กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

ปวดต้นคอ

"ปวดต้นคอ" อาการปวดทั่วไปที่คุณอย่าเพิ่งวางใจ
เผยแพร่ครั้งแรก 21 มิ.ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 2023 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ปวดต้นคอ

อาการปวดต้นคอเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย และเกิดได้จากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การเคลื่อนไหวร่างกายที่ผิดๆ ความเสื่อมของอวัยวะบางส่วน รวมไปถึงการติดเชื้อบางชนิด จนทำให้เกิดความเจ็บปวดและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน

ลักษณะของอาการปวดต้นคอ

อาการปวดต้นคอ (Neck pain) เป็นอาการที่คุณจะรู้สึกปวดหรือเจ็บแปล๊บบริเวณต้นคอจนก่อให้เกิดความรำคาญ แต่ส่วนมากอาการปวดต้นคอที่พบได้ทั่วไปคือ อาการปวดต้นคอแบบธรรมดา ไม่ได้ทำให้เกิดความเจ็บปวดร้ายแรง แต่จะทำให้หันศีรษะไม่สะดวก ผู้ที่เจ็บต้นคอบางรายอาจมีอาการเกร็งกระตุกร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะค่อยๆ หายไปเอง และไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างใด

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
กายภาพบำบัดและนวดเพื่อการรักษาวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 198 บาท ลดสูงสุด 92%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ เกิดขึ้นระหว่างที่ปวดต้นคอ ให้คุณรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อวินิจฉัยว่า สาเหตุอะไรกันแน่ที่ทำให้คุณปวดต้นคอและเกิดอาการดังกล่าวขึ้น เช่น 

  • รู้สึกชาที่ต้นคอ 
  • ต้นคอเกิดอาการเกร็งจนหันศีรษะไม่ได้เลย 
  • รู้สึกวิงเวียนศีรษะหรือเกิดอาการบ้านหมุน 
  • กลืนอาหารลำบาก 
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • ปวดชาลามไปถึงไหล่และแขน 
  • ต้นคอมีอาการบวมเกิดขึ้น 

สาเหตุของอาการปวดต้นคอ

  1. มีการเกร็งของกล้ามเนื้อ มักเกิดจากท่าทางหรือการเคลื่อนไหวที่ผิดๆ ในกิจวัตรประจำวัน เช่น การนั่งหรือนอนผิดท่า การก้มหน้าทำงานหรือเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน กล้ามเนื้อเกิดเกร็งกระตุกจากการออกกำลังกาย สาเหตุนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวดต้นคอในวัยรุ่นหนุ่มสาวมากที่สุด
  2. มีการกดทับเส้นประสาทคอ มักพบในผู้สูงอายุเป็นส่วนมาก โดยมีสาเหตุมาจากกระดูกสันหลังเริ่มเสื่อมและขาดความยืดหยุ่น จนทำให้กระดูกแยกออกมาทับเส้นประสาท อาการที่เกิดขึ้นคือ ปวดและชาตามต้นคอลงมาถึงแขน และอาจมีอาการแขนอ่อนแรงด้วย
  3. กระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม โดยเฉพาะกระดูกสันหลังส่วนคอที่อยู่ใกล้เส้นประสาท จึงทำให้เกิดอาการปวดคอขึ้น แต่ในผู้ป่วยบางรายก็ไม่มีอาการใดๆ เกิดขึ้นเลย สาเหตุนี้มักพบในผู้สูงอายุเป็นส่วนมากเช่นกัน
  4. เอ็นและข้อต่อที่คอเกิดการบาดเจ็บเสียหาย สาเหตุนี้มักเกิดจากอุบัติเหตุ เช่น ศีรษะโดนกระชากอย่างแรง ทำให้ข้อต่อบริเวณคออักเสบ และเกิดอาอาการปวดต้นคออย่างรุนแรง
  5. การติดเชื้อ โรคติดเชื้อหลายชนิดทำให้เกิดต่อมน้ำเหลืองที่คอโตและอักเสบ จนส่งผลให้มีอาการปวดคอและปวดศีรษะได้ เช่น วัณโรค (Tuberculosisโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) โรคไขสันหลังอักเสบ (Transverse myelitis) 

การรักษาอาการปวดต้นคอ

  1. ใช้ยาบรรเทาอาการปวด โดยการให้ยาจะประเมินจากความรุนแรงของอาการเป็นหลัก หากมีอาการปวดต้นคอไม่รุนแรงมาก แพทย์ก็อาจให้ผู้ป่วยบรรเทาด้วยการรับประทานยาพาราเซตามอล (Paracetamol)

    แต่หากอาการปวดนั้นมีสาเหตุจากการอักเสบรุนแรง แพทย์ก็อาจให้ยาลดการอักเสบร่วมด้วย และหากผู้ป่วยมีอาการปวดเกร็งมากและรู้สึกตึงคอ แพทย์ก็อาจให้ยาโคเดอีน (Codeine) ร่วมกับยาคลายกล้ามเนื้อ แต่หากผู้ป่วยต้องการให้อาการปวดที่รุนแรงหายไวยิ่งขึ้น แพทย์ก็อาจใช้วิธีฉีดยาสเตียรอยด์ (Steroid) หรือ ยาชาเข้าไปตรงตำแหน่งใกล้กับรากประสาท

  2. ทำกายภาพบำบัดและการนวด ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการปวดรุนแรงจนขยับคอลำบาก การกระตุ้นกล้ามเนื้อโดยประคบร้อนหรือประคบเย็น การดึงคอ รวมไปถึงการบีบนวดที่ถูกวิธี ก็สามารถบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อคอได้ นอกจากนี้ คุณยังควรฝึกการบริหารกล้ามเนื้อคอให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดเรื้อรังด้วย
  3. ใส่เฝือกคอ เป็นวิธีการรักษาแบบชั่วคราวเพื่อช่วยพยุงคอ และป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนไหวส่วนคอมากเกินไป อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดได้ด้วย 
  4. การผ่าตัด เป็นวิธีรัษาที่มีความเสี่ยงและจะถูกเลือกใช้ก็ต่อเมื่อวิธีรักษาอื่นไม่ได้ผล หรือผู้ป่วยมีอาการปวดคอเรื้อรัง เนื่องจากกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท 

การป้องกันอาการปวดต้นคอ

วิธีป้องกันหลักๆ เพื่อไม่ให้เกิดอาการปวดต้นคอ มักจะเป็นการปรับเปลี่ยนท่าทางอิริยาบถต่างๆ ในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น

  • ควรหลีกเลี่ยงการนั่งหรือก้มในอิริยาบถเดิมนานๆ เช่น การนั่งทำงาน การเล่นโทรศัพท์ และหากจำเป็นก็ควรจัดท่าทางให้เหมาะสม โดยให้จอคอมพิวเตอร์ จอโทรทัศน์ หรือจอโทรศัพท์อยู่ในระดับสายตาที่พอดี เพื่อป้องกันอาการปวดเมื่อย
  • ควรเลือกความสูงของหมอนหนุนที่พอดี ไม่สูงหรือต่ำเกินไป และควรจัดท่านอนให้คออยู่ระดับเดียวกับศีรษะ จะช่วยป้องกันอาการคอเคล็ดและนอนตกหมอนได้
  • หลีกเลี่ยงการแบกของหนักไว้บนหลังและไหล่ เพราะจะทำให้กระดูกสันหลังเสื่อม และนอกจากอาการปวดคอที่จะเกิดขึ้นแล้ว คุณอาจมีอาการปวดหลังและไหล่ตามมาด้วย
  • หมั่นบริหารกล้ามเนื้อและข้อต่อบริเวณคอ สามารถทำได้โดยการขยับหมุนคอไปมา แต่ไม่ควรเคลื่อนไหวแรงและเร็วเกินไป

12 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
When Neck Pain Needs Immediate Attention. WebMD. (https://www.webmd.com/pain-management/neck-pain-immediate-attention)
Signs It's Time to See a Doctor for Neck or Back Pain. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/when-to-see-a-doctor-for-back-or-neck-pain-296746)
Neck Pain - familydoctor.org (https://familydoctor.org/symptom/neck-pain/)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป