สาวๆ ที่ฝันอยากจะเป็นคุณแม่ทุกคนทราบกันหรือไม่ว่า นอกจากอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์แล้ว ยังมีอาการทางร่างกายที่สามารถบอกถึงสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งผู้หญิงแต่ละคนก็จะมีอาการที่แตกต่างกันไป
คุณสามารถสังเกต 10 อาการที่อาจบอกว่า คุณกำลังจะได้เป็นคุณแม่มือใหม่ได้ ดังต่อไปนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. ปัสสาวะบ่อย
อาการปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติอาจเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ไตในร่างกายจะต้องทำงานหนักมากขึ้น ประกอบกับมดลูกขยายตัวจนไปเบียดกับกระเพาะปัสสาวะ เป็นผลให้เกิดอาการปัสสาวะบ่อยๆ นั่นเอง
อาการนี้จะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์และจึงจะกลับสู่ภาวะปกติ จากนั้น คุณแม่ก็จะมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยอีกครั้ง ในช่วงใกล้คลอด
เนื่องจากทารกที่โตแล้วในครรภ์จะมีน้ำหนักมากทำให้กดกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้คุณแม่มีอาการปวดปัสสาวะบ่อย
2. เจ็บเต้านม หรือเต้านมคัด
อาการนี้มักจะพบได้บ่อยอยู่แล้วในช่วงก่อนมีประจำเดือน แต่ในขณะเดียวกัน อาการเจ็บเต้านมก็สามารถเกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์ในระยะแรกได้เช่นกัน โดยมักจะมีอาการเจ็บอย่างเด่นชัดในช่วง 5-6 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์
มีสาเหตุมาจากร่างกายเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับสร้างน้ำนมให้กับลูกน้อย ทำให้คุณแม่อาจมีอาการเจ็บ หรือคัดตึงเต้านมขึ้นมาได้ พร้อมกับหัวนมที่มีสีคล้ำและขยายใหญ่ขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจาก 3 เดือนผ่านไปแล้ว อาการเจ็บเต้านมก็จะค่อยๆ หายไปเอง
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
3. เป็นสิว
ใครจะรู้ว่า สิวก็เป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้ นั่นก็เพราะสิวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายเป็นหลัก
ดังนั้นในช่วงตั้งครรภ์อ่อนๆ คุณแม่จะมีระดับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้มีสิวขึ้นได้มากกว่าปกติ
หากคุณพบว่า ตนเองมีสิวขึ้นเยอะกว่าเดิม ประกอบกับมีอาการอื่นๆ ที่เป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ร่วมด้วย ก็สงสัยได้เลยว่า คุณอาจกำลังจะมีเจ้าตัวน้อยนั่นเอง
4. อยากรับประทานอาหารแปลกๆ
หญิงตั้งครรภ์บางรายอาจมีพฤติกรรมอยากรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป ซึ่งหากไม่ได้รับประทานดั่งใจ คุณแม่หลายรายก็มักจะเกิดอารมณ์หงุดหงิด และอารมณ์เสียได้ง่ายขึ้นด้วย เช่น
- อยากรับประทานอาหารแปลกๆ
- อยากรับประทานอาหารที่ไม่เคยรับประทานมาก่อน
- อยากรับประทานอาหารบางชนิดมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยว
5. คลื่นไส้ อาเจียน
อาการนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนการตั้งครรภ์ที่เด่นชัดและเป็นที่รู้จักมากที่สุด ซึ่งอาการนี้มักจะมาพร้อมกับอาการวิงเวียนศีรษะ และหน้ามืดเสมอ
มักจะพบได้ในช่วง 6-12 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์และจะค่อยๆ หายไปเองเมื่อพ้นเดือนที่ 3 ไปแล้ว
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
นอกจากนี้อาการคลื่นไส้ อาเจียนในหญิงตั้งครรภ์บางราย อาจเป็นหนักจนต้องให้น้ำเกลือเสริมได้
ดังนั้นเมื่อคุณมีอาการคลื่นไส้อาเจียนบ่อยๆ จนเริ่มอ่อนเพลีย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจครรภ์และฝากครรภ์ไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการมีเจ้าตัวน้อย
6. ท้องอืด หรือท้องขึ้น
การตั้งครรภ์จะทำให้มดลูกเริ่มขยายตัวขึ้น ซึ่งอาจทำให้คุณแม่มีอาการท้องอืดและท้องขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหารรสจัด เพราะมดลูกจะไปเบียดกับกระเพาะอาหารจนทำให้กระเพาะอาหารย่อยได้ไม่เต็มที่นั่นเอง
ดังนั้นในช่วงนี้ แพทย์จึงมักจะแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์รับประทานอาหารที่มีรสชาติอ่อนๆ และเป็นอาหารเบาๆ โดยอาจแบ่งเป็นวันละหลายๆ มื้อ เพื่อให้กระเพาะอาหารไม่ทำงานหนักจนเกินไป
7. ประจำเดือนขาด
เป็นอีกสัญญาณของการตั้งครรภ์ที่แสดงได้อย่างชัดเจนว่า คุณกำลังจะมีเจ้าตัวน้อย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่ประจำเดือนมาปกติไม่เคยขาด ะฉะนั้นหากคุณรู้สึกว่า ประจำเดือนขาดไปอย่างผิดปกติ ให้ลองไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจดูเพื่อความมั่นใจ
8. ปวดท้อง
ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ คุณอาจมีอาการปวดเกร็งในช่องท้องน้อย ซึ่งจะมีลักษณะการปวดแบบหน่วงๆ เนื่องจากมดลูกกำลังยืดขยายตัวเพื่อรองรับการมีทารกน้อยในครรภ์
ดังนั้น หากคุณรู้สึกปวดท้องแบบแปลกๆ หรือปวดหน่วงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจเสียก่อน และอย่าเพิ่งซื้อยามารับประทานเอง เพื่อความปลอดภัยของเด็กในครรภ์
9. อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าง่าย
อาการนี้เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงในช่วงเริ่มแรกของการตั้งครรภ์ จึงอาจทำให้คุณแม่เกิดอาการอ่อนเพลีย และอยากนอนหลับอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ สาเหตุที่ทำให้หญิงตั้งครรภ์เกิดอาการอ่อนเพลียนั้น มาจากร่างกายได้มีการดึงเอาพลังงานไปใช้ในการพัฒนาการเติบโตของทารกน้อยเป็นหลัก จึงทำให้คุณแม่มีอาการเหนื่อยล้าง่ายกว่าปกติด้วยนั่นเอง
10. อารมณ์แปรปรวน
อารมณ์ที่แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ขี้น้อยใจ เป็นอีกสัญญาณที่อาจบอกได้ว่า คุณกำลังตั้งครรภ์ นั่นก็เพราะฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลกระทบต่อสภาวะอารมณ์ของคุณแม่โดยตรง
ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หงุดหงิด เสียใจ น้อยใจ หรือร้องไห้ได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้ในช่วงนี้ ว่าที่คุณพ่อมือใหม่อาจจะต้องวางแผนรับมืออารมณ์ที่แปรปรวนง่ายของคุณแม่กันสักหน่อย
หากคุณสงสัยว่า กำลังตั้งครรภ์ ลองสังเกตจาก 10 สัญญาณเตือนเหล่านี้ดู และเพื่อความมั่นใจมากขึ้น การไปตรวจครรภ์กับแพทย์โดยตรงจะช่วยยืนยันได้ว่า คุณกำลังจะมีเจ้าตัวน้อยจริงหรือไม่
หากคุณพบว่า ตนเองกำลังตั้งครรภ์อยู่จริงๆ ก็จะได้ฝากครรภ์กับแพทย์ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยที่กำลังจะเกิดมาด้วย
ทั้งนี้อาการดังกล่าวอาจไม่ได้เกิดขึ้นทั้งหมด และอาจมีอาการอื่นแตกต่างกันไปในคุณแม่ที่มีโรคประจำตัว หรือมีการติดเชื้อเกิดขึ้น หรืออาจเป็นโรคอื่นทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
ทั้งนี้ควรสังเกตอาการประจำเดือนขาดเป็นหลัก และตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ และอัลตราซาวน์เพิ่มเติมได้
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฝากครรภ์และคลอดบุตร จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android