ตั้งแต่ที่มีการคิดค้นผ้าอนามัยแบบสอด (Tampons) ขึ้นมา สินค้าประเภทนี้ก็ได้กลายเป็นที่ถกเถียงในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านของสุขลักษณะ ด้านจริยธรรม และด้านโฆษณาชวนเชื่อเกินจริงซึ่งก็ทำให้เกิดข้อสงสัยและความใจผิดมากมายที่เกี่ยวข้องกับผ้าอนามัยแบบสอดมาจนถึงปัจจุบันดังต่อไปนี้
- การสอดหรือถอดผ้าอนามัยแบบสอด จะทำให้รู้สึกเจ็บหรือไม่?
การใช้ผ้าอนามัยแบบสอดไม่ควรจะทำให้รู้สึกเจ็บ ยกเว้นแต่ในกรณีที่ช่องคลอดแห้ง หรือมีประจำเดือนมาน้อยมาก ก็อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายตัวเล็กน้อยขณะสอดเข้าไปหรือถอดออกมา วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ คือ ใช้สารหล่อลื่นชนิดน้ำปริมาณเล็กน้อย เพื่อช่วยให้ผ้าอนามัยเข้าไปได้สะดวกยิ่งขึ้น หรือเลือกผ้าอนามัยแบบสอดชนิดที่มีการดูดซับไม่มากเกินไปนัก
สำหรับการสอดผ้าอนามัยเข้าไปครั้งแรก หากดันเข้าไปข้างในลึกมากพอ จะไม่ทำให้เกิดความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผ้าอนามัยชนิดนี้ถูกออกแบบมารองรับกับส่วนต้นของช่องคลอด ซึ่งเป็นส่วนที่ลึกที่สุดจากปากช่องคลอด แต่ถ้ารู้สึกเจ็บ หรือรู้สึกขัดๆ ให้ลองดันเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น
- ผ้าอนามัยแบบสอดสามารถหลุดหายเข้าไปในร่างกายได้หรือไม่?
ภายในมดลูกจะมีช่องเปิดขนาดเล็กๆ ที่ให้เลือดหรือน้ำเชื้อไหลผ่านได้เท่านั้น สิ่งแปลกปลอมอื่นๆ จึงไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ หากรู้สึกว่าถอดผ้าอนามัยออกมายาก ให้พยายามดันภายในช่องท้องด้วยการเบ่งคล้ายกับการเบ่งอุจจาระ หรือการลุกนั่งพร้อมกับใช้นิ้วเขี่ยรอบๆ ภายในของช่องคลอด เมื่อเจอสายหรือตัวผ้าอนามัยแบบสอดแล้วก็ให้ใช้นิ้วหนีบออกมา
- ผ้าอนามัยแบบสอดสามารถหลุดออกมาเองได้หรือไม่?
ถ้าหากสอดผ้าอนามัยเข้าไปลึกมากพอ ช่องคลอดจะหนีบผ้าอนามัยให้อยู่กับที่ตามธรรมชาติ แม้ว่าคุณกำลังวิ่งหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ผ้าอนามัยก็จะไม่หลุดออกมา แต่หากคุณเบ่งอุจจาระแรงๆ ก็เป็นไปได้ที่จะทำให้ผ้าอนามัยแบบสอดหลุดออกมาเอง หากเป็นเช่นนี้ก็ควรเปลี่ยนไปใช้ผ้าอนามัยแบบสอดอันใหม่แทน
- ผ้าอนามัยแบบสอด จะทำให้สูญเสียความบริสุทธิ์หรือไม่?
ความบริสุทธิ์ ไม่ใช่ภาวะทางการแพทย์หรือทางกายภาพใดๆ เป็นเพียงคำนิยามตามวัฒนธรรมที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเชื่อมโยงกับความเชื่อที่ว่าปากช่องคลอดของผู้หญิงจะถูกปกคลุมด้วยชั้นเนื้อเยื่อ หรือที่เรียกว่าเยื่อพรหมจารี (Hymen) ที่จะขาดออกเมื่อมีเพศสัมพันธ์
ปกติแล้ว Vaginal Corona จะค่อยๆ เสื่อมสภาพไปเองตามการทำกิจกรรมต่างๆ ของร่างกาย เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน หรือการขี่ม้า ไม่ได้เกิดจากการสอดสิ่งใดเข้าไปทั้งสิ้น
- สามารถอาบน้ำพร้อมกับการใส่ผ้าอนามัยแบบสอดได้หรือไม่?
ผู้หญิงทุกคนสามารถใช้ผ้าอนามัยแบบสอดขณะอาบน้ำหรือแช่น้ำอยู่ก็ได้ เพราะทั้งผ้าอนามัยแบบสอดและถ้วยอนามัย ต่างก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการว่ายน้ำในขณะที่มีประจำเดือน
- ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดบ่อยแค่ไหน?
ผ้าอนามัยแบบสอดสำหรับประจำเดือนมาน้อย สามารถอุ้มของเหลวได้สูงสุด 3 มิลลิลิตร ในขณะที่ผ้าอนามัยแบบสอดสำหรับวันมามากอาจอุ้มได้มากสุดถึง 12 มิลลิลิตร
วิธีที่ดีที่สุด ในการประเมินว่าควรเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดหรือไม่ คือการดึงสายผ้าอนามัยเบาๆ หากตัวผ้าอนามัยเริ่มดึงออกมาง่ายขึ้น แสดงว่าควรทำการเปลี่ยนได้แล้ว แต่ถ้าหากยังดึงยาก ก็หมายความว่าคุณสามารถใช้ผ้าอนามัยชิ้นนั้นได้อีกสักพัก แต่ห้ามทิ้งไว้ในร่างกายนานเกินกว่า 8 ชั่วโมง เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคท็อกซิคช็อคขึ้น - สามารถปัสสาวะขณะที่ใช้ผ้าอนามัยแบบสอดอยู่ได้หรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดทุกครั้งที่ปัสสาวะ แต่อาจต้องยัดสายของผ้าอนามัยเข้าไปในช่องคลอดหรือจับเอาไว้ เพื่อไม่ให้สายของผ้าอนามัยไปโดนน้ำปัสสาวะ
บางคนสามารถถ่ายอุจจาระพร้อมกับมีผ้าอนามัยแบบสอดอยู่ แต่ในกรณีนี้ควรระมัดระวังไม่ให้สายผ้าอนามัยสัมผัสถูกอุจจาระ เพราะแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้สามารถทำให้เกิดภาวะติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะได้ - สามารถทิ้งผ้าอนามัยแบบสอดลงชักโครกได้หรือไม่?
ไม่ควรทิ้งผ้าอนามัยแบบสอดลงชักโครก เพราะผ้าอนามัยแบบสอดออกแบบมาเพื่อดูดซับของเหลวและขยายตัวออก จึงอาจทำให้ผ้าอนามัยเข้าไปติดอยู่ในชักโครกหรือท่อน้ำได้ ซึ่งผ้าอนามัยส่วนมากไม่สามารถย่อยสลายได้ แต่ถึงย่อยสลายได้ก็ไม่ควรทิ้งลงชักโครก ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการห่อผ้าอนามัยและตัวช่วยต่างๆ ด้วยกระดาษชำระและนำไปทิ้งลงถังขยะ
- หากใช้ห่วงอนามัย สามารถใช้ผ้าอนามัยแบบสอดได้หรือไม่?
หลังการสอดห่วงอนามัย (IUD) อาจพบอาการเลือดออกได้บ้าง แต่เมื่อเลือดหยุดไหลแล้ว ก็สามารถใช้ผ้าอนามัยแบบสอด หรือแบบถ้วยได้แม้ว่าคุณจะมีห่วงอนามัยอยู่ภายใน โดยสายของ IUD จะมีขนาดไม่กี่เซนติเมตรจากปากมดลูก ดังนั้น ตัวของ IUD ควรจึงไม่รบกวนการสอดหรือการถอดผ้าอนามัยแบบสอดแต่อย่างใด
- ผ้าอนามัยแบบสอดมีวันหมดอายุหรือไม่?
ผ้าอนามัยแบบสอดมักจะมีอายุอยู่ที่ประมาณ 5 ปี แต่ถ้าเก็บในที่ชื้น เช่น ในห้องน้ำ ก็อาจทำให้หมดอายุเร็วกว่าเดิม เนื่องจากมีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อราบนผ้าอนามัย เพราะถึงสินค้าชนิดนี้จะเป็นสินค้าอนามัย แต่ก็ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อมา
ในกรณีที่มีการเก็บผ้าอนามัยแบบสอดติดกระเป๋าไว้เพื่อป้องกันกรณีฉุกเฉิน ควรตรวจสอบก่อนแกะใช้งานว่ามีความเสียหาย หรือมีสิ่งปนเปื้อนเกิดขึ้นหรือไม่ หากมี ก็ไม่ควรใช้เพราะความสกปรกหรือความชื้น อาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่ช่องคลอด
ผ้าอนามัยแบบสอด สามารถทำให้เกิดโรคท็อกซิกช็อคได้หรือไม่?
โรคท็อกซิกช็อค (Toxic Shock Syndrome: TSS) เป็นภาวะหายากที่เกิดกับผู้ที่มีประจำเดือนประมาณ 1 ใน 100,000 คน และกรณีที่พบ ก็มีความเกี่ยวข้องกับการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดมากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่สวมผ้าอนามัยแบบสอดเกิน 8 ชั่วโมง โดยอาการที่สังเกตเห็นได้ชัดของภาวะ TSS มีดังนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- มีไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป
- มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ปวดศีรษะ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ เจ็บคอ และไอ
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ท้องร่วง
- มีผื่นคล้ายโดนแดดเผากระจายไปทั่ว
- ตาขาว ริมฝีปาก และลิ้นเปลี่ยนเป็นสีแดงสด
- วิงเวียนหรือเป็นลม
- หายใจลำบาก ง่วงนอน หรือหมดสติ
ภาวะ TSS จัดเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ที่ต้องไปโรงพยาบาลทันที เพราะถ้าหากเพิกเฉยหรือปล่อยทิ้งไว้ อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้