รู้สึคันยุบยิบ ระคายเคืองบริเวณจุดซ่อนเร้น อาจเป็นสัญญาณของโรคเชื้อราในช่องคลอด แล้วโรคนี้เป็นอย่างไร มีวิธีป้องกันหรือไม่ ข้อมูลเหล่านี้บอกคุณได้
โรคเชื้อราในช่องคลอดคืออะไร
โรคเชื้อราในช่องคลอดเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสตรีทั่วไป เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม “แคนดิดาอัลบิแคนส์”(Candida albicans) ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ย่อยเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบของช่องคลอด นอกจากนี้ ยีสต์หรือเชื้อราประเภทนี้มักเกิดขึ้นได้ในสภาพอบอุ่น อับชื้น เช่น ในปากหรือตามข้อพับต่างๆ เป็นต้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคเชื้อราในช่องคลอดมักเกิดขึ้นได้บ่อยกับเด็กหญิงวัยรุ่น และ 75% ของผู้หญิงเคยเป็นโรคนี้มาก่อน
อาการบ่งบอกโรคเชื้อราในช่องคลอด
- มีอาการคันและระคายเคืองบริเวณช่องคลอด
- มีอาการคัน บวมแดง บริเวณแคมช่องคลอด
- มีตกขาวลักษณะข้นมีสีขาวหรือสีเหลืองนวลเหมือนนมบูด มีกลิ่นเหมือนขนมปังหรือยีสต์
- ปวดแสบในขณะปัสสาวะหรือในขณะมีเพศสัมพันธ์
หากคุณสาวๆ กำลังมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้พบแพทย์หรือสูตินรีแพทย์ เพราะอาการดังกล่าวเป็นอาการที่คล้ายคลึงกันกับโรคติดต่อทางเพศอื่นๆ ด้วย ซึ่งแพทย์จะวินิจฉัยอาการของโรคได้ถูกต้องและคุณก็จะได้รับการรักษาที่เหมาะสม เมื่อเป็นแล้ว แพทย์จะรักษาโรคด้วยการให้ยาและรอดูอาการประมาณ 2-3 วัน ซึ่งอาการติดเชื้อจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์
สาเหตุของโรคเชื้อราในช่องคลอด
- เชื้อราในกลุ่ม “แคนดิดา” (Candida) เป็นเชื้อราที่อยู่ในช่องปาก กระเพาะอาหาร และช่องคลอดโดยปกติอยู่แล้ว ซึ่งไม่ทำให้เกิดโรคหากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานปกติ เชื้อเหล่านี้ก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของแบคทีเรียชนิดดีและไม่ทำให้เกิดโรค แต่เชื้อราดังกล่าวสามารถเจริญเติบโตมากขึ้นจนทำให้เกิดโรคเชื้อราในช่องคลอดได้ สาเหตุเพราะความเครียด การตั้งครรภ์ หรืออาการป่วยที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำลง นอกจากนี้ ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาสเตียรอยด์ หรือยาปฏิชีวนะ จะลดปริมาณแบคทีเรียชนิดดีภายในร่างกายที่ปกติจะเป็นตัวควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อราไว้ ไม่เพียงเท่านี้ การที่ปริมาณน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นก็เป็นสาเหตุให้เชื้อราเติบโตมากขึ้นได้เช่นกัน
- ดังนั้น เด็กที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ไม่มีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจึงมีโอกาสเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอดได้บ่อยกว่าปกติ เด็กผู้หญิงหลายคนพบว่า พวกเขามักมีอาการของโรคเชื้อราในช่องคลอดช่วงก่อนการมีประจำเดือน นั่นเพราะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนที่มาพร้อมกับรอบเดือน นอกจากนี้ การสวมชุดชั้นในที่คับเกินไปหรือที่ทำจากผ้าไนลอนจะทำให้เกิดภาวะอับชื้น หรือการใช้ผ้าอนามัยและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม และการสวนล้างช่องคลอด ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคได้เช่นกัน
- เชื้อราในช่องคลอดสามารถเกิดขึ้นกับเด็กผู้หญิงทุกคน ซึ่งไม่ถือเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด แม้ว่าโรคเชื้อราในช่องคลอดจะสามารถติดต่อไปยังคู่นอนแต่ก็พบกรณีการติดเชื้อดังกล่าวน้อยมาก และหากมีการติดเชื้อ เจ้าตัวจะรู้ตัวหรือเข้ารับการรักษาได้จนกว่าอาการของโรคจะปรากฏขึ้น
การวินิจฉัยโรคเชื้อราในช่องคลอด
- การรักษาโรคไม่ยากนัก แต่เมื่อมีอาการคุณจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง เนื่องจากมีโรคและการติดเชื้ออื่นๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการคล้ายเคียงกัน ซึ่งต้องได้รับการรักษาที่แตกต่างออกไป
- เมื่อพบแพทย์ แพทย์จะวินิจฉัยโดยการตรวจปัสสาวะเพื่อตรวจหาอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะและนำเนื้อเยื่อจากช่องคลอดไปตรวจหาการติดเชื้อด้วยกล้องจุลทรรศน์
การรักษาโรคเชื้อราในช่องคลอด
- หากเกิดอาการของโรคเชื้อราในช่องคลอด แพทย์จะสั่งยาเม็ด ยาทา หรือยาเหน็บเพื่อการรักษา โดยคุณจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะยาทาและยาเหน็บที่จะต้องใช้กับบริเวณช่องคลอดโดยตรง ผู้ป่วยต้องงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการจะดีขึ้นเนื่องจากยาเหล่านี้อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยหรือห่วงคุมกำเนิดได้
- โดยยาที่นำมาใช้ในการรักษาจะออกฤทธิ์รักษาอาการของโรคให้หายดีภายใน 3-4 วัน และการติดเชื้อจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องใช้ยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพราะหากคุณหยุดการใช้ยาก่อนกำหนด อาการติดเชื้ออาจกลับมาได้ และเมื่ออาการไม่ดีขึ้นหลังจากให้ยาครบกำหนดแล้ว แนะนำให้คุณรีบกลับไปพบแพทย์
- ยาที่นำมารักษาบางตัวสามารถซื้อเองได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์ แต่ไม่แนะนำให้คุณหายาเหล่านั้นมาทานหรือใช้เอง คุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องเพราะคุณอาจเป็นโรคอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคเชื้อราในช่องคลอดก็เป็นได้ และหากคุณซื้อยามาใช้เองอาจทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลง นอกจากนี้ ยาที่จำหน่ายทั่วไปไม่สามารถจำหน่ายให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือเด็กที่กำลังตั้งครรภ์โดยไม่ได้รับคำแนะนำหรือใบสั่งจากแพทย์
ผู้ชายสามารถเป็นโรคนี้ได้หรือไม่
- ผู้ชายสามารถเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน ซึ่งอาการของโรคจะเกิดขึ้นบริเวณปลายองคชาติที่เกิดจากการติดเชื้อราชนิดเดียวกันกับที่เกิดในผู้หญิง โดยโรคนี้มักเกิดกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะเป็นระยะเวลานาน ผู้ชายที่เป็นโรคนี้จะไม่มีอาการแสดงให้เห็นชัดเจน เช่น ไม่มีอาการบวม แดง และคันบริเวณอวัยวะเพศ แต่จะรู้สึกปวดแสบเล็กน้อยขณะปัสสาวะ
- ผู้ชายที่ไม่ได้ขริบหนังหุ้มปลายองคชาติจำเป็นต้องดูแลเรื่องความสะอาดมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเชื้อราจะเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่อบอุ่นและอับชื้น พยายามทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อได้ แต่หากเกิดอาการของโรค คุณไม่ต้องกังวล ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
วิธีการป้องกันการเกิดโรคเชื้อราในช่องคลอด
- การป้องกันไม่ให้เกิดโรคเชื้อราในช่องคลอดนั้นเป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิง แต่การใช้เสื้อผ้าหรือชุดชั้นในที่เป็นผ้าค๊อตตอนที่ระบายอากาศได้ดีและหลีกเลี่ยงการใช้สปรย์หรือฉีดสวนช่องคลอดจะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อราเจริญเติบโต และหากคุณเป็นโรคเบาหวาน การรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่เป็นวิธีป้องกันการติดเชื้อได้ แต่หากคุณรู้สึกว่าคุณกำลังมีอาการของโรค แนะนำให้รีบพบแพทย์ ไม่ควรใช้ยาปฏิชีวนะด้วยตัวเองโดยที่ไม่มีคำสั่งของแพทย์ เพราะวิธีการดังกล่าวอาจทำให้อาการแย่ลงและเชื้อราเจริญเติบโตมากขึ้น
- โรคเชื้อราในช่องคลอดอาจทำให้คุณสาวๆ รู้สึกรำคาญ โดยเฉพาะหากคุณมีอาการบ่อยครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการของโรคเกิดขึ้นบ่อยๆ คุณจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำและรับยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และควรสวมใส่เสื้อผ้าที่โล่งสบายไม่คับจนเกินไป