่วยวัดเป็นหน่วยสากล (IU) หรือไมโครกรัมของโคลีแคลซิเฟอรอล
  • ขณะที่แนะนำให้รับประทานต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือ 200-400 ไอยูหรือ 5-10 ไมโครกรัม สมาคมกุมารแพทย์ของสหรัฐอเมริกาแนะนำให้ทารกที่ดื่มนมแม่ทุกคนรับประทานวิตามินดี 200 ไอยูต่อวัน นอกเสียจากว่าหย่านมแม่แล้วเปลี่ยนมาดื่มนมสูตรเสริมวิตามินดีอย่างน้อย 500 ซีซีต่อวันแล้ว และสำหรับเด็กที่ดื่มนมขวดสูตรเสริมสร้างวิตามินดีแต่ปริมาณไม่ถึง 500 ซีซีต่อวันควรรับประทานวิตามินดีเสริมเช่นกัน
  • หมอกควันพิษในอากาศส่งผลให้แสงอาทิตย์กระตุ้นการสร้างวิตามินดีได้น้อยลง หากอาบแดดจนผิวเปลี่ยนสีเป็นสีแทนแล้วการสร้างวิตามินดีที่ผนังจะหยุดลง

วิตามินมีดีต่อร่างกายคุณอย่างไร?

  • ส่งเสริมการใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัสซึ่งจำเป็นต่อความแข็งแรงของกระดูกและฟัน
  • รับประทานร่วมกับวิตามินเอและซีช่วยในการป้องกันโรคหวัดได้
  • ช่วยในการรักษาโรคเยื่อบุตาอักเสบ
  • ช่วยในการดูดซึมของวิตามินเอ

โรคที่เกิดจากการขาดวิตามิน

โรคกระดูกอ่อนในเด็ก (Rickets) ฟันผุขั้นรุนแรง โรคกระดูกน่วม (Osteomalacia) ภาวะกระดูกพรุนในผู้สูงอายุ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

แหล่งจากธรรมชาติที่ดีที่สุด

  • น้ำมันตับปลา ปลาซาร์ดีน ปลาเฮร์ริง ปลาแซลมอน ปลาทูน่า นม และผลิตภัณฑ์จากนม
  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • มักวางจำหน่ายในรูปเม็ดแคปซูลขนาด 400 ไอยูซึ่งเป็นวิตามินดัดแปลงมาจากน้ำมันตับปลา
  • ขณะที่รับประทานกันโดยทั่วไปคือ 410-1000 ไอยู

อาการเป็นพิษและสัญญาณเตือนว่ารับประทานมากไป

  • หากรับประทาน 20,000 ไอยูต่อวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
  • หากรับประทานมากกว่า 1800 ไอยูต่อวันอาจทำให้เกิดภาวะวิตามินดีเกินในเด็ก
  • อาการที่บอกว่ามีวิตามินดีมากเกินไปได้แก่กระหายน้ำมากผิดปกติ เจ็บตา คันตามผิวหนัง อาเจียน มีอาการท้องร่วง กลั้นปัสสาวะไม่ได้ มีหินปูน แคลเซียมสะสมที่ผนังหลอดเลือด ตับ ปอด ไตและกระเพาะอาหารอย่างผิดปกติ

สิ่งที่ทำลายวิตามินดี

น้ำมันแร่ ควันพิษ

คำแนะนำส่วนตัว

  • ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่โดยเฉพาะในบริเวณที่มีมลพิษควันดำหนาแน่นควรรับประทานวิตามินดีเพิ่มขึ้น
  • ผู้ที่ทำงานกะกลางคืนและผู้ที่ไม่ค่อยได้ตากแดดควรรับประทานวิตามินดีเพิ่ม
  • หากคุณกำลังรับประทานยากันชักคุณควรต้องรับประทานวิตามินดีเพิ่ม
  • เด็กและวัยรุ่นที่ไม่ได้ดื่มดื่มนมที่มีวิตามินดีน้อย500 ซีซีต่อวันควรรับประทานอาหารอื่นที่มีวิตามินบีสูงหรือรับประทานวิตามินรวมที่มีวิตามินบีรวมอยู่ด้วยอย่างน้อย 200 ไออยู่
  • คนผิวเข้มที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือหรือบริเวณที่มีแดกน้อยควรรับประทานวิตามินดีเพิ่ม
  • หากคุณอายุ 65 ปีขึ้นไปหรือมีน้ำหนักตัวเกิน คุณมีความเสี่ยงต่อการมีวิตามินดีในร่างกายต่ำ
  • คุณสามารถตากแดดโดยไม่ไม่ทาครีมกันแดดเพื่อรับวิตามินดีได้แต่อย่าลืมที่จะปกป้องผิวของคุณด้วยการจำกัดเวลาในการออกแบบให้เหมาะสม
  • อย่าให้สุนัขหรือแมวของคุณรับประทานวิตามินดีเป็นอาหารเสริมยกเว้นว่าสัตวแพทย์แนะนำ
  • วิตามินดีทำงานร่วมกับวิตามินเอ ซี โคลีนแคลเซียมและฟอสฟอรัสได้ดีที่สุด

หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์และอยากอ่านเกี่ยวกับหัวข้อนี้เพิ่มเติม สามารถสนับสนุน ดร.เอิร์ล มินเดลล์ (ผู้แต่ง) พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (แปล) ได้โดยการซื้อหนังสือวิตามินไบเบิล


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Cholecalciferol Uses, Side Effects & Warnings. Drugs.com. (https://www.drugs.com/mtm/cholecalciferol.html)
Cholecalciferol | C27H44O. U.S. National Library of Medicine National Center for Biotechnology Information. (https://pubchem.ncbi.nlm.nih.gov/compound/Cholecalciferol)
Calciferol Oral : Uses, Side Effects, Interactions, Pictures, Warnings & Dosing. WebMD. (https://www.webmd.com/drugs/2/drug-9049/calciferol-oral/details)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)