HPV หรือ หูดที่อวัยวะเพศ

เผยแพร่ครั้งแรก 17 ก.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
HPV หรือ หูดที่อวัยวะเพศ

คุณอาจเคยได้ยินมาบ้างแล้วเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งโรคเหล่านี้สามารถป้องกันและรักษาได้ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ HPV หรือหูดที่อวัยวะเพศ และเมื่อเป็นแล้วจะรักษาอย่างไร มาดูกัน!

หูดที่อวัยวะเพศเป็นอย่างไร

หูดที่อวัยวะเพศเป็นอาการที่มีหูดเกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ หากเกิดขึ้นในเด็กสาวหูดจะเกิดบริเวณปากช่องคลอด ภายในช่องคลอด ปากมดลูก หรือทวารหนัก ส่วนเด็กผู้ชายหูดจะเกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ปลายอวัยวะเพศ อัณฑะ หรือทวารหนัก โดยหูดจะมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อนูนออกมา มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกัน อาจเป็นสีขาวหรือสีเนื้อแล้วแต่ลักษณะของหูด ซึ่งอาจไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนทำให้ผู้ที่เป็นหูดส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจ STD วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 76%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

หูดที่อวัยวะเพศเกิดจากการติดเชื้อของกลุ่มไวรัส HPV (human papillomavirus) ซึ่ง HPV มีมากกว่า 100 ชนิด โดย HPV บางชนิดเป็นสาเหตุของหูดที่เกิดขึ้นตามมือและเท้า ซึ่งเป็น HPV ต่างชนิดกับหูดที่เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ มี HPV กว่า 40 ชนิดที่เป็นสาเหตุของหูดที่อวัยวะเพศ โดยเชื้อไวรัสสามารถติดต่อจากบุคคลหนึ่งสู่อีกบุคคลหนึ่งได้ ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการสอดใส่ สัมผัส การมีเพศสัมพันธ์ทางปากหรือทางทวารหนัก นอกจากนี้ หูดชนิดนี้สามารถติดต่อจากแม่ตั้งครรภ์ที่ส่งผ่านสู่ลูกน้อยในขณะคลอดได้

การติดเชื้อ HPV เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในวัยรุ่นและวัยหนุ่มสาว หากยิ่งมีคู่นอนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการติดโรคมากขึ้นเท่านั้น

อาการของโรค

ในผู้ชายนั้น หูดที่อวัยวะเพศอาจพบได้ที่อวัยวะดังต่อไปนี้

  • องคชาติ ซึ่งรวมไปถึงหนังหุ้มปลายในผู้ที่ไม่ได้ขลิบหนัง
  • อัณฑะ
  • ขาหนีบ
  • ต้นขาส่วนบน
  • รูทวารและผิวหนังบริเวณรอบ

นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ในบริเวณท่อปัสสาวะ หรือภายในรูทวารได้ หูดที่อยู่ในท่อปัสสาวะนั้นอาจขัดขวางการปัสสาวะได้

ส่วนในผู้หญิงนั้น หูดที่อวัยวะเพศ สามารถพบได้ที่อวัยวะดังนี้

  • บริเวณรอบช่องคลอด หรือปทางเปิดของช่องคลอด
  • ปากมดลูก หรือส่วนล่างของมดลูก
  • ด้านในของช่องคลอด
  • ด้านในหรือรอบๆทวารหนัก
  • ต้นขาส่วนบน

ทั้งในผู้หญิงและผู้ชายนั้น หูดที่อวัยวะเพศอาจพบได้ที่บริเวณริมฝีปาก ลิ้น ภายในช่องปาก และคอ ได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ซึ่งหูดที่อวัยวะเพศนั้นมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ซึ่งอาจมีลักษณะดังต่อไปนี้:

  • เห็นได้ชัดเจน หรือ เล็กมากจนไม่สามารถเห็นได้
  • ยกตัวนูนขึ้น หรือ แบนราบ
  • รูปร่างคล้ายดอกกระหล่ำ (หากเจริญร่วมกันเป็นกลุ่ม)
  • สีชมพู หรือ สีเนื้อ
  • นิ่ม

ซึ่งลักษณะรอยโรคนั้นมักจะไม่เจ็บและไม่คัน แต่ก็ไม่เสมอไปในบางรายอาจเจ็บและคันก็เป็นได้

อาการบางอย่างสามารถพบได้ แต่พบได้น้อยมาก เช่น

  • มีปริมาณตกขาวจากช่องคลอดเพิ่มขึ้น
  • มีเลือดออกจากช่องคลอด รูทวาร หรือ ท่อปัสสาวะ
  • รู้สึกเปียกชื้นมากขึ้นรอบบริเวณที่เป็นหูด

ควรพบแพทย์ตอนไหน

ควรพบแพทย์หรือสูตินรีแพทย์หากพบอาการต่างๆ ดังนี้

  • กำลังมีเพศสัมพันธ์หรือได้มีเพศสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้หรือสัมผัสอวัยวะเพศของคนอื่น
  • เกิดผิวขรุขระหรือมีตุ่มเนื้อนูนบริเวณอวัยวะเพศ
  • คุณกำลังสงสัยว่าคุณอาจเป็นหูดที่อวัยวะเพศ
  • พบว่าคู่นอนของคุณกำลังเป็นหูดที่อวัยวะเพศ

เนื่องจากผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ติดเชื้อ HPV จะไม่แสดงอาการใดๆ ดังนั้น ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์จำเป็นต้องได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการมีเพศสัมพันธ์ของตนด้วย

เนื้อที่เป็นตุ่มนูนออกมาอาจไม่ได้เป็นหูดเสมอไป ซึ่งตุ่มต่างๆ อาจเป็นลักษณะของสิว การติดเชื้อหรือเนื้องอกอื่นๆ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคและรับการรักษาที่ถูกต้อง

การวินิจฉัยโรคหูดที่อวัยวะเพศ

แพทย์จะทำการวินัจฉัยโรคหูดที่อวัยวะเพศโดยการตรวจร่างกายเพื่อตรวจหารอยโรค ซึ่งรวมไปถึงการทำการตรวจภายในร่วมด้วยในผู้หญิง

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจ STD วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 76%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ซึ่งหากคุณเป็นผู้หญิง แพทย์อาจให้คุณทำการส่องกล้องดูปากมดลูก (colposcopy) เพื่อตรวจหาดูว่าคุณมีหูดที่อวัยวะเพศที่บริเวณปากมดลูกร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากหูดนั้นมีขนาดเล็กจนไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขั้นตอนการทำ จะใช้ไฟส่องและใช้กล้องจุลทรรศ์กำลังขยายต่ำส่องดูที่บริเวณปากมดลูกเพื่อตรวจดูหาความผิดปกติ ซึ่งแพทย์อาจทำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อไปตรวจดูทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม การติดเชื้อHPVนั้นมีหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่สัมพันธ์ต่อการเกิดมะเร็ง ซึ่งไวรัสHPVนั้นมักจะทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก รายงานจากCDC ถึงแม้ว่าสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคหูดที่อวัยวะเพศนั้นไม่ทำให้เกิดมะเร็ง แต่หากคุณเป็นหูดที่อวัยวะเพศแล้ว คุณอาจมีไวรัสHPVสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งนั้นซ่อนตัวอยู่ การทดสอบหาDNAของไวรัสHPV นั้นสามารถทำได้จากการตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อตรวจหาสายพันธุ์ชนิดที่มีความเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็ง หากคุณมีหูดที่อวัยวะเพศ เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องได้รับการตรวจหามะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก ,ช่องคลอด ,อวัยวะเพศภายนอก และ มะเร็งทวารหนัก

จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่ได้รับการรักษา

หากผู้ป่วยหูดที่อวัยวะเพศไม่ได้รับการรักษา หูดอาจมีขนาดใหญ่ขึ้นและแพร่กระจายมากขึ้นได้ และแม้หูดจะยุบหายไปแล้ว เชื้อไวรัสยังคงซ่อนตัวอยู่ในร่างกาย นั่นหมายความว่าผู้ป่วยสามารถกลับมาเป็นหูดได้เสมอและสามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้

สามารถป้องกันการติดเชื้อได้หรือไม่

วิธีที่ดีที่สุดและสามารถป้องกันการเกิดหูดที่อวัยวะเพศได้ 100% คือวิธีการงดมีเพศสัมพันธ์ โดยต้องไม่มีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ปาก หรือทวารหนัก การป้องกันการติดเชื้อ HPV นั้นยังหมายรวมถึงการไม่สัมผัสอวัยวะเพศของผู้ติดเชื้อด้วยเช่นกัน

ผู้ที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์จำเป็นต้องใช้ถุงยาอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ ถุงยาอนามัยยังสามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้ด้วยแต่อาจป้องกันไม่ได้ 100% นั่นเพราะเชื้อไวรัสสามารถแพร่อยู่บริเวณใกล้เคียงอวัยวะเพศ แพทย์จึงแนะนำให้เด็กหญิงอายุตั้งแต่ 11 – 26 ปีและเด็กชายอายุ 11 – 21 ปี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ซึ่งวัคซีนดังกล่าวสามารถป้องกันเชื้อไวรัส HPV ได้บางชนิดที่เป็นสาเหตุของหูดที่อวัยวะเพศหรือมะเร็งบางชนิดได้

การรักษาโรค

พบว่าไม่มีการรักษาใดสามารถกำจัดเชื้อไวรัส HPV ได้อย่างถาวร ทว่าการรักษาจะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อและช่วยให้หูดยุบตัวลงเร็วขึ้น แม้หูดจะหายแล้วแต่เชื้อก็ยังแฝงตัวอยู่ซึ่งสามารถกลับมาเป็นหูดได้อีกครั้งหรืออาจแพร่เชื้อสู้ผู้อื่นได้

หากพบว่ามีการติดเชื้อ แพทย์จะตรวจร่างกาย วินิจฉัยโรค และให้การรักษา ซึ่งรูปแบบของการรักษานั้นแตกต่างกันในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับบริเวณที่หูดปรากฏ ขนาดของหูด และหูดเกิดขึ้นในบริเวณกว้างแค่ไหน โดยแพทย์จะมีการใช้ยากับผิวบริเวณที่เป็นหูด ใช้เลเซอร์เพื่อกำจัดหูด หรือการควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสด้วยสารแช่แข็ง เป็นต้น

หากเคยเป็นแล้วหูดสามารถเกิดขึ้นได้อีก ซึ่งคุณต้องพบแพทย์ และคู่นอนของคุณจำเป็นต้องได้รับการตรวจรักษาโรคด้วยเช่นกัน


1 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป