ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ข้อต่อ (Joints) คือบริเวณที่กระดูก 2 ชิ้นเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ข้อต่อมีไว้เพื่อช่วยให้กระดูกแต่ละชิ้นสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว ประกอบด้วย ข้อไหล่ ข้อสะโพก ข้อศอก และข้อเข่า
อาการปวดข้อเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป ซึ่งผู้ป่วยจะรู้สึกปวดหรือเจ็บบริเวณข้อต่อที่มีอาการตามปกติแล้วไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เว้นแต่อาการปวดข้อนั้นเป็นผลมาจากโรคหรือการบาดเจ็บ
สาเหตุของอาการปวดข้อ
มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดข้อขึ้น เช่น
- ข้ออักเสบ (Arthritis) : เป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการปวดข้อที่พบบ่อยที่สุด แบ่งออกเป็น 2 โรคหลัก คือ โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis (OA)) และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis (RA))
- โรคอื่นๆ เช่น
- การอักเสบของถุงข้อต่อ (Bursitis)
- โรคลูปัส (Lupus)
- โรคเกาต์ (Gout)
- การติดเชื้อบางชนิด เช่น คางทูม (Mumps) ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) และไวรัสตับอักเสบ (Hepatitis)
- กระดูกอ่อนสะบ้าเสื่อม (Chondromalacia of the patella)
- การบาดเจ็บที่ข้อ และการใช้งานข้อมากเกินไป
- เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ (Tendinitis)
- การติดเชื้อที่กระดูก
- มะเร็ง (Cancer)
- โรคไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia)
- กระดูกพรุน (Osteoporosis)
- โรคซาร์คอยด์ (Sarcoidosis)
- โรคกระดูกอ่อนในเด็ก (Rickets)
เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์?
ควรไปพบแพทย์ถ้าบริเวณรอบข้อต่อมีอาการบวม แดง กดเจ็บ หรือร้อนเมื่อสัมผัส รวมถึงอาการปวดข้อนาน 3 วันขึ้นไปแล้วไม่ดีขึ้น หรือมีไข้ โดยไม่ได้เกิดจากการเป็นไข้หวัดใหญ่ และควรรีบไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการดังต่อไปนี้
- ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้ออย่างรุนแรง
- ข้อมีลักษณะผิดรูป
- มีการบวมของข้อเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน
- มีอาการข้อติดไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
- มีอาการปวดข้ออย่างรุนแรง
การวินิจฉัยอาการปวดข้อ
อาจต้องมีการตรวจเอกซเรย์ (X-ray) บริเวณข้อ เพื่อดูว่าข้อถูกทำลายหรือไม่ หากแพทย์สงสัยว่าเกิดจากสาเหตุอื่น แพทย์อาจขอตรวจเลือดเพื่อดูว่าเป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน (Autoimmune Disorders) หรือไม่ โดยอาจทำการตรวจ Sedimentation Rate เพื่อวัดระดับของการอักเสบในร่างกาย หรือตรวจค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count) ร่วมด้วย
การรักษาอาการปวดข้อ
หากมีอาการไม่รุนแรงมาก ผู้ป่วยสามารถรักษาอาการปวดข้อด้วยตัวเองที่บ้านได้ ด้วยวิธีการดังนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ใช้ยาบรรเทาปวดชนิดทาบนผิวหนัง หรือรับประทานยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เพื่อบรรเทาอาการปวด บวม และอักเสบ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นการออกกำลังกายความหนักปานกลาง
- ยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนการออกกำลังกาย เพื่อให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี เพื่อลดแรงกระทำที่ข้อต่อ
- ถ้าอาการปวดที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากข้ออักเสบ อาจหาซื้อยาแก้ปวดทั่วไปรับประทานเองเป็นครั้งคราวได้
แต่หากมีอาการรุนแรง หรือรักษาด้วยตัวเองแล้วยังไม่ดีขึ้น แพทย์อาจรักษาด้วยการเจาะดูดของเหลวที่สะสมบริเวณข้อออกมา หรืออาจแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม
ที่มาของข้อมูล
Krista O'Connell, What Causes Joint Pain? (https://www.healthline.com/symptom/joint-pain), March 8, 2016.