การบวมส่วนปลาย (Peripheral edema) คือการบวมที่เกิดจากการสะสมสารน้ำในเท้า ข้อเท้าหรือขา โดยอาจเกิดเพียงข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ และหากคุณเป็นโรคเบาหวาน ควรต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเกิดการบวม
เนื่องจากการบวมเป็นผลจากการทำลายเส้นเลือดฝอย หรือการมีความดันเพิ่มขึ้นจนทำให้มีสารน้ำรั่วจากเส้นเลือดออกมาสู่เนื้อเยื่อโดยรอบ ทำให้เกิดการบวม ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักมีปัญหาเรื่องการไหลเวียนเลือดซึ่งอาจทำให้แผลที่เกิดขึ้นหายช้าลงหรือไม่หายเลย ดังนั้น การควบคุมการบวมจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น
ตรวจเบาหวานวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 83%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สาเหตุของการบวมส่วนปลาย
สาเหตุของการบวมส่วนปลายที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน
- การไม่ได้ขยับร่างกาย
- การยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน
- การผ่าตัด
- การถูกไฟไหม้
- อากาศร้อน
- การตั้งครรภ์
- การมีประจำเดือน
- การหมดประจำเดือน
- การรับประทานยาคุมกำเนิด
- การรับประทานยาบางชนิด
- การรับประทานเกลือมากเกินไป
- ภาวะทุพโภชนาการ หมายถึงโภชนาการไม่ดี เป็นได้ทั้งได้รับสารอาหารน้อย หรือมากเกินไป
สาเหตุการบวมส่วนปลายเพียงข้างเดียว
- เกิดจากลิ่มเลือดอุดตันของเส้นเลือดดำ (Deep venous thrombosis: DVT)
- การอักเสบของเนื้อเยื่อ (Cellulitis)
- การอักเสบของกระดูกและกล้ามเนื้อ (Osteomyelitis)
- อุบัติเหตุ
- ถุงน้ำ Baker (ถุงน้ำบริเวณใต้ข้อพับเข่า) แตก
- การอุดตันระบบหมุนเวียนน้ำเหลือง
สาเหตุการบวมส่วนปลายจากภาวะอันตรายอื่นๆ
- โรคหัวใจ
- ปัญหาของการไหลเวียนเส้นเลือดดำ
- โรคตับและโรคไต
- ยาลดความดับโลหิตบางชนิด เช่น ยากลุ่ม Calcium channel blocker
- ยาที่ใช้รักษาโรคเบาหวานบางตัวทำให้เกิดอาการบวมได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม Thiazolidinedione
ในปี 2007 องค์การอาหารและยา ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการใช้ยา Avandia ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือโรคหัวใจอื่นๆ ได้มากขึ้น และแนะนำให้แพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยซึ่งรับประทานยานี้ติดตามอาการแสดงของโรคหัวใจวาย เช่น การบวมส่วนปลาย
ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจ หรือหัวใจวายมากกว่าปกติถึง 2 เท่า หากผู้ป่วยมีอาการชา อาจไม่มีอาการแสดงของโรคหัวใจหรือหัวใจวายได้ ดังนั้น เมื่อผู้ป่วยโรคเบาหวานเกิดอาการบวม ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
ลักษณะอาการของการบวมส่วนปลาย
- ผิวหนังตึงหรือเป็นมันวาว
- ข้อเท้า เท้า ข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง บวมขึ้น และนิ่ม
การบวมที่กดบุ๋ม หรือไม่บุ๋ม จะบอกสาเหตุของการเกิดอาการนี้แตกต่างกัน - ความรุนแรงของอาการ ขึ้นอยู่กับสาเหตุของการบวม
ผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องทำอย่างไร เมื่อมีอาการบวมส่วนปลาย
- ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบทันที เพื่อหาสาเหตุของการบวมที่เป็นอันตรายรุนแรง
- วิธีลดอาการบวมเบื้องต้นด้วยตนเอง
- ยกขาที่บวมสูงตลอดวัน
- ใส่ถุงน่องแบบกระชับ (ควรตรวจสอบกับแพทย์ก่อนว่าคุณไม่มีโรคของหลอดเลือดดงส่วนปลาย)
- ออกกำลังกาย
- รับประทานอาหารที่มีเกลือน้อย
- หากมีแผล มีการติดเชื้อของเนื้อเยื่อที่ผิวหนัง ผิวหนังแตกหรือคัน ควรแจ้งแพทย์ทันที
- โทรหาแพทย์อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- หากอาการบวมไม่ดีขึ้น หรือแย่ลง
- หากคุณเป็นโรคตับ และมีอาการบวมที่ขา ท้อง
- หากขาที่บวมมีสีแดงและอุ่น
- มีไข้
- ปัสสาวะลดลง
- ตั้งครรภ์
- มีอาการบวมระดับปานกลางถึงรุนแรงอย่างฉับพลัน
หมายเหตุ ไม่ว่าคุณจะป่วยเป็นโรคเบาหวาน หรือไม่ได้เป็น หากมีอาการบวมเกิดขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นข้างเดียว หรือสองข้าง จะต้องได้รับการตรวจทันที
การมีอาการบวมข้างเดียวอาจแสดงว่า ต้องตรวจหาภาวะลิ่มเลือดอุดตันของเส้นเลือดดำ (DVT) อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีประวัติเดินทางนานกว่า 3 ชั่วโมงโดยเครื่องบินหรือรถโดยสารโดยที่ไม่ได้ขยับขา มีประวัติสูบบุหรี่ หรือมีประวัติใช้ยาคุมกำเนิด