ใครที่มีอาการปวดข้อปวดเข่า โดยเฉพาะเวลา เดิน วิ่ง ขยับร่างกาย และบางครั้งก็มีเสียงลั่นออกมาเวลาเหยียดงอเข่าด้วย รู้หรือไม่ว่าอาการที่ว่าอาจเป็นสัญญาณของ โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Ostoearthritis) ก็ได้ แม้โรคข้อเข่าเสื่อมจะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโรคคนแก่ แต่ความจริงแล้วโรคนี้เกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย และยังสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมากด้วย
อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม
อาการของโรคข้อเข่าเสื่อม ได้แก่
ตรวจ รักษา และผ่าเข่า วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,542 ลดสูงสุด 77%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- รู้สึกเจ็บและฝืดที่ข้อเข่า โดยเฉพาะเวลาเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น วิ่ง เดิน
- มีเสียงลั่นในข้อเวลาเคลื่อนไหว
- เมื่อกดที่เข่าจะรู้สึกเจ็บ และมีอาการเข่าอ่อนแรง
- ข้อเข่าขาดความยืดหยุ่น ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ หากไม่ได้ขยับนานๆ ก็อาจเกิดอาการเข่ายึด เช่น เวลายืนค้างนานๆ จะขยับขาเดินลำบาก
ซึ่งอาการเหล่านี้ มักเกิดขึ้นเรื้อรังและมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่รีบทำการรักษา
สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม
ข้อเข่าเสื่อม เกิดจากกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อเกิดการสึกกร่อนและเสื่อมสภาพเนื่องจากการใช้งานหนัก เมื่อมีการเคลื่อนไหวข้อเข่าอย่างต่อเนื่อง กระดูกก็จะเสียดสีกันจนรู้สึกขัดและเจ็บปวดที่ข้อเข่าได้ ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อม ได้แก่
- อายุที่เพิ่มขึ้น ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง คือคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อจะเสื่อมสภาพลงได้ตามวัย แต่นั่นก็ใช่ว่าคนอายุน้อยจะไม่มีโอกาสเกิดข้อเข่าเสื่อมเลย
- เป็นผลจากโรคข้ออักเสบ คนที่ป่วยเป็นโรคเกาท์ หรือรูมาตอยด์ ซึ่งทำให้มีอาการข้ออักเสบ ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อเข่าอักเสบได้สูงเช่นกัน
- เกิดการบาดเจ็บ เช่น ผู้ที่เล่นกีฬา หรือเกิดอุบัติเหตุจนได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเข่า เมื่อรักษาหายแล้วก็มีโอกาสจะเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมในอนาคตได้
- มีน้ำหนักเกิน คนที่เป็นโรคอ้วน มีน้ำหนักมากเกินไป อาจทำให้ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติจนเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมตั้งแต่อายุยังน้อยได้
- เป็นพันธุกรรม ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้สูงเช่นกัน
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
โรคข้อเข่าเสื่อม สามารถรักษาได้โดยการบรรเทาอาการ ร่วมกับการลดปัจจัยเสี่ยงซึ่งเป็นสาเหตุของโรค ดังนี้
- การใช้ยารักษา ยาที่ใช้ ได้แก่
- ยาแก้ปวดและบรรเทาการอักเสบ เช่น ยา Ibuprofen ซึ่งช่วยระงับอาการได้ชั่วคราว แต่ไม่ได้ทำให้ภาวะข้อเข่าเสื่อมดีขึ้น
- ยาคอร์ติโซน เป็นยาสเตียรอยด์ใช้ฉีดเพื่อยับยั้งการอักเสบ โดยจะฉีดเข้าไปที่ข้อเข่าโดยตรงปีละ 3-4 ครั้ง เพื่อไม่ให้อาการรบกวนการใช้ชีวิตมากนัก
- กรดไฮยาลูโรนิก เป็นส่วนประกอบสำคัญของข้อต่อและกระดูกอ่อน จึงใช้ฉีดเพื่อเพิ่มความหล่อลื่นและยืดหยุ่นให้แก่ข้อเข่า
- ยาทาเฉพาะที่ เช่น ยา Capsaicin ใช้ทาที่ข้อเข่าเพื่อบรรเทาอาการปวด
- ผลิตภัณฑ์จาก Chondroitin ใช้เป็นอาหารเสริมซึ่งเชื่อว่าช่วยบำรุงกระดูกอ่อน และลดการเสียดสีของกระดูกบริเวณข้อต่อได้
- การทำกายภาพบำบัด จะเน้นการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อบริหารข้อเข่าอย่างเหมาะสม เช่น การออกกำลังกายภายใต้คำแนะนำของนักกายภาพบำบัด วิธีนี้จะช่วยให้ข้อเข่ามีความแข็งแรง ยืดหยุ่น ช่วยลดอาการปวดและช่วยให้การเคลื่อนไหวร่างกายดีขึ้น
- การรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือก วิธีที่นิยมคือการฝังเข็ม ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลให้มวลกระดูก กระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงไขข้อ และทำให้ข้อต่อกลับมายืดหยุ่น การฝังเข็มอาจได้ผลดีในผู้ป่วยบางราย
- การผ่าตัด เป็นวิธีรักษาสำหรับผู้ที่ใช้วิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล โดยอาจทำการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนข้อเข่าที่เสื่อม ตัดเปลี่ยนแนวกระดูก หรือศัลยกรรมในรูปแบบอื่นๆ ตามความเหมาะสม
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม นอกเหนือจากการรักษาที่ว่ามาแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นก็มีความสำคัญเช่นกัน เช่น การลดน้ำหนัก ออกกำลังกายเพื่อบริหารกล้ามเนื้อและข้อต่อ และหลีกเลี่ยงการยกของหนักที่อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมลงกว่าเดิม
อาหารการกินกับโรคข้อเข่าเสื่อม
อาหารการกินเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอาการข้อเข่าเสื่อม โดยอาการที่ควรรับประทานและควรเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมมีดังนี้
- อาหารที่มีวิตามิน ซี สูง เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รวมถึงวิตามิน ซี เสริมในรูปแบบต่างๆ เนื่องจากวิตามิน ซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยลดการอักเสบของข้อเข่าได้
- อาหารที่มีฟลาโวนอยด์สูง เช่น ชาเขียว มะเขือเทศ หัวหอม เพราะฟลาโวนอยด์มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดอาการบาดเจ็บของข้อเข่าได้ดีเช่นเดียวกัน
- อาหารที่มีวิตามิน ดี สูง เช่น อาหารทะเล นม และไข่ รวมถึงการรับแสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้า เนื่องจากวิตามิน ดี จะช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
- อาหารที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งได้แก่ ปลาทะเล แซลมอน ทูน่า โอเมก้า 3 จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ลดอาการปวดข้อและกระดูก
- สมุนไพรต้านการอักเสบ เช่น ขิง ขมิ้น ซึ่งมีส่วนช่วยลดการบาดเจ็บและอาการปวดข้อเข่าได้ดี แต่การรับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้ปวดแสบท้องได้
อาหารที่ควรเลี่ยง
- อาหารที่มีเกลือสูง เช่น อาหารหมักดอง ขนมขบเคี้ยว เพราะการรับประทานเกลือมากจะทำน้ำถูกดึงเข้าสู่เซลล์ ทำให้ข้อต่อขาดน้ำหล่อเลี้ยงและเสียความยืดหยุ่นได้
- อาหารที่มีน้ำตาลสูง เนื่องจากการมีน้ำตาลในเลือดสูง จะกระตุ้นการอักเสบในร่างกายให้รุนแรงขึ้นได้ จึงควรลดการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มรสหวานลง
- อาหารไขมันสูง เช่น อาหารทอด ฟาสต์ฟู้ด เพราะไขมันจะทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้เช่นเดียวกัน
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มเหล้าเบียร์มากเกินไปล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพ แถมยังกระตุ้นให้การอักเสบและอาการปวดข้อรุนแรงขึ้นด้วย
การป้องกันโรคข้อเข่าอักเสบ
วิธีป้องกันโรคข้อเข่าอักเสบที่ได้ผล คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการเกิดโรค เช่น หลีกเลี่ยงการใช้งานข้อเข่าอย่างหนัก หรือการออกกำลังกายอย่างหักโหม ควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และหลีกเลี่ยงการยกของหนัก เพื่อไม่ให้ข้อเข่ารับน้ำหนักมาก ลดอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นอาการข้อเข่าอักเสบ รวมถึงออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อที่แข็งแรงด้วย