อาการปวดหลังข้างขวา ปวดจี๊ดๆ ปวดร้าวลงขา สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยทั่วไปมักมีอาการปวดหลังส่วนล่าง และหายได้เองจากการพักผ่อนหรือการรับประทานยาแก้ปวด บ้างก็ไปนวดนัดษา แล้วอาการปวดหลังข้างขวาเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง อันตรายหรือไม่ มีวิธีการรักษาอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
สาเหตุของอาการปวดหลังข้างขวา
อาการปวดหลังข้างขวา สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจาก
ตรวจกระดูกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 534 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ เช่น อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้ท่าทางการนั่งที่ไม่ถูกต้อง นั่งหลังงอ ห่อไหล่ คอยื่นไปข้างหน้า บางคนก็นั่งไขว่ห้างเป็นประจำ หรือก้มยกของหนักๆเป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังข้างขวาได้
- การได้รับบาดเจ็บที่หลังส่วนล่าง จากอุบัติเหตุ หรือจากการเล่นกีฬา ที่ทำให้มีการกระแทกอย่างรุนแรง หรือถูกกระแทกต่อเนื่อง ทำให้กระดูกสันหลังเสื่อมได้เร็วขึ้น หรือเกิดจากการเอี้ยวตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้กล้ามเนื้อถูกกระชากกะทันหัน เกิดการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหลังได้
- ภาวะของกระดูกและกล้ามเนื้อ
- หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทที่บริเวณเอว (Lumbar Herniated Disc) เกิดจาก หมอนรองกระดูกระหว่างกระดูกสันหลังสองชิ้นอาจมีการเคลื่อนเกิดขึ้นที่บริเวณด้านขวาของกระดูกสันหลัง ทำให้หมอนรองกระดูกไปกดเบีบดเส้นประสาทบริเวณนั้น
- ข้อต่อกระดูกฟาเซ็ตเสื่อม (facet joint pain, osteoarthritis)
- โรคโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ (Spinal stenosis) คือ ภาวะที่มีการแคบลงของโพรงกระดูกสันหลัง จากการหนาตัวขึ้นของกระดูกหรือเส้นเอ็น ทำให้เส้นประสาทที่วิ่งอยู่ในโพรงกระดูกถูกบีบรัด ทำให้มีอาการปวดหลังข้างขวาได้
- โรคของข้อกระดูกเชิงกราน (Sacroiliac Joint Dysfunction)
- กระดูกสันหลังเคลื่อน เมื่อกระดูกสันหลังเสื่อม ทำให้กระดูกสันหลังสูญเสียความมั่นคง เกิดการเคลื่อนตัว ซึ่งหากเคลื่อนกดทับเส้นประสาทบริเวณนั้น ก็จะให้เกิดอาการปวดร้าว ชาและอ่อนแรงตามมาด้วยได้
- หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทที่บริเวณเอว (Lumbar Herniated Disc) เกิดจาก หมอนรองกระดูกระหว่างกระดูกสันหลังสองชิ้นอาจมีการเคลื่อนเกิดขึ้นที่บริเวณด้านขวาของกระดูกสันหลัง ทำให้หมอนรองกระดูกไปกดเบีบดเส้นประสาทบริเวณนั้น
- ความผิดปกติของกระดูกสันหลังแต่กำเนิด เช่น โพรงกระดูกสันหลังตีบแต่กำเนิด กระดูกสันหลังคด เป็นต้น
- โรคอื่นๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดร้าวมาที่หลังได้ เช่น โรคไต โรคเกี่ยวกับรังไข่และมดลูก โรคหลอดเลือดโป่งพองในช่องท้อง มะเร็งที่มีการกระจายมายังกระดูกสันหลัง ไส้ติ่งอักเสบ หรือการตั้งครรภ์ เป็นต้น ซึ่งอาการปวดหลังอาจเป็นส่วนหนึ่งของโรคเหล่านี้ แต่การวินิจฉัยยังต้องมีการตรวจร่างกายเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนั้น ยังมีสาเหตุของอาการปวดหลังข้างขวาที่พบได้น้อย ได้แก่
- การอักเสบของถุงน้ำดี (gallbladder inflammation) การอักเสบของถุงน้ำดี หรือถุงน้ำดีทำงานผิดปกติ จะมีอาการสำคัญ คือ อาหารไม่ย่อยอย่างรุนแรง โดยจะมีอาการมากหลังรับประทานอาหาร ถุงน้ำดีทำงานผิดปกติมักเป็นสาเหตุของอาการปวดช่องท้องบนด้านขวา และอาการปวดหลังด้านขวา
- ปัญหาที่ตับ (Liver problems) อาการปวดที่สัมพันธ์กับตับ อาจเกิดขึ้นจากภาวะตับอักเสบ (hepatitis) การเกิดฝีในตับ การเกิดพังผืดที่ตับ (โรคตับแข็ง) หรือตับโต หรือตับล้มเหลว
อาการของโรคตับนั้น ได้แก่ อาการปวดที่บริเวณช่องท้องบนด้านขวา และ/หรือ ที่บริเวณหลัง, อ่อนเพลีย, คลื่นไส้ หรือเบื่ออาหาร และอาการดีซ่าน ตัวเหลืองตาเหลือง แต่โดยทั่วไปโรคตับมักไม่เกิดในผู้ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยง
วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อมีอาการปวดหลังข้างขวา
- ปวดหลังข้างขวาที่ไม่มีอาการปวดร้าวลงขาร่วมด้วย
- พยายามนั่งหลังให้ตรง
- รับประทานยาแก้ปวด
- ประคบความร้อน
- ไม่อยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ
- ไม่ยกของหนัก
- ทำท่าบริหาร และออกกำลังกาย
- พักผ่อนให้เพียงพอ และหยุดการใช้งานชั่วคราว
- พยายามนั่งหลังให้ตรง
หากอาการปวดไม่ทุเลาลงภายใน 2 - 3 วัน หรือมีอาการรุนแรงมากขึ้น ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ เพื่อวางแนวทางในการรักษาต่อไป
- ปวดหลังข้างขวาที่มีอาการปวดร้าวลงขาร่วมด้วย
- พยายามนั่งหลังให้ตรง
- รับประทานยาแก้ปวด
- ไม่อยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ
- ไม่ยกของหนัก
- ทำท่าบริหารช่วยยืดกล้ามเนื้อ (หากทำท่าใดแล้วมีอาการปวดร้าวลงขามากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการทำท่านั้น)
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- พยายามนั่งหลังให้ตรง
หากอาการปวดไม่ทุเลาลงภายใน 2 - 3 วัน หรือมีอาการมากขึ้นจนไม่สามารถทนได้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการ และวางแนวทางการรักษาต่อไป
อาการปวดหลังที่ควรรีบมาพบแพทย์
- มีอาการปวดหลังเรื้อรังติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน
- มีอาการปวดร้าวลงไปบริเวณสะโพก ขา และเท้า
- มีอาการปวดอย่างรุนแรง และไม่ทุเลาลงหลังการพัก
- มีอาการปวดหลังการบาดเจ็บหรือการหกล้ม
- มีอาการปวดร่วมกับอาการต่อไปนี้
- มีปัญหาในการเดิน เช่น ทรงตัวได้ไม่ดี เดินลำบาก ขาแข็งเกร็ง
- ขาอ่อนแรง
- มีอาการชาบริเวณขา เท้า หรือรอบทวารหนัก
- มีปัญหาในการควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระ
- คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีไข้
- น้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีปัญหาในการเดิน เช่น ทรงตัวได้ไม่ดี เดินลำบาก ขาแข็งเกร็ง
วิธีการรักษา
การรักษาอาการปวดหลังข้างขวา ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้
- รักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด
- การรักษาแบบประคับประคอง เป็นการรักษาเริ่มต้น ได้แก่ การรับประทานยา การทำกายภาพบำบัด การนวดรักษา การพักผ่อน
- การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าโพรงกระดูกสันหลัง
- การรักษาแบบประคับประคอง เป็นการรักษาเริ่มต้น ได้แก่ การรับประทานยา การทำกายภาพบำบัด การนวดรักษา การพักผ่อน
- รักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดก็มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้และภาวะร่างกายของผู้ป่วย
จะเห็นได้ว่าอาการปวดหลังข้างขวาเกิดได้จากหลายสาเหตุ และสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากการพฤติกรรมของเราเอง ดังนั้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ก็เป็นการดูแลตนเองวิธีหนึ่งที่จำช่วยให้ไม่เกิดการเป็นซ้ำของอาการได้ และถ้าหากอาการไม่ดีขึ้นเลย หลังจากพักและปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว แนะนำให้พบแพทย์สาเหตุที่แท้จริง เพื่อจะได้รักษาได้ตรงอาการ และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ดูแพ็กเกจฝากครรภ์ และคลอดบุตร เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android