ปัญหาที่ทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือโรคปวดฟัน แม้จะเป็นตัวหมอฟันเอง สาเหตุของการเกิดโรคปวดฟัน หรือปวดประสาทฟันนั้น เกิดจากโรคของช่องปาก ช่องปากของคนเป็นอวัยวะส่วนเล็ก ๆ อันหนึ่งของร่างกาย แต่เป็นส่วนสำคัญมากที่ทำงานหลายอย่าง เช่น ให้อาหารและน้ำผ่านคือ การรับประทาน ยังใช้พูด (บางคนใช้มาก ใช้แสดงสีหน้า บ้างใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว) ช่องปากเป็นที่ผ่านของอาหารเข้าสู่กระเพาะอาหาร ขณะนั้นก็จะมีเศษอาหารติดตามซอกฟันเกิดการบูดเน่าสกปรกขึ้น ปัญหาตามมาก็คือ การเกิดโรคในช่องปาก โรคที่พบบ่อย ๆ ก็ได้แก่ โรคฟันผุ โรคเหงือก หรือโรคปริทนต์ (รำมานาด) มีลักษณะฟันเป็นรู ปวดฟัน เหงือกบวม หรือมีหนองเกิดขึ้นที่เหงือกตรงรากของฟัน อาการเริ่มแรกจะเป็นทีละน้อย เป็นการเตือน หากไม่ได้รับการปรับปรุงดูแลจะเกิดอักเสบปวดมากขึ้น ที่สุดก็จะต้องถอนทิ้งแล้วใส่ใหม่ จะเป็นเจ็บหลายครั้ง และสิ้นเปลืองเงินมากขึ้น การเป็นเริ่มแรกจะเป็นเล็ก ๆ น้อย ยังไม่มีอาการจากนั้นจะมากขึ้น เมื่อมีอาการปวดมากจึงรู้ว่าฟันผุเป็นรู และเหงือกอักเสบมากเกินไปที่จะป้องกันได้ ดังนั้นการป้องกันโดยการแปรงฟันที่ถูกวิธี และตรวจเช็คทุกปีจะเป็นการป้องกันที่ดี
การป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุ
- การแปรงฟัน ทำให้ฟันสะอาด เลือกแปรงฟันที่เหมาะกับปาก และแปรงให้ถูกวิธี บางคนแปรงทุกวัน หลังตื่นนอนเช้า และหลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน บางคนเพิ่มแปรงฟันหลังอาหารทั้ง 3 มื้อก็ยังมีฟันผุ และกลิ่นปากอยู่บ้าง อาจจะแปรงฟันจากมีฟันผุอยู่แล้วหรือแปรงไม่ถูกวิธีจึงไม่สะอาดมีเศษอาหารติดตามซอกฟัน
- ตรวจดูฟันของตนเองบ่อย ๆ หากพบลักษณะผิดปกติที่ฟัน และยังไม่มีอาการก็ควรไปปรึกษาหมอฟันให้ทำการตรวจ
- อาหารมีสัดส่วน กินตามเวลา ควรมีอาหาร ผลไม้ และผักสด ก็ช่วยให้มีการชำระล้างฟันเวลาเคี้ยว
- อาหารบางอย่างที่เป็นสาเหตุร่วมทำให้ฟันผุควรจะลดลงเช่น อาหารหวานและอาหารเหนียว จะเป็นตัวที่ทำให้เชื้อโรคชอบอาศัยตามซอกฟัน
การรักษาฟันผุ
ระยะที่ 1 : เฉพาะที่เคลือบฟัน ทันตแพทย์จะกรอให้สะอาดแล้วอุด
ระยะที่ 2 : ผุไปจนถึงเนื้อฟัน ก็อุดเช่นเดียวกับระยะที่ 1
ระยะที่ 3 : รักษายาก อุดยาก ต้องถอนทิ้ง แล้วใส่ฟันปลอมแทนที่
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคปริทนต์
เป็นโรคของเหงือกและเนื้อเยื่อรอบ ๆ รากฟัน เป็นเรื้อรัง ทำให้เหงือกอักเสบฟันก็จะเสื่อมโทรงไปด้วย
ระยะที่ 1 : เป็นการอักเสบของเหงือก เหงือกจะบวม แดง มีอาการเจ็บปวดเวลาเคี้ยวอาหารแข็ง หรือแปรงฟันจะมีเลือดออก
ระยะที่ 2 : โรคเยื่อหุ้มรากฟันอักเสบ การอักเสบจะมีลักษณะเป็นโพรง อาการจะมากกว่าระยะที่ 1 บางทีเรียกโรคนี้เป็นโรครำมะนาด หากไม่รักษาจะเกิดเป็นถุงหนองรอบรากฟัน เหงือกจะแยกออกจากซี่ฟัน เยื่อหุ้มรากฟัน และกระดูกหุ้มรากฟันจะถูกทำลาย ฟันจะโยกคลอน และหลุดได้ง่าย
สาเหตุ
- หินปูนเกาะเป็นแผ่นคราบฟัน และพิษของเชื้อจุลินทรีย์ทำให้เหงือกอักเสบ
- การใส่ฟันปลอมไม่กระชับ จะทิ่มแทงเหงือกเกิดอักเสบได้
- การใช้ไม้จิ้มฟันไม่สะอาด หรือเวลาจิ้มฟันถูกเหงือกเป็นแผลได้
- มีโรคประจำตัวบางอย่างทำให้ความต้านทานต่อเชื้อโรคลดน้อยลง ทำให้เหลือกไม่แข็งแรง เช่น โรคของเลือด และโรคเบาหวาน
- อาหารที่กินขาดวิตามินซี ทำให้เหงือกไม่แข็งแรงได้ด้วย
ในช่องปากยังมีส่วนอื่นที่เกิดมีการอักเสบ และสาเหตุพบบ่อย เช่น
- ลิ้น จากถูกฟันกระทบ หรือกัด ทำให้เกิดแผลหรือกินอาหาร ดื่มน้ำนม หรือเครื่องดื่มที่ร้อนจัด
- กระพุ้งแก้ม เกิดอักเสบจากฟันกราบบดกัด หรือใช้แปรงสีฟันแข็ง แปรงแรงไปกระทบกับกระพุ้งแก้มเป็นแผลได้
- ต่อมทอนซิน เป็นต่อมทำหน้าที่เป็นด่านกั้นเชื้อโรคได้บ้างบางส่นของเชื้อโรคที่ปนอาหาร
การป้องกันและรักษา
การรักษาด้วยตนเองของชุมชนในชนบทที่ไม่มีทันตแพทย์มีวิธี ดังนี้
- แปรงฟันถูกวิธี และให้สะอาด นวดเหงือกด้วยนิ้วมือบ่อยทุกวัน
- บ้วนปาก กลั้วคอด้วยน้ำเกลือบ่อย ๆ อย่างน้อยควรทำหลังอาหารตอนเช้าและก่อนนอน
- ขบเคี้ยวอาหารที่หยุ่นแน่น เป็นการออกกำลังเหงือกเข้มแข็งขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายพอเพียง อาหารหวานจัดทำให้เกิดเหงือกอักเสบ และฟันผุได้ง่าย
- หากมีปัญหาควรไปปรึกษาทันตแพทย์ จะได้รับบริการอย่างถูกต้องในเขตเมืองที่มีทันตแพทย์ หรือผู้ช่วยทันตแพทย์ก่อน