โรคหัวใจเต้นเร็วจากหัวใจห้องบน (Supraventricular Tachycardia: SVT) อธิบายอย่างง่ายคือ มีการลัดวงจรของระบบไฟฟ้าในกล้ามเนื้อหัวใจเป็นระยะๆ การลัดวงจรนี้โดยปกติอาจเกิดได้วันหนึ่งหลายๆ ครั้ง ครั้งละเป็นวินาที หรือเป็นนาที แต่ถ้าเกิดต่อเนื่องนานๆ เป็นชั่วโมงแล้ว เรียกว่า "ไม่ดีแน่"
หัวใจเริ่มเต้นตั้งแต่เรายังเป็นตัวอ่อน
การที่หัวใจเต้นเองได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของคุณแม่นั้นเป็นเพราะหัวใจมีกล้ามเนื้อพิเศษ ที่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าขึ้นเพื่อไป “กระตุก” ให้กล้ามเนื้อหัวใจหดตัวและคลายตัวเป็นจังหวะตลอดเวลา โดยไม่ต้องมีอะไรไปช่วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
พอใช้งานไปซักระยะ (อายุเพิ่มมากขึ้น หรือมีปัจจัยอื่นๆ มากระตุ้น) ระบบไฟฟ้าก็ต้องมีระบบรวนกันบ้างเป็นเรื่องปกติ
บางคนระบบไฟฟ้ารวนไม่กี่วินาทีก็กลับมาเป็นปกติ บางคนก็รวนนานไป หรือเกิดต่อเนื่องเป็นชั่วโมง กรณีเช่นนี้จำเป็นต้องให้คุณหมอช่วยจัดการระบบไฟฟ้าของหัวใจให้เข้าที่เข้าทาง
โรคหัวใจเต้นเร็วจากหัวใจห้องบน
ภาวะที่มีการลัดวงจรของหัวใจ เรียกรวมๆ ว่า “Arrythmia” สามารถเกิดที่ตำแหน่งใดของหัวใจก็ได้ที่เป็นส่วนสร้างกระแสไฟฟ้า
แต่สำหรับโรคหัวใจเต้นเร็วจากหัวใจห้องบน (Supraventricular Tachycardia) หรือที่คุณหมอชอบเรียกกันย่อๆว่า "SVT" เป็นภาวะที่แยกย่อยออกมา ก็คือหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ โดยจุดที่ผิดปกติไปอยู่ที่หัวใจห้องบน มาเต้นแทรกระหว่างที่หัวใจกำลังเต้นในจังหวะปกติ
อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ คล้ายๆ กับเรากำลังตีกลองอยู่เป็นจังหวะ อยู่ๆ ก็มีคนตีกลองแทรกเข้ามาในจังหวะที่เรากำลังตีอยู่นั่นเอง
ความถี่ของโรคหัวใจเต้นเร็วจากหัวใจห้องบน สามารถพบได้ที่ 2.25 คน ต่อประชากร 1,000 คน และผู้หญิงมักเกิดโรคนี้มากกว่าผู้ชาย อีกทั้งยังมีข้อมูลว่า ในคนอายุมากจะเกิดโรคนี้ได้บ่อยกว่าคนอายุน้อย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปัจจัยที่กระตุ้นโรคหัวใจเต้นเร็วจากหัวใจห้องบน
SVT สามารถถูกกระตุ้นได้จากปัจจัยอื่นๆได้ ไม่จำเป็นว่า ต้องมีสาเหตุจากกล้ามเนื้อหัวใจเพียงอย่างเดียว ปัจจัยที่พบบ่อย เช่น
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
- ภาวะที่กังวลมาก
- ความเครียด
- ยาลดน้ำมูกบางชนิด หรือยาขยายหลอดลม
- การสูบบุหรี่จัดๆ
จะรู้ได้อย่างไรว่า ตนมีโรคหัวใจเต้นเร็วจากหัวใจห้องบน
เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจบีบรัดตัวเองเร็วจะทำให้มีช่วงเวลาคลายตัวน้อยลง ส่งผลให้เลือดที่ไหลไปเลี้ยงร่างกายลดลง จึงอาจรู้สึกใจสั่นและรู้สึกว่า หัวใจเต้นเร็วในอก หรือลำคอ รู้สึกแน่นๆ ติดๆ ในลำคอ
อาการดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว หรือต่อเนื่องยาวนาน แต่หากมีอาการเหล่านี้ขึ้นมา ขอให้ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเบื้องต้น (EKG)
อาการที่พบบ่อย
- เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก
- ใจสั่นต่อเนื่องยาวนานเป็นชั่วโมง
- หน้ามืด เป็นลม
- เหงื่อแตก ตัวเย็น
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
- หมดสติ
อาการที่ว่ามาถือว่า "อันตรายมาก" และหากปล่อยทิ้งไว้ อาจเกิดภาวะช็อคจากการทำงานของหัวใจ หรือ Cardiogenic Shock ได้ ดังนั้นอย่ารีรอที่จะไปพบแพทย์
บางคนแม้จะไปพบแพทย์แล้วแต่ก็ยังอาจตรวจไม่พบก็ได้ เพราะตอนที่ใจสั่น กระแสไฟฟ้ามีการลัดวงจรอยู่ แต่พอไปถึงโรงพยาบาลแล้ว อาการได้หายไปก็เป็นได้ แต่ถึงอย่างก็ไม่เป็นไร ขอให้แจ้งอาการกับแพทย์ไว้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แพทย์อาจพิจารณาให้วิ่งสายพานทดสอบ (EST) หรือติดเครื่องติดตามการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าดูว่า มี SVT บ่อยขนาดไหน และยาวนานเพียงใด
การรักษาโรคหัวใจเต้นเร็วจากหัวใจห้องบน
มีหลายวิธีที่สามารถรักษา SVT ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของผู้ป่วย ดังนี้
การรักษาเบื้องต้นด้วยตนเองที่บ้าน
เช่น บีบจมูก ปิดปาก และพยายามเป่าลมให้แรง ๆ (Valsalva Maneuver) คล้ายกับการพยายามเบ่งขณะอยู่ในห้องน้ำ รวมทั้งการนวดบริเวณคอ (Carotid Massage) แต่วิธีนี้ระวังอาการหน้ามืดด้วย
การใช้ยา
หากอาการเกิดขึ้นยาวนาน หรือมีความรุนแรง จะมีการใช้ยาอะดีโนไซน์ (Adenosine) ฉีดเข้าเส้นเลือดดำเพื่อเข้าปิดกั้นคลื่นกระตุ้นภายในหัวใจที่ผิดปกติ แต่ถ้าคุณเป็นโรคหอบหืด แพทย์จะฉีดยาวีราพามิล (Verapamil) ให้แทน
นอกจากนี้ยังมียาอีกหลายชนิดที่ใช้ป้องกันการเกิดอาการ SVT ได้ เช่น ไดกอกซิน (Digoxin) เบต้าบล็อกเกอร์ (Beta Blockers)
รักษาด้วยการช็อตไฟฟ้า (Cardioversion)
มักนำมาใช้เพื่อหยุดอาการ SVT โดยจะมีการใช้เครื่องกระตุกหัวใจ (Defibrillator) มาส่งกระแสไฟฟ้าเข้าที่หน้าอกของ แต่ไม่ต้องกลัวไปเพราะส่วนใหญ่จะใช้ยาสลบ (General Anaesthetic) ขณะทำการรักษาด้วยวิธีนี้
การสวนและจี้ไฟฟ้าหัวใจ (Catheter Ablation)
เป็นกระบวนการรักษาที่ทำให้หัวใจมีแผลเป็นขนาดเล็กเพื่อช่วยปิดกั้นสัญญาณทางไฟฟ้าที่แล่นไปเป็นวงกลม และช่วยป้องกันการเกิดอาการของ SVT
วิธีนี้จะใช้สายสวนสอดเข้าทางเส้นเลือดดำ ก่อนเคลื่อนไปยังหัวใจเพื่อบันทึกกิจกรรมทางไฟฟ้า เมื่อพบตำแหน่งที่เป็นสาเหตุแล้ว แพทย์จะจี้ความร้อนด้วยกระแสไฟฟ้า หรือความเย็น (Cryoablation)
หมั่นดูแลสุขภาพและหมั่นตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำเพื่อให้สุขภาพร่างกายและหัวใจแข็งแรง ห่างไกลจากโรค
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพหัวใจและสมรรถภาพหัวใจ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android