พฤติกรรมการกินของปัจจุบันมักเน้นไปที่หน้าตาและความอร่อย ซึ่งเป็นการกินที่ไม่ถูกวิธีนัก เพราะร่างกายของคนเราไม่ได้ต้องการอาหารอร่อย อาหารหน้าตาดี แต่ต้องการเพียงอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วนในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น ซึ่งหากยังกินแบบไม่เลือก ตามใจปาก อีกหน่อยอาจเป็นโรคเรื้อรังต่าง ๆ ตามมาได้ แต่หากห้ามไม่ทันเป็นโรคแล้ว ก็ยังมีวิธีการกินแบบ "วิธีโภชนบำบัด" (diet therapy) ที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย เพื่อให้การรักษาได้ผลเต็มที่ ร่วมไปกับการรักษาทางการแพทย์ ดังนี้
วิธีโภชนบำบัด
โรคเบาหวาน - ควบคุมน้ำตาล
โรคเบาหวานคือภาวะร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้ลดลง จึงเกิดเกิดความผิดปกติในการเผาผลาญสารอาหาร สำหรับการรับประทานอาหาร ควรงดเว้นอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลทุกชนิด จำกัดปริมาณของผลไม้ รวมทั้งข้าว เพราะจะมีผลถึงระดับน้ำตาลในเลือด และควรรับประทานผักใบที่มีกากใยสูงให้มากขึ้น เช่น ผักบุ้ง ผักกาดขาว สำหรับอาหารโปรตีนยังสามารถกินได้ปกติ และที่สำคัญควรระวังเรื่องน้ำหนักตัวด้วย เพราะจะส่งผลกับอาการของเบาหวาน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคหลอดเลือดแข็งตัว - คุมไขมันอิ่มตัว
ไขมันในเลือดสูงจะมีผลให้ไขมันเกาะตามผนังหลอดเลือดจนขาดความยืดหยุ่นและอาจอุดตันได้ โดยเฉพาะเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ หากเกิดอุดตันจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย และจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว สำหรับไขมันที่พบว่ามีการสะสม ก็คือ คอเลสเตอรอล จึงควรควบคุมปริมาณในเลือดให้ต่ำกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเลือด 100 มิลลิลิตร
สำหรับอาหาร ควรลดการกินไขมันอิ่มตัว เช่น ไข่แดง นม ไขมันจากสัตว์ น้ำมันพืชบางชนิด แล้ว เพิ่มปริมาณอาหารที่มีใยอาหารให้มากขึ้น ได้แก่ ผัก ผลไม้ ธัญพืช เพราะใยอาหารจะจับคอเลสเตอรอลในลำไส้เล็กทำให้ดูดซึมได้น้อย และขับออกมาทางอุจจาระ สำหรับไขมันที่ควรได้รับควรมาจากไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด อย่างน้อย 10-12% ของพลังงานทั้งหมด
โรคอ้วน - ควบคุมอาหาร
โรคอ้วนเกิดจากร่างกายได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็น จึงเกิดการสะสมในรูปไขมัน จนทำให้การทำงานของร่างกายผิดปกติ เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา เช่น เบาหวาน ความดันข้ออักเสบ และระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
สำหรับการแก้ไขโรคอ้วนต้องเริ่มจากสาเหตุ โดยควบคุมปริมาณการกินอาหารให้ได้สัดส่วน และออกกำลังกายให้มากขึ้นสำหรับอาหารนั้นต้องกินอาหารให้ครบทุกมื้อ แต่ลดพลังงานลงวันละ 500 แคลอรี่ ก็จะสามารถลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละ 1/2 กิโลกรัม เลยทีเดียว
โรคไต - เน้นโปรตีนต่ำ
ไต มีหน้าที่ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย และอาหารที่ทำให้ไตต้องทำงานหนักในการขับถ่ายของเสีย คือ โปรตีน ดังนั้นการรักษาด้วยอาหารคือช่วยให้ไตทำงานเบาลง ได้มีโอกาสพักหรือฟื้นตัว และช่วยลดการคั่งของของเสีย อาหารที่รับประทานจึงควรมีปริมาณโปรตีนน้อย แต่เป็นโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม เพื่อนำไปทดแทนเนื้อเยื่อต่าง ๆ ที่สูญเสียไป
สำหรับผู้ที่เป็นไตวายเรื้อรังมักจะมีระดับฟอสเฟตในเลือดสูง จึงต้องงดโปรตีนที่ทำมาจากนม ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ และไข่ เพราะมีปริมาณฟอสเฟตสูง
โรคความดันโลหิตสูง - ระวังเกลือ
โรคความดันโลหิตสูง เกิดจากแรงดันภายในหลอดเลือดแดงสูงตลอดเวลา โดย มีค่าความดันสูงกว่า 160/95 ซึ่งและมักมีมีภาวะแทรกซ้อน ตามมามากมาย เช่น หลอดเลือดแดงไม่แข็งแรง เลือดไปเลี้ยงไม่สะดวก และหากไปเกิดที่อวัยวะสำคัญ ก็จะส่งผลให้เกิดอันตรายหรือถึงแก่ชีวิตได้ สำหรับอาหารควรจำกัดอาหารที่มีเกลือหรือโซเดียมอยู่มากๆ เช่น น้ำปลา ซอสปรุงรสต่าง ๆ และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันมาก ซึ่งจะทำให้การควบคุมน้ำหนักเป็นไปได้ยาก ทำให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น