ระดับโซเดียมในเลือดต่ำคืออะไร?

เผยแพร่ครั้งแรก 9 ต.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ระดับโซเดียมในเลือดต่ำคืออะไร?

โซเดียมเป็นเกลือแร่ที่ช่วยคงสมดุลของน้ำภายในและรอบๆ เซลล์, ช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นประสาททำงานได้เป็นปกติและยังช่วยคงระดับของความดันโลหิตให้เหมาะสม

การมีโซเดียมในเลือดต่ำนั้นเกิดจากการที่น้ำและโซเดียมนั้นไม่สมดุลกัน คืออาจจะเกิดจากการที่มีน้ำมากเกินไปหรือมีโซเดียมน้อยเกินไป

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

โดยทั่วไป ระดับโซเดียมในเลือดนั้นควรอยู่ระหว่าง 135-145 mEq/L ภาวะโซเดียมในเลือดต่ำนั้นจึงเป็นการที่มีระดับโซเดียมในเลือดต่ำกว่า 135 mEq/L

อาการ

อาการของการมีโซเดียมในเลือดต่ำนั้นขึ้นกับแต่ละบุคคล หากระดับโซเดียมในเลือดนั้นค่อยๆ ลดลง อาจจะไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้ ในขณะที่หากลดลงอย่างรวดเร็ว อาจจะมีอาการที่รุนแรงมากกว่า

การสูญเสียโซเดียมอย่างรวดเร็วนั้นถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ สามารถทำให้หมดสติ ชักและไม่รู้สึกตัวได้

อาการที่พบได้บ่อยของการมีโซเดียมในเลือดต่ำประกอบด้วย

สาเหตุ

มีหลายปัจจัยที่สามารถทำให้ระดับโซเดียมในเลือดต่ำ โดยอาจจะเกิดจากการที่ร่างกายสูญเสียน้ำและแร่ธาตุมากเกินไป หรืออาจจะเป็นอาการของโรคบางโณคได้

สาเหตุที่ทำให้ระดับโซเดียมในเลือดต่ำประกอบด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

  • อาเจียนหรือท้องเสียรุนแรง
  • รับประทานยาบางชนิดเช่น ยาต้านเศร้าและยาแก้ปวด
  • ทานยาขับปัสสาวะ
  • ดื่มน้ำมากเกินไปในระหว่างที่ออกกำลังกาย (แต่พบได้น้อยมาก)
  • ขาดน้ำ
  • โรตไตหรือไตวาย
  • โรคตับ
  • มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจเช่นหัวใจวาย
  • มีความผิดปกติที่ต่อมหมวกไตเช่นโรค Addison’s ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมสมดุลระหว่างโซเดียม โพแทสเซียมและน้ำในร่างกายของต่อมหมวกไต
  • ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ
  • ภาวะกระหายน้ำมาก
  • การใช้ยาเสพติด
  • Syndrome of inappropriate antidiuretic hormone (SIADH) ซึ่งทำให้ร่างกายนั้นมีสารน้ำในตัวเพิ่มขึ้น
  • โรคเบาจืด ซึ่งเป็นโรคที่ร่างกายนั้นไม่มีการสร้างฮอร์โมนที่ขับน้ำออกจากร่างกาย
  • Cushing’s syndrome เกิดจากการที่มีระดับ cortisol สูง

ปัจจัยเสี่ยง

มีหลายปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีระดับโซเดียมในเลือดต่ำ ซึ่งประกอบไปด้วย

  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น
  • การใช้ยาขับปัสสาวะ
  • การใช้ยาต้านเศร้า
  • การเป็นนักกีฬา
  • การอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศร้อน
  • การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ
  • มีโรคหัวใจวาย โรคไต SIADH หรือโรคอื่นๆ

หากคุณมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ คุณอาจจะต้องระมัดระวังในการรับประทานเกลือแร่และน้ำมากขึ้น

การวินิจฉัย

ภาวะนี้สามารถวินิจฉัยได้จากการตรวจเลือดซึ่งรวมอยู่ในการตรวจวัดระดับเกลือแร่อื่นๆ และสามารถช่วยวินิจฉัยในผู้ป่วยที่อาจจะไม่มีอาการได้

หากคุณมีระดับโซเดียมที่ผิดปกติ แพทย์จะมีการสั่งตรวจปัสสาวะเพิ่มเติมเพื่อดูปริมาณโซเดียมในปัสสาวะ การตรวจนี้จะช่วยระบุสาเหตุที่ทำให้ระดับโซเดียมในเลือดต่ำ

หากระดับโซเดียมในเลือดนั้นต่ำแต่ในปัสสาวะนั้นสูงแสดงว่าร่างกายกำลังขับโซเดียมออกมามากเกินไป

หากมีระดับโซเดียมในเลือดและปัสสาวะต่ำ แสดงว่าร่างกายได้รับโซเดียมใม่เพียงพอ หรืออาจจะหมายความว่ามีน้ำอยู่ภายในร่างกายมากเกินไป

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

การรักษา

การรักษานั้นจะขึ้นกับสาเหตุ ซึ่งอาจจะประกอบด้วย

  • การลดปริมาณสารน้ำที่รับประทาน
  • การปรับขนาดยาขับปัสสาวะที่รับประทาน
  • การรับประทานยาเพื่อรักษาอาการเช่นปวดหัว คลื่นไส้และชัก
  • รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ
  • การให้สารน้ำที่มีโซเดียมทางเส้นเลือดดำ

การป้องกัน

การดูแลให้มีสารน้ำและเกลือแร่ในร่างกายในระดับที่สมดุลนั้นสามารถช่วยป้องกันการมีระดับโซเดียมต่ำได้

หากคุณเป็นนักกีฬา อย่าลืมดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมระหว่างที่ออกกำลังกาย และอาจจะต้องเลือกรับประทานเครื่องดื่มเกลือแร่ ซึ่งมีโซเดียมอยู่ภายใน เครื่องดื่มนี้จะช่วยชดเชยโซเดียมที่สูญเสียไปผ่านทางเหงื่อ เครื่องดื่มเกลือแร่นี้อาจจะดีหากคุณมีการสูญเสียสารน้ำปริมาณมากผ่านการอาเจียนหรือท้องเสีย

ในเวลาปกติ ผู้หญิงควรจะดื่มน้ำให้ได้วันละ 2.2 ลิตรและผู้ชายควรดื่มน้ำ 3 ลิตรต่อวัน เวลาที่คุณดื่มน้ำเพียงพอ ปัสสาวะของคุณจะมีสีเหลืองจางหรือใสและไม่รู้สึกหิวน้ำ

คุณจำเป็นต้องดื่มน้ำเพิ่มขึ้นหาก

  • อุณหภูมิสูงขึ้น
  • อาศัยอยู่ในที่สูง
  • ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • มีอาการอาเจียน
  • มีอาการท้องเสีย
  • มีไข้
  • คุณไม่ควรดื่มน้ำมากกว่า 1 ลิตรต่อชั่วโมง และอย่าลืมว่าไม่สามารถดื่มน้ำจำนวนมากเร็วเกินไปเช่นกัน

ภาวะโซเดียมในเลือดสูง

ภาวะโซเดียมในเลือดสูงนั้นพบได้น้อย โดยจะเกิดเมื่อผู้ป่วยได้รับสารน้ำไม่เพียงพอจากการที่ไม่มีน้ำดื่มหรือกลไกเกี่ยวกับการกระหายน้ำนั้นผิดปกติ และมีส่วนหนึ่งที่เกิดจากการเป็นโรคเบาจืด ภาวะนี้จะเกิดเมื่อมีระดับโซเดียมในเลือดสูงกว่า 145 mEq/L

การมีระดับโซเดียมในเลือดสูงนั้นสามารถทำให้เกิดอาการต่อไปนี้

  • สับสน
  • กล้ามเนื้อและระบบประสาทตื่นตัวผิดปกติ
  • ระบบการตอบสนองของร่างกายเร็วกว่าปกติ
  • ชัก หมดสติ

2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
ศุภกร พันธุกานนท์, เอกยุทธ ศรีเพชร, การศึกษาอุบัติการณ์ของการเกิดและการแก้ไขภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ ในผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัดกลุ่มพลาตินัม (https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/service-research-special-abstract.php?num=63&year=2553)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)