ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการให้หายขาด แต่การรักษาจะช่วยบรรเทาอาการและช่วยให้การดำเนินไปของโรคช้าลง
ทีมแพทย์ที่ดูแลคุณ
หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการ คุณจะเข้าสู่การดูแลโดยทีมบุคลากรทางการแพทย์หลายสาขาวิชาชีพ โดยมักจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา หรือแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง และพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การตัดสินใจล่วงหน้า
ผู้ป่วยโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการหลายคนจะมีการเขียนคำสั่งการตัดสินใจไว้ล่วงหน้า ซึ่งหมายความว่า คุณได้เขียนระบุเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคที่คุณต้องการไว้ล่วงหน้าในกรณีที่คุณไม่สามารถสื่อสารเพื่อการตัดสินใจในอนาคตได้เนื่องจากคุณมีอาการของโรครุนแรงมากขึ้น
ประเด็นที่คุณสามารถตัดสินใจไว้ล่วงหน้าได้ มีดังนี้:
- เมื่อคุณเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการ คุณต้องการรับการรักษาที่บ้าน ที่บ้านพัก หรือที่โรงพยาบาล
- ชนิดของยาที่คุณยินดีที่จะใช้ในบางสถานการณ์
- คุณยินดีที่จะรับอาหารทางสายยางหรือไม่ หากคุณไม่สามารถกลืนอาหารและน้ำได้เองแล้ว
- ถ้าระบบหายใจของคุณล้มเหลวในระยะท้ายๆ ของโรค คุณต้องการที่จะใส่ท่อช่วยหายใจโดยการเจาะคอหรือไม่
- คุณยินดีที่จะบริจาคอวัยวะของคุณหลังจากที่คุณเสียชีวิตหรือไม่ (สมองและไขสันหลังของผู้ป่วยโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการมีความสำคัญมากสำหรับการวิจัย)
ทีมแพทย์ที่ดูแลรักษาคุณสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมและแนะนำคุณเกี่ยวกับการตัดสินใจล่วงหน้าได้
ยาริรูโซล (riluzole)
ยาริรูโซลเป็นยาเพียงตัวเดียวที่มีประโยชน์ในการยืดอายุผู้ป่วยโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการ ยาริรูโซลจะทำให้การดำเนินไปของโรคช้าลง โดยลดการทำลายเซลล์ประสาทสั่งการโดยการลดความไวต่อสารสื่อประสาทกลูตาเมต (glutamate)
ข้อมูลจากงานวิจัยทางการแพทย์พบว่ายาริรูโซลช่วยยืดชีวิตของผู้ป่วยออกไปได้ 2-3 เดือนโดยเฉลี่ย แต่อย่างไรก็ตามผลการรักษาจะแตกต่างกันแล้วแต่บุคคล และสภาวะของผู้ป่วยจะยังคงลุกลากต่อไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะรักษาด้วยยาริรูโซลก็ตาม
ผลข้างเคียงของยาริรูโซลมักอยู่ในระดับไม่รุนแรง อาการที่พบได้บ่อยคือ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย และที่พบไม่บ่อยคือ หัวใจเต้นเร็ว
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ส่วนผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมากๆ คือ ยาริรูโซลทำให้ตับได้รับความเสียหายได้ หากคุณได้รับการจ่ายยาริรูโซล คุณจำเป็นต้องตรวจเลือดในช่วงไม่กี่เดือนแรกเพื่อดูว่าตับของคุณยังทำงานได้ตามปกติหรือไม่ หากคุณเป็นโรคตับ ยานี้ไม่เหมาะสมกับคุณ
ยารักษาอาการของโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการ
มีการรักษาหลายอย่างที่จะช่วยบรรเทาอาการและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการได้
ตะคริวที่กล้ามเนื้อ
ตะคริวที่กล้ามเนื้อสามารถบรรเทาได้ด้วยการทำกายภาพบำบัด ในบางกรณีอาจมีการใช้ยาควินีน (quinine)
ยาควินีน เป็นยาที่มีผลข้างเคียงดังนี้
- ทำให้เกิดปัญหาด้านการมองเห็นและการได้ยิน
- เสียงในหู (tinnitus)-คือได้ยินเสียงรบกวนในหูข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้าง หรือภายในศีรษะ
- รู้สึกหมุน (vertigo)-คือความรู้สึกว่าตนเองกำลังหมุน หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุน
เนื่องจากยาควินีนมีผลข้างเคียงหลายอย่าง ดังนั้นยานี้จึงควรใช้เฉพาะที่พิจารณาแล้วว่าประโยชน์ที่ได้รับจากยามีมากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง
กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง (muscle stiffness หรือ spasticity) สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาบาโคลเฟน (baclofen) เพื่อช่วยในการคลายกล้ามเนื้อ โดยผลข้างเคียงคือ ทำให้อ่อนแรงมากขึ้นหรืออ่อนเพลียมากขึ้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
น้ำลายไหล
น้ำลายไหลสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยา หนึ่งในยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อรักษาอาการนี้คือยา ไฮออสซีน (hyoscine hydrobromide) ชนิดแผ่นแปะที่ผิวหนัง ยาตัวนี้เริ่มแรกออกแบบมาเพื่อใช้รักษาอาการเมารถ เมาเรือ แต่เป็นยาที่ได้รับการยืนยันแล้วว่ามีประโยชน์ในการทำให้น้ำลายไหลน้อยลง
ยังมียาอื่นๆ อีก ที่ใช้เป็นทางเลือกสำหรับการควบคุมอาการน้ำลายไหล ได้แก่ Amitriptyline, ยาหยอด atropine โดยนำมาป้ายที่ลิ้น, glycopyrrolate หรือ ยาฉีด botulinum toxin
ปัญหาเรื่องการสื่อสาร
ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการจะมีปัญหาเรื่องการพูดอย่างชัดเจน แต่มีวิธีที่จะช่วยผู้ป่วยที่มีอาการได้ ผู้บำบัดด้านคำพูดและการใช้ภาษาสามารถสอนคุณในหลายๆ เทคนิคเพื่อให้คุณพูดได้อย่างชัดเจนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการลุกลามมากขึ้น คุณอาจจำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีอื่นเพื่อช่วยเหลือคุณในการสื่อสาร มีเครื่องมือที่จะช่วยในการสื่อสารอยู่หลายอย่าง โดยนักบำบัดจะแนะนำคุณเกี่ยวกับเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมกับคุณ
การกลืนลำบาก
ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการจะมีปัญหาการกลืนลำบากอย่างชัดเจน หากผู้ป่วยมีอาการกลืนลำบาก จะทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารและดื่มน้ำได้ตามปกติ โดยหากอาหารเดินทางเข้าสู่อวัยวะส่วนล่างของร่างกายผิดช่องทางจะทำให้เกิดการสำลักและการติดเชื้อที่ปอด น้ำหนักลดเนื่องจากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นก็สามารถเร่งการลุกลามของโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการได้อีกด้วย
การรักษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับอาการกลืนลำบากนี้คือการใช้สายยางให้อาหาร โดยมีชื่อเฉพาะว่าสายยางให้อาหารทางหน้าท้องโดยใช้กล้องส่องกระเพาะอาหารช่วยนำ (percutaneous endoscopic gastrostomy tube: PEG tube) สายยางจะถูกถูกฝังลงในกระเพาะอาหารของคุณผ่านการผ่าตัดเล็ก ๆ กรีดบนผิวของกระเพาะอาหาร การผ่าตัดนี้จะไม่จำกัดการทำกิจวัตรประจำวันของคุณ และคุณสามารถอาบน้ำและว่ายน้ำได้ตามปกติหากต้องการ อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าควรใส่ท่อสายยางให้อาหารดังกล่าวก่อนที่กล้ามเนื้อหายใจจะอ่อนลงอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ได้ใช้สำหรับการให้อาหารในทันทีจนกว่าจะเกิดอาการมากขึ้นในภายหลังก็ตาม
บรรเทาอาการปวด
โรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการมักไม่มีอาการเจ็บปวด หากคุณพบว่ามีอาการปวดบ่อย ๆ อาการดังกล่าวอาจเป็นการปวดข้อที่เกิดจากภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือท่าทางที่เปลี่ยนไป ชนิดของยาแก้ปวดที่แนะนำนั้นจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการปวด
อาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลางสามารถควบคุมได้โดยใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen) อาการปวดที่รุนแรงกว่านั้นเป็นเรื่องที่พบได้ยากมาก แต่ก็สามารถรักษาได้โดยใช้ยาแก้ปวดชนิดเสพติดซึ่งต้องสั่งโดยแพทย์ เช่น ยามอร์ฟีน
ในบางกรณี สามารถใช้ยาชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า gabapentin ได้ ซึ่งแท้จริงแล้วตัวยาถูกออกแบบมาเพื่อรักษาโรคลมชัก แต่ก็มีฤทธิ์ในการรักษาอาการปวดได้ด้วย ผลข้างเคียงทั่วไปของ gabapentin คืออาการง่วงซึม
ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
เมื่อโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการลุกลามมากขึ้น กล้ามเนื้อสำหรับหายใจคุณจะทำงานได้น้อยลง และการหายใจของคุณจะตื้นขึ้นและไอเบาลงเรื่อย ๆ
การหายใจลำบากนี้มักจะค่อย ๆ รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าในกรณีที่พบได้ยาก ปัญหาเกี่ยวกับการหายใจอาจเป็นอาการแสดงแรกของโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการได้ก็ตาม
สิ่งสำคัญคือต้องคุณควรปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับการหายใจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนที่อาการจะรุนแรงมากขึ้น โดยแพทย์ประจำตัวคุณสามารถส่งต่อแนะนำคุณไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ หรือผู้เชี่ยวชาญการดูแลแบบประคับประคองตามความเหมาะสม
ผู้ป่วยโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการได้ประโยชน์จาก เครื่องช่วยหายใจชนิดไม่รุกราน (Non-invasive mechanical ventilation:NIV) เพื่อช่วยเหลือในการหายใจของพวกเขา โดยปกติจะต้องใช้ตลอดคืนระหว่างการนอนหลับ อากาศในห้องโดยรวมซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ออกซิเจนเท่านั้นจะถูกดูดเข้าไปในกล่องเล็ก ๆ ถูกกรองให้สะอาด แล้วค่อย ๆ สูบอย่างเบา ๆ เข้าไปในปอดผ่านหน้ากากหรือท่อในจมูกทุกครั้งที่หายใจเข้า
เครื่องช่วยหายใจดังกล่าวอาจไม่เหมาะกับทุกคนที่เป็นโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลือกต่างๆที่สามารถใช้ได้
การตัดสินใจว่าการรักษาแบบใดที่คุณต้องการใช้ในกรณีที่เกิดภาวะระบบหายใจล้มเหลว ถือเป็นการวางแผนการรักษาและการตัดสินใจล่วงหน้าที่สำคัญมาก สิ่งนี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากและอาจทำให้หงุดหงิดได้ คุณอาจต้องการปรึกษาเรื่องนี้กับคนที่คุณรักอย่างละเอียดถี่ถ้วน
แพทย์ประจำตัว หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคุณสามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่คุณได้ แต่การตัดสินใจสุดท้ายจะต้องมาจากตัวคุณเองเท่านั้น
การแพทย์ทางเลือก (Complementary therapies)
ผู้ป่วยโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการพบว่าตนเองได้ประโยชน์จากการแพทย์ทางเลือก หมายถึงมีการรวมการรักษาแบบดั้งเดิมที่ไม่ใช่แพทย์แผนปัจจุบันเข้ามาร่วมด้วย เช่น การฝังเข็ม
การแพทย์ทางเลือกแม้ไม่สามารถชะลอการลุกลามของโรคเสื่อมของเซลล์ประสาทสั่งการได้ แต่อาจช่วยลดความเครียดและทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายมากขึ้นในชีวิตประจำวัน
ก่อนที่จะพิจารณาการแพทย์ทางเลือกใด ๆ ก็ตาม คุณควรขอคำแนะนำจากแพทย์ประจำตัวของคุณและตรวจสอบให้แน่ใจว่าบุคลากรผู้ปฏิบัติงานที่คุณติดต่อเข้ารับการบำบัดใด ๆ นั้นได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง มีการรับรองจากสถาบัน และมีประสบการณ์เพียงพอ