an style="color:#006400;">อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ปฏิกิริยาทางด้านจิตใจของผู้ประสบภัยจะมีการแสดงออกที่แตกต่างกันไป ตามระยะของการเกิดภัย ดังนี้
ระยะวิกฤตและฉุกเฉิน (2 สัปดาห์แรกหลังเกิดเหตุการณ์) ปฏิกิริยาทางด้านจิตใจที่จะเกิดขึ้นได้ คือ ผู้ประสบภัยอาจจะเกิดภาวะความเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ รู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง ซึ่งอาการเหล่านี้ถือว่าเป็นปฏิกิริยาปกติในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ (Normal Reaction in Abnormal Situation ) อาการต่าง ๆ เหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปภายใน 1 เดือน ซึ่งในระยะนี้ผู้ประสบภัยจะมีความต้องการด้านปัจจัย 4 เป็นอันดับแรก
ในขณะเดียวกันการดูแลด้านจิตใจก็จำเป็นที่ผู้ประสบภัยจะต้องได้รับการช่วยเหลือด้านจิตใจเบื้องต้น เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรงในระยะยาว และเกิดโรคที่ทางจิตเวช เช่น โรคภาวะเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง (Post Traumatic Stress Disorder)
ระยะหลังได้รับผลกระทบ (2 สัปดาห์ถึง 3 เดือน) ผู้ประสบภัยจะมีการแสดงปฏิกิริยาทางด้านจิตใจที่เด่นชัดมากขึ้น เนื่องจากการให้การช่วยเหลือต่าง ๆ เริ่มลดลง หรือผู้ประสบภัยจะต้องเผชิญกับความเป็นจริงของชีวิต เช่น ต้องเผชิญกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นภายหลังจากน้ำท่วม ส่งผลให้บางรายอาจจะมีอาการเครียดมาก มีภาวะซึมเศร้าจากการสูญเสีย หรือบุคคลที่สูญเสียบุคคลในครอบครัวอาจจะมีอาการเศร้าโศกเสียใจอย่างมากจากการจากไปอย่างกะทันหัน การสูญเสียทรัพย์สิน ไร่นาเป็นจำนวนมาก ซึ่งบุคคลต่าง ๆ เหล่านี้หากมีภาวะซึมเศร้าอย่างมาก อาจมีแนวโน้มไปสู่การฆ่าตัวตายหรือการทำร้ายตนเอง
ระยะฟื้นฟู (3 เดือนขึ้นไปหลังเกิดเหตุการณ์) ปฏิกิริยาด้านจิตใจของผู้ประสบภัยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล เป็นระยะของการฟื้นฟูสภาพจิตใจให้สามารถกลับไปดำเนินชีวิตประจำวันได้ และมีความเข้มแข็งทางจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง