หูดที่อวัยวะเพศนั้นเป็นภาวะที่พบได้บ่อยและมีหลายคนที่อาจจะไม่ได้รับการวินิจฉัย
ส่วนมากนั้นเกิดจากเชื้อ human papillomavirus (HPV) ซึ่งมีมากกว่า 120 สายพันธุ์ แต่ชนิดที่ 6 และ 11 นั้นเป็นสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดหูด สายพันธุ์เหล่านี้มักไม่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกแต่จะทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ
เวลาที่เป็นหูดอาจจะต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ แต่วิธีต่อไปนี้อาจจะช่วยรักษาได้เองที่บ้าน
น้ำมันจากต้นชา
นอกเหนือจากประโยชน์อื่นๆ แล้ว น้ำมันหอมระเหยนั้นยังมีการศึกษาเพื่อนำมาใช้ฆ่าเชื้อราอีกด้วย น้ำมันจากต้นชานั้นเป็นน้ำมันหอมระเหยที่พบว่ามีประโยชน์ในการต่อสู้กับเชื้อราและเชื้อโรคอื่นๆ เช่นเหา และอาจจะสามารถช่วยรักษาหูดที่อวัยวะเพศได้ คุณสามารถหยดน้ำมันจากต้นชาเจือจาง (ผสมน้ำมัน 1 หยดในน้ำมันมะพร้าว 2 หยด) แล้วนำมาทาที่หูดโดยตรง
บางคนอาจจะมีอาการแพ้น้ำมันจากต้นชาได้ ดังนั้นควรทดสอบใช้ปริมาณเล็กน้อยและเจือจางที่แขนก่อน หากไม่มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงแสดงว่าน่าจะสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย
น้ำมันจากต้นชานั้นสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองและทำให้เกิดอาการแสบหรืออักเสบได้ซึ่งน่าจะเป็นกลไกที่ช่วยทำให้หูดนั้นมีขนาดเล็กลง อย่ารับประทานน้ำมันจากต้นชาเข้าทางปากหรือใช้ทางช่องคลอดเด็ดขาด คุณจะต้องทาน้ำมันนี้ซ้ำๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ แต่ควรหยุดใช้หากเกิดการระคายเคืองมากเกินไป
ชาเขียว
พบว่าชาเขียวนั้นมีประสิทธิภาพในการรักษาหูดที่อวัยวะเพศ คุณสามารถนำสารสกัดจากชาเขียวก่อนเติมด้วยน้ำมันมะพร้าว 1-2 หยดก่อนทาที่หูด
กระเทียม
มีหลักฐานบางชิ้นที่พบว่าการใช้สารสกัดจากกระเทียมที่หูดนั้นสามารถรักษาหูดได้ คุณสามารถซื้อสารสกัดจากกระเทียมและนำมาทาที่หูดได้โดยตรง หรืออาจจะใช้ผ้าก๊อซนั้นจุ่มลงในสารละลายที่ผสมระหว่างกระเทียมและน้ำมันก่อนนำมาทาและแปะค้างไว้ที่หูด
น้ำส้มสายชูจาก apple cider
น้ำส้มสายชูจาก apple cider นั้นอาจจะช่วยรักษาหูดที่อวัยวะเพศได้โดยการใช้สารที่เป็นกรดในการกำจัดเชื้อไวรัส
คุณสามารถใช้สำลีหรือผ้าก๊อซชุบน้ำส้มสายชูจาก apple cider ก่อนนำมาทาที่หูด
ผัก
ผักนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ให้ลองกินผักที่เคี้ยวสนุกเช่น
- ผักกาด
- บรอคโคลี่
- Brussel sprouts
- ดอกกะหล่ำ
- Kale
ผักเหล่านี้มีสาร indole-3-carbinol ซึ่งสามารถช่วยกำจัดหูดที่อวัยวะเพศได้ คุณควรรับประทานผักวันละ 4-5 ที่
โฟเลทและวิตามินบี 12
พบว่ามีความเกี่ยวข้องระหว่างการขาดโฟเลทและวิตามินบี 12 กับความเสี่ยงของการติดเชื้อ HPV ที่เพิ่มขึ้น การรับประทานวิตามินรวมหรือโฟเลทและบี 12 นั้นอาจจะช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อ HPV และรักษาหูดได้
วิธีการใช้ชีวิต
การมีหูดที่อวัยวะเพศนั้นเป็นการเพิ่มความเครียดให้กับร่างกาย และอาจทำให้ร่างกายสามารถจัดการกับปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ยาก คุณควรตัดสิ่งที่จะเพิ่มความเครียดให้กับระบบภูมิคุ้มกันอื่นๆ เช่นการสูบบุหรี่หรืออาหารที่ผ่านการแปรรูปสูงหรือไม่ดีต่อสุขภาพออกเพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
อาหารที่ควรรับประทานเพิ่มประกอบด้วย
- อาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (บลูเบอร์รี่ เชอร์รี่ มะเขือเทศ พริกหยวก)
- ผักใบเขียวเช่นผักโขมและ kale
- ธัญพืช
- แอลมอนด์
- ถั่ว
- เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
อาหารเหล่านี้สามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้และช่วยลดการติดเชื้อ HPV ซ้ำ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงประกอบด้วย
- อาหารที่อาจทำให้แพ้ (ผลิตภัณฑ์จากนม ถั่วเหลือง ข้าวโพดและสารปรุงแต่งอาหาร)
- อาหารที่ผ่านการแปรรูปเช่นขนมปังขาวและพาสต้า
- เนื้อแดง
- อาหารแปรรูปที่มีไขมันทรานส์
- คาเฟอีนและสารกระตุ้นตัวอื่น
ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
การรักษาหูดที่อวัยวะเพศให้หายนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีการติดเชื้ออีกต่อไป เพราะเชื้อ HPV นั้นสามารถทำให้เกิดได้ทั้งหูดและมะเร็งปากมดลูกแม้ว่าจะพบได้น้อย คุณอาจจะติดเชื้อ HPV หลายชนิดพร้อมกันก็ได้ ดังนั้นหากมีหูดเกิดขึ้นควรไปพบแพทย์แม้ว่าคุณจะอยากลองใช้วิธีการรักษาที่บ้านก็ตาม
เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดหูดนั้นสามารถอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลานาน ดังนั้นแม้ว่าคุณจะรักษาหูดหายแล้วมันก็อาจจะกลับเป็นซ้ำได้
วิธีการรักษาโดยทั่วไป
ไม่ได้มีวิธีใดที่แพทย์ใช้เป็นวิธีมาตรฐานในการรักษาหูดที่อวัยวะเพศ แพทย์แต่ละคนอาจจะใช้วิธีที่แตกต่างกันขึ้นกับชนิดของหูดหรือระยะเวลาที่เป็น การรักษานั้นมีได้ตั้งแต่การใช้ยาไปจนถึงการใช้ความเย็นตัดหูดออกหรือใช้เลเซอร์
สรุป
คุณสามารถลองรักษาหูดที่อวัยวะเพศที่บ้านได้ แต่ก็ควรไปพบแพทย์อยู่ดีเพื่อทำการตรวจและรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหูด หากเกิดจากสาเหตุดังกล่าว คุณอาจจะต้องรับประทานยาเพิ่มเติมเพื่อรักษาโรคนั้นและป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คู่นอนคนอื่น